อัปเดต "มหกรรมสุขเต็มสิบ" งานวิ่ง 2568 บันทึกประวัติศาสตร์ "สะพานทศมราชัน"
อัปเดต "งานวิ่ง 2568" กทพ. ชวนร่วม "มหกรรมสุขเต็มสิบ" พร้อมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง บันทึกประวัติศาสตร์ ครั้งแรกและครั้งเดียวบน "สะพานทศมราชัน" 26 ม.ค.นี้
อัปเดต "งานวิ่ง 2568" งานวิ่งบันทึกประวัติศาสตร์ ล่าสุด การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เตรียมจัดงาน "มหกรรมสุขเต็มสิบ" เพื่อเฉลิมฉลองการเปิด "สะพานทศมราชัน" ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมระหว่างวันที่ 10-19 มกราคม 2568 เวลา 16.00 - 22.00 น.
พร้อมเชิญชวนประชาชนเข้าร่วม กิจกรรมเดิน-วิ่ง สร้างประวัติศาสตร์ สะพานทศมราชัน 2568 เพื่อร่วมเป็นหนึ่งของการแสดงพลังความสามัคคี ในวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568 และสร้างความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิตบนสะพานแห่งความภาคภูมิใจของชาติ
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า กทพ. ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงสุด จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดสะพานทศมราชัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความปลาบปลื้มแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า ในพระมหากรุณาธิคุณครั้งนี้
และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและสร้างประวัติศาสตร์ก่อนการเปิดใช้สะพานทศมราชัน กทพ. จึงมีการจัดงาน "มหกรรมสุขเต็มสิบ" ระหว่างวันที่ 10-19 มกราคม 2568 เวลา 16.00 - 22.00 น. เป็นเวลา 10 วัน โดยจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมสะพานทศมราชัน พร้อมถ่ายภาพและเลือกชมสินค้า OTOP จากชุมชน ภายในงาน ซึ่งได้รวมร้านค้าจากชุมชนและพันธมิตรกว่า 50 ร้านค้า
อีกทั้ง กทพ. ขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน กิจกรรมเดิน-วิ่ง สร้างประวัติศาสตร์ ในวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568 บนสะพานทศมราชัน นับเป็นการจัดงานครั้งยิ่งใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะเปิดให้ใช้สะพานทศมราชันได้จริงในปลายเดือนมกราคมนี้
"มหกรรมสุขเต็มสิบ" จะเป็นช่วงเวลาที่คนไทยทุกคนได้เข้าถึงและเข้าชมสะพานทศมราชันในมุมมองที่ไม่เคยมีมาก่อน กิจกรรมนี้ไม่เพียงเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เดินชม ถ่ายภาพและสัมผัสกับความงดงามของสะพานเท่านั้น แต่ยังเป็นการรวมพลังของความสามัคคีผ่านกิจกรรมเดิน-วิ่ง และการร่วมสร้างประวัติศาสตร์ไปพร้อมกัน
นายชาตรี ตันศิริ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและบำรุงรักษา) กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดสะพานทศมราชันถือเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับคนไทยทุกคน ซึ่งจะช่วยเสริมความสมบูรณ์ให้กับโครงข่ายทางพิเศษในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วยเพิ่มทางเลือกในการเดินทางและขนส่งสินค้าอย่างรวดเร็ว และเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งสะพานแห่งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ กทพ. ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย แต่ยังได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันด้วยเทคโนโลยีการก่อสร้างขั้นสูงสามารถรองรับการจราจรได้ถึง 8 ช่องจราจร พร้อมโครงสร้างที่แข็งแรงรองรับแรงลมได้ถึง 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลก
สำหรับ "สะพานทศมราชัน" เป็นสะพานคู่ขนานแห่งแรกของประเทศไทย ที่เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ และพื้นที่โดยรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเป็นโครงการฯที่ กทพ. เชื่อว่าสะพานแห่งนี้จะไม่เพียงเป็นโครงสร้างสำคัญ แต่ยังกลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่อีกด้วย
การเปิดใช้สะพานทศมราชัน ประชาชนสามารถเชื่อมต่อการเดินทางได้ดังนี้
- ทิศทางขาเข้ากรุงเทพฯ สามารถใช้ทางขึ้นบริเวณด่านฯ สุขสวัสดิ์ ถนนสุขสวัสดิ์ เพื่อใช้งานสะพาน โดยสามารถวิ่งเข้าสู่ทางพิเศษเฉลิมมหานคร มุ่งหน้าบางนา - ดินแดง และทางพิเศษศรีรัช มุ่งหน้าแจ้งวัฒนะ - ถนนพระราม 9 บริเวณทางแยกต่างระดับบางโคล่
- ทิศทางขาออกกรุงเทพฯ สามารถใช้ทางพิเศษเฉลิมมหานครและทางพิเศษศรีรัช ผ่านจุดเชื่อมต่อเข้ามาที่สะพานฯ บริเวณทางแยกต่างระดับบางโคล่ และลงที่ทางลง บริเวณด่านฯ สุขสวัสดิ์ ไปเพื่อถนนพระรามที่ 2 ได้
มหกรรมสุขเต็มสิบ ผู้เข้าร่วมงานจะพบกับกิจกรรมพิเศษมากมาย อาทิ การเดินชมสะพาน ซึ่งเป็นโอกาสพิเศษครั้งแรกและครั้งเดียวที่ได้สัมผัสสะพานแห่งนี้ก่อนเปิดใช้งานจริง และยังสามารถเลือกช้อปสินค้าชุมชนในบรรยากาศสุดพิเศษ โดยจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมสะพาน ระหว่างวันที่ 10-19 มกราคม 2568 เวลา 16.00 - 22.00 น. โดยขอแนะนำให้ประชาชนเดินทางโดยรถสาธารณะ พร้อมลงทะเบียนก่อนขึ้นสะพาน ณ บริเวณทางเข้า-ออก พื้นที่ใต้ทางพิเศษบริเวณทางแยกต่างระดับบางโคล่ ภายในงานได้รวมร้านค้าจากชุมชนและพันธมิตรทั้งหมดกว่า 50 ร้านค้า ให้ผู้ร่วมงานได้เลือกซื้อและสนับสนุนสินค้าไทยและสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการชุมชนอีกด้วย
กิจกรรมเดิน-วิ่ง สร้างประวัติศาสตร์ บน "สะพานทศมราชัน" จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568 นี้ เปิดให้ขึ้นสะพานตั้งแต่เวลา 03.00 น. และเริ่มปล่อยตัวนักวิ่งเวลา 05.00 น. (ค่าสมัคร 499 บาท) โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2568
ทั้งนี้ ผู้สมัคร 10,010 คนแรก จะได้รับเสื้อ Finisher และ Top 100 ที่เข้าเส้นชัย จะได้รับเหรียญที่ระลึก ปี 2530 ปีที่เปิดสะพานพระราม 9 ทันทีหลังเข้าเส้นชัย สำหรับผู้ที่สมัครหลังจากนั้น ของที่ระลึก จะจัดส่งถึงบ้านภายใน 30 วัน หลังจบงาน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครร่วมกิจกรรมเดิน-วิ่ง ได้ที่ : www.thai.run และ EXAT Call Center โทร 1543 กด 7 หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.exat.co.th