เงินหมุนเวียน 2000 ล้าน จับขบวนการหลอกแรงงานต่างด้าว เปิดบัญชีม้า
จับขบวนการหลอกแรงงานต่างด้าว เปิดบัญชีม้า พบเงินหมุนเวียนรวมกว่า 2000 ล้าน เหยื่อร้องทูตเมียนมาขอความเป็นธรรม
กรณีตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับขบวนการหลอกแรงงานต่างด้าว เปิดบัญชีม้า พบเงินหมุนเวียนรวมกว่า 2,000 ล้าน เหยื่อร้องทูตเมียนมาขอความเป็นธรรม
ตำรวจสอบสวนกลาง กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันจับกุม นายชิติสรรค์ (นามสมมติ) ในความผิดฐาน “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
สถานที่จับกุม บริเวณริมคลอง ม.14 ต.วังน้ำเขียว อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
สืบเนื่องจาก เมื่อ พ.ศ.2567 แรงงานชาวเมียนมา จำนวน 54 ราย เข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีมีกลุ่มบุคคลชาวไทยร่วมกับชาวเมียนมาใช้กลอุบายหลอกลวง รับสมัครแรงงานต่างด้าวเข้าทำงาน
โดยหลอกให้แรงงานต่างด้าวเปิดบัญชีธนาคารฯ โดยอ้างว่าจะนำบัญชีธนาคารไปใช้เพื่อไว้จ่ายเงินเดือน แต่เมื่อเปิดบัญชีแล้ว ปรากฎว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้นำเอาบัญชีธนาคารของแรงงานชาวเมียนมาไปใช้เป็นบัญชีม้า
ขบวนการนี้ จะมีชาวต่างชาติทำหน้าที่เป็นนายหน้าชาวเมียนมาอยู่ในประเทศไทย คอยประสานงานชักชวนให้ชาวเมียนมามาทำงานโดยมีการเปิดบริษัทรับจัดหาแรงงานต่างด้าวมาทำงานในประเทศไทยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
เมื่อแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศไทยแล้ว จะมีนายชิติสรรค์ฯ ผู้ต้องหาเป็นผู้พาไปเปิดบัญชีธนาคาร โดยอ้างว่าจะนำบัญชีธนาคารดังกล่าว ไปใช้รับเงินเดือนจากการทำงาน และจัดหาซิมโทรศัพท์ให้แรงงานต่างด้าวลงทะเบียนเพื่อนำมาผูกกับบัญชีธนาคาร แต่เมื่อแรงงานต่างด้าวเปิดบัญชีธนาคารและลงทะเบียนซิมการ์ดเสร็จ แรงงานที่ถูกหลอกก็จะถูกทิ้งลอยแพ
จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาก็จะนำบัญชีธนาคารพร้อมซิมการ์ดไปขายให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ นำไปใช้ในธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น
- หลอกขายสินค้าออนไลน์
- การพนันออนไลน์
- แก๊งคอลเซ็นเตอร์
ต่อมาเริ่มมีประชาชนตกเป็นเหยื่อถูกหลอกให้โอนเงินไปที่บัญชีม้าของแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับเจ้าของบัญชีธนาคาร
ทำให้กลุ่มแรงงานต่างด้าวที่เป็นเจ้าของบัญชีม้าถูกจับกุมดำเนินคดีไปหลายราย
กลุ่มแรงงานชาวเมียนมาที่เหลือจึงรวมตัวกันไปขอความช่วยเหลือยังสถานทูตเมียนมา และได้มีตัวแทนจากสถานทูตเมียนมาประสานไปยังธนาคารเพื่อขอปิดบัญชีธนาคารที่ถูกกลุ่มผู้ต้องหาใช้กลอุบาย หลอกล่อ ให้เปิดบัญชีธนาคาร
ซึ่งหลังจากที่ไปปิดบัญชีธนาคารนั้นพบว่ามีรายการเดินบัญชีและเงินหมุนเวียน รวมกว่า 2,000 ล้านบาท โดยที่กลุ่มแรงงานชาวเมียนมา มิได้รู้เห็นหรือทราบที่มาของเงินดังกล่าวแต่อย่างใด
จากเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนนำมาสู่การออกหมายจับนายชิติสรรค์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนครปฐม จึงได้เฝ้าสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของนายชิติสรรค์ฯ มาหลายเดือน จนทราบว่านายชิติสรรค์ฯ หลบหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ จ.นครปฐม และต่อมาได้ตรวจพบรถยนต์ ที่นายชิติสรรค์ฯ ใช้งานอยู่เป็นประจำ ขับขี่มาตามทางหลวงหมายเลข 375 อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ตำรวจทางหลวงจึงได้ประสานไปยังตำรวจ สภ.ดอนตูม ทำการสกัดจับรถยนต์คันดังกล่าว จนเจอตัวนายชิติสรรค์ฯ ขณะกำลังนั่งตกปลาบริเวณริมคลอง ม.14 ต.วังน้ำเขียว อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการจับกุม แสดงหมายจับพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
การปฏิบัติภายใต้การอำนวยการ
- พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,
- พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล.,
- พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล.
สั่งการให้ - ว่าที่ พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ดำเนินการ