ภัย! หลอกอ้างส่งของผิดกฎหมาย ขู่โอนเงินตรวจสอบสูญเงินแสน
สืบนครบาลรวบบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจภูเก็ต อ้างว่ามีส่งของผิดกฎหมายตกค้าง ให้โอนเงินตรวจสอบ สูญเงินกว่า 2 แสน
กรณีตำรวจสืบนครบาลรวบบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่ามีส่งของผิดกฎหมายตกค้าง ให้โอนเงินตรวจสอบ สูญเงินกว่า 2 แสน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 สืบนครบาล จับกุมตัว น.ส.มณีรัตน์ (นามสมมติ) อายุ 39 ปี ผู้ต้องหามีหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 703/2567 ลงวันที่ 6 กันยายน 2567
โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน มิได้กระทำต่อประชาชน แต่เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
จับกุมบริเวณหน้าอพาร์ทเม้นท์ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
กลลวงหลอกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเป็นตำรวจ อ้างมีส่งของผิดกฎหมายตกค้าง ให้โอนเงินตรวจสอบ
พฤติการณ์การกระทำความผิด ได้มีผู้เสียหายเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนแจ้งว่า ขณะอยู่บ้านพักอาศัย ได้มีหมายเลขโทรศัพท์โทรเข้ามาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่ง DHL
- โทรแจ้งกับผู้เสียหายว่ามีพัสดุ โดนตีกลับมา ประเทศจีน อ้างชื่อผู้แจ้ง และแนะนำตัว เป็นสิ่งผิดกฎหมาย อยู่ในพัสดุ
- บอกว่าไม่เคยส่ง แต่ถูกยืนยันว่า เบอร์โทรกับชื่อสกุลของผู้แจ้ง จึงได้ถามว่าสิ่งของผิดกฎหมายอะไร อ้างว่า มีหนังสือเดินทางปลอม จำนวน 10 เล่ม , ATM จำนวน 8 ใบ เสื้อผ้า 5 ชุด และนำให้แจ้งความ ที่ สภ.ภูเก็ต
- โอนสายให้พูดคุยกับอ้างเป็นตำรวจ และเพิ่มไอดีไลน์ สภ.ภูเก็ต ขอรายละเอียดชื่อบัตรประชาชน ที่อยู่ แล้วบอกว่า ผู้แจ้งเกี่ยวกับฟอกเงิน มูลค่า 8 ล้าน โดยใช้บัตรประชาชน เปิดบัญชี ชื่อของผู้แจ้ง เปิดบัญชี ธ.กรุงไทย บอกว่าทำความผิด แอบฟอกเงิน
- ให้โอนเงินที่มีอยู่ในบัญชีของผู้แจ้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ปปง. ทำการตรวจสอบ ทุกบัญชี
- ให้โอนเงินไปที่ บัญชี ธนาคารกสิกรไทย ชื่อ มณีรัตน์
- ทำรายการโอนเงินไปยังยัญชี ดังกล่าว จำนวน 4 ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ 1 จำนวนเงิน 143,058.78 บาท ครั้งที่ 2 จำนวนเงิน 55,000 บาท ครั้งที่ 3 จำนวนเงิน 55,000 บาท ครั้งที่ 4 จำนวนเงิน 24,000 บาท เวลา10.44 น. และผู้แจ้งจึงได้ใช้แอปฯ ธนาคารโอนไปยังบัญชีดังกล่าว จำนวนมากกว่า 2 แสนบาท
- หลังจากนั้นให้โอนเงินอีก แต่ผู้แจ้งไม่มีเงิน เชื่อว่าถูกหลอกลวง เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฎิเสธ จากนั้นจึงได้ทำบันทึกจับกุมและนำผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ขอฝากเตือนประชาชนว่า สถานการณ์ปัจจุบัน คนไทยมีสถิติการสั่งซื้อของออนไลน์มากขึ้น และใช้บริการขนส่งเอกชน
- มิจฉาชีพจึงได้อาศัยช่องโหว่นี้รวมตัวกันเป็นกลุ่มขึ้นมา
- ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ของผู้ให้บริการขนส่ง
- รวมถึงปลอมเป็นเจ้าหน้าที่รัฐต่าง ๆ ในการหลอกลวงเราว่ามีพัสดุตกค้าง ถูกตีกลับ และในกล่องพัสดุนั้นมีสิ่งของผิดกฎหมายบรรจุอยู่
- สุดท้ายหลอกให้เราเสียค่าปรับ โดยโอนเงินไปยังบัญชีของมิจฉาชีพนี้
- เมื่อรู้ตัวอีกทีก็สูญเงินไปหลายบาทแล้ว
- วิธีหยุดยั้งมิจฉาชีพ ให้คุณขอเบอร์ติดต่อกลับของมิจฉาชีพ หาเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยงานราชการที่มิจฉาชีพอ้างถึง และสอบถามไปที่หน่วยงานนั้นๆ
- หากทำตามขั้นตอนแรก มิจฉาชีพอาจวางสายใส่ เพราะคิดว่าคุณรู้ทันกลลวง
- สุดท้ายหากท่านตกเป็นเหยื่อให้รีบโทรแจ้ง 1441
.