"นินเก้า" อาวุธใหม่ ผู้พิทักษ์ป่า เสริมเขี้ยวเล็บ เพิ่มความอุ่นใจลาดตระเวน

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) จัดกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีนายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดี​ กรมอุทยานแห่งชาติฯ และพลโท ปวริศ ปั้นทอง ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ร่วมเป็นประธาน ณ ห้องประชุมชั้น 4 อาคารอเนกประสงค์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

 

นายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดเผยถึงสถานการณ์การบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในปัจจุบันว่า กลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้และล่าสัตว์ป่ามีการใช้อาวุธและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ส่งผลให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าต้องเผชิญความเสี่ยงสูงในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ามีการปะทะกับกลุ่มคนร้ายบ่อยครั้งมาก ซึ่งมีเข้ามาทั้งลักลอบค้าสัตว์ป่า แอบตัดไม้กฤษณา โดยเฉพาะบริเวณชายแดนไทยทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บและเสียชีวิต เนื่องจากอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่มีอยู่ก็ใช้มาหลายสิบปี การจัดหาอาวุธปืนเล็กยาว "นินเก้า" (NIN 9) ขนาด 9 มม. ซึ่งเป็นผลงานการวิจัยและพัฒนาโดยฝีมือคนไทย จึงเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถให้แก่เจ้าหน้าที่ และยังเป็นการเพิ่มความอุ่นใจในการทำงานลาดตระเวน และเพิ่มความปลอดภัยให้เจ้าหน้าที่มากขึ้นด้วย

 

ด้าน พลโท ปวริศ ปั้นทอง ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ได้มุ่งมั่นพัฒนาขีดความสามารถในการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล เพื่อตอบสนองความต้องการของกองทัพและหน่วยงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปืนเล็กยาว NIN 9 ซึ่งเป็นผลงานล่าสุดที่เราภาคภูมิใจ ได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมของป่าไทย มีน้ำหนักเบา ทนทานต่อสภาพอากาศ และง่ายต่อการบำรุงรักษา และพร้อมส่งมอบเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการผนึกกำลังและบูรณาการศักยภาพของทั้งสององค์กร นอกจากนี้ ศูนย์ฯ ยังมีแผนพัฒนาอุปกรณ์พิเศษอื่นๆ ให้สอดคล้องกับภารกิจของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ทั้งในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมสมัยใหม่

ในความร่วมมือครั้งนี้ยังครอบคลุมถึงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าให้มีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธและอุปกรณ์พิเศษ การบำรุงรักษาอุปกรณ์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ รวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านยุทธวิธีการปฏิบัติการในป่า ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านเทคนิคแก่เจ้าหน้าที่ภาคสนามได้อย่างรวดเร็ว นับเป็นการยกระดับการทำงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยให้มีความทันสมัยและเข้มแข็งมากขึ้น นับเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า อันจะนำไปสู่การปกป้องและรักษาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยให้ยั่งยืนสืบไป