ผู้ประกันตน เช็ก ขั้นตอนลงทะเบียนรับเงิน "เงินสงเคราะห์บุตร" 1,000 บาท ครบจบ

ผู้ประกันตน เช็ก ขั้นตอนลงทะเบียนรับเงิน "เงินสงเคราะห์บุตร" 1,000 บาท ครบจบ

ผู้ประกันตน ม.33 และ ม.39 เช็ก ขั้นตอนลงทะเบียนรับเงิน "เงินสงเคราะห์บุตร" 1,000 บาท ผ่านเว็บไซต์ www.sso.go.th - ยื่นด้วยตัวเอง หลักฐานที่ต้องใช้ ผู้ประกันตนชาย ขอรับสิทธิ์แทนภรรยาที่ไม่ใช่ผู้ประกันตนได้

อัปเดต ขั้นตอนลงทะเบียนรับเงิน "เงินสงเคราะห์บุตร" 1,000 บาท ล่าสุดวันนี้ (3 ม.ค. 68) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรของผู้ประกันตน เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 67 เป็น 1,000 บาทต่อเดือนต่อบุตร 1 คน จากเดิม 800 บาท ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 68 เป็นต้นไป

 

ผู้ประกันตนที่มีบุตรสามารถยื่นขอรับเงินสงเคราะห์บุตร 1,000 บาท ได้ ซึ่งจะโอนเข้าบัญชีผ่านระบบพร้อมเพย์ ทุกๆ สิ้นเดือน โดยมีรายละเอียดเงื่อนไข ดังนี้

  • ต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือ มาตรา 39
  • จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน สิทธิที่ท่านจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 800 บาทต่อบุตรหนึ่งคน
  • ต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้น บุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น
  • อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน เว้นแต่ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย ในขณะที่บุตรมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์

ขั้นตอนยื่นขอรับเงินสงเคราะห์บุตร ผ่านเว็บไซต์ประกันสังคม มี 6 ขั้นตอน ดังนี้

1. เข้าเว็บไซต์ประกันสังคม www.sso.go.th

2. ใส่รหัสเพื่อเข้าสู่ระบบ/หรือสมัครสมาชิก (หากยังไม่เคยสมัครสมาชิก)

  • กรอกรหัสผู้ใช้งาน (เลขบัตรประจำตัวประชาชน)
  • กรอกรหัสผ่านผู้ใช้งาน

3. หลังเข้าระบบสำเร็จ ให้ผู้ประกันตนเลือกไปที่เมนู ยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนด้วยตนเอง (e-Self Service)

4. จากนั้นให้ผู้ประกันตนเลือกไปที่เมนู "ขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุน"

5. จากนั้นผู้ประกันตนเลือก "สงเคราะห์บุตร"

6. ให้ผู้ประกันตนกรอกข้อมูลตามที่ระบบระบุไว้ให้ถูกต้องครบถ้วน รวมถึงอัปโหลดเอกสารลงในระบบได้เลย

 

ขั้นตอนการยื่นด้วยตัวเอง ที่สำนักงานประกันสังคม

1. ผู้ประกันตนต้องกรอกแบบ สปส.2-01 พร้อมลงลายมือชื่อ และนำมายื่นที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขา หรือยื่นขอรับทางไปรษณีย์โดยมีหลักฐานครบถ้วน (กรณีผู้ประกันตนยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตร 3 คน ในคราวเดียวกัน สามารถใช้แบบคำขอฯ ชุดเดียวกันได้)

2. เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐานและพิจารณาอนุมัติ

3. สำนักงานประกันสังคมมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา

4. พิจารณาสั่งจ่าย จ่ายเป็นรายเดือน โดยโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทน

หลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตร

1. แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส. 2-01)

2. กรณี ผู้ประกันตนเคยยื่นใช้สิทธิแล้ว และประสงค์จะใช้สิทธิสำหรับบุตรคนเดิม ให้ใช้หนังสือขอใช้สิทธิบุตรคนเดิมกรณีกลับเข้าเป็นผู้ประกันตน จำนวน 1 ฉบับ

3. กรณีผู้ประกันตนหญิงใช้สิทธิ

3.1 สำเนาสูติบัตรบุตร (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วย) จำนวน 1 ชุด

4. กรณีผู้ประกันตนชายใช้สิทธิ

4.1 สำเนาทะเบียนสมรส หรือสำเนาทะเบียนหย่าพร้อมบันทึกแนบท้ายของผู้ประกันตนหรือสำเนาทะเบียนรับรองบุตร หรือสำเนาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 1 ชุด

4.2 สำเนาสูติบัตรบุตร (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วย จำนวน 1 ชุด)

5. กรณีเปลี่ยนชื่อ ชื่อ-สกุล ให้แนบสำเนาเอกสารใบเปลี่ยนชื่อ ชื่อ-สกุลด้วย จำนวน 1 ชุด

6. กรณีผู้ประกันตนต่างชาติขอรับประโยชน์ทดแทนให้ใช้สำเนาบัตรประกันสังคม และสำเนาหนังสือเดือนทาง (passport) หรือสำเนาหนังสือเดินทางชั่วคราวหรือเอกสารรับรองบุคคลที่ทางราชการออกให้ จำนวน 1ชุด

7. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกที่มีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ยื่นคำขอ จำนวน 1 ฉบับ

8. เอกสารประกอบการยื่นคำขอฯ ที่เป็นสำเนาให้รับรองความถูกต้องของสำเนาทุกฉบับ และแสดงเอกสารที่เป็นต้นฉบับเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ กรณี เอกสารหลักฐานสำคัญต่อการพิจารณาเป็นภาษาต่างประเทศให้จัดทำคำแปลเป็นภาษาไทยและรับรองความถูกต้องให้ครบถ้วน

9. ยื่นได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขาที่สะดวก (ยกเว้นสำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข)

ทั้งนี้ ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 สามารถยื่นเรื่องรับสิทธิภายในระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่มีสิทธิ และได้รับถึงเมื่อบุตรอายุ 6 ปีบริบูรณ์เท่านั้น โดยต้องส่งเงินสมทบไม่ต่ำกว่า 12 เดือน ตลอดระยะเวลา 36 เดือนก่อนคลอด จึงจะได้รับสิทธิ

กรณี ผู้ประกันตนชายมาตรา 33 และ 39 ประกันสังคมให้สิทธิ รับสิทธิประโยชน์เงินสงเคราะห์บุตรแทนภรรยาที่ไม่ใช่ผู้ประกันตน โดยคุณพ่อที่จดทะเบียนสมรสกับภรรยา หรือจดทะเบียนรับรองบุตรว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย และจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน สามารถขอรับเงินสงเคราะห์บุตร 1,000 บาทได้ ตั้งแต่บุตรแรกเกิด จนถึงอายุ 6 ปีบริบูรณ์

หลักเกณฑ์และเงื่อนไข การ "หมดสิทธิ" รับเงินสงเคราะห์บุตร

  • บุตรอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์
  • ตัวบุตรเสียชีวิต
  • ได้ยกบุตรให้เป็นบุตรบุญธรรมของคนอื่น
  • สิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน

หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "ประกันสังคม" ได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน (ตลอด 24 ชั่วโมง)