โกย 100 ล้าน ครูสาวลาออกช่วยแฟนบอสจีน ฟอกเงินแก๊งสแกมเมอร์ หลอกดูดเงินคนไทย

โกย 100 ล้าน ครูสาวลาออกช่วยแฟนบอสจีน ฟอกเงินแก๊งสแกมเมอร์ หลอกดูดเงินคนไทย

เปิดเบื้องหลัง โกย 100 ล้าน ครูสาวลาออกช่วยแฟนบอสจีน ฟอกเงินแก๊งสแกมเมอร์ หลอกดูดเงินคนไทย ตำรวจบุกจับคาบ้านหรูซอยราชวินิตบางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

กรุงเทพธุรกิจ อัปเดตล่าสุด เปิดเบื้องหลัง โกย 100 ล้าน ครูสาวลาออกช่วยแฟนบอสชาวจีน ฟอกเงินแก๊งสแกมเมอร์ หลอกดูดเงินคนไทย ตำรวจบุกจับคาบ้านหรูบางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

วันนี้ตำรวจนครบาล สนธิกำลังปฏิบัติการ ทลายรังบอส "ฟีลแฟนสแกมเมอร์” โดยนำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการ ลงวันที่ 19 ก.พ. 2568 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง โครงการหมู่บ้านหรู ย่านบางนา กม.7 ซอยราชวินิตบางแก้ว ถ.บางนา-ตราด จ.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

การจับกุมครูสาว-แฟนบอสจีนแก๊งสแกมเมอร์

1.ชาวจีน อายุ 29 ปี สัญชาติจีน เป็นบอสทอมหล่อ สแกมเมอร์ฟิลแฟนหลอกลงทุน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ลงวันที่ 17 ก.พ. 68

ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมกันเป็นอั้งยี่ , ร่วมกันเป็นซ่องโจร

2. หญิงชาวไทย อายุ 31 ปี แฟนสาวบอสทอมหล่อชาวจีน อดีตครู ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ลงวันที่ 17 ก.พ. 68

ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมกันเป็นอั้งยี่ , ร่วมกันเป็นซ่องโจร

3. ชายไทย อายุ 26 ปี ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้

โกย 100 ล้าน ครูสาวลาออกช่วยแฟนบอสจีน ฟอกเงินแก๊งสแกมเมอร์ หลอกดูดเงินคนไทย

4. หญิงไทย อายุ 24 ปี ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้

5. ชายชาวไทย อายุ 40 ปี ถูกแจ้งข้อหา เปิดบัญชี หรือยินยอมให้คนอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอีเล็กทรอนิค หรือบัญชีเงินอีเล็กทรอนิค

ตรวจยึดของกลางแก๊งสแกมเมอร์ ครูสาว-แฟนบอสจีน

  • บัญชีธนาคารพร้อมใช้ 102 บัญชี
  • บัตรเดบิต 70 ใบ
  • ซิมโทรศัพท์พร้อมใช้ประมาณ 1,000 ซิม
  • โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง
    - พบข้อมูลสำคัญจำนวนมาก
  • คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ต 1 เครื่อง
  • รถยนต์โตโยต้า ยาริส 1 คัน
    - ใช้รับส่งธุระจัดหาคนเปิดบัญชี

ตามที่ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ภัยร้ายสังคม จากนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT ได้วิเคราะห์ข้อมูลพบว่าการหลอกลวงรูปแบบ ฟีลแฟนสแกมเมอร์ ถือเป็นภัยร้ายที่สร้างความเสียหายเป็นอันดับ 1 

ทำให้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. รองหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล ศปอส.ตร. แกะรอยข้อมูลจากผู้เสียหายรายหนึ่ง ซึ่งถูกหลอกลวงแล้วได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.พระโขนง กรุงเทพฯ

กลโกงฟีลแฟนสแกมเมอร์

แผนประทุษกรรมจะปลอมโปรไฟล์แล้วสนทนา “ฟีลแฟนสแกมเมอร์”

  1. หลอกให้เหยื่อหลงรัก
  2. ชักชวนให้ลงทุนเปิดร้านค้า Tiktok ของสิงคโปร์
  3. ลวงให้ทำ “ภารกิจ”
  4. ให้กดออเดอร์โดยให้เหยื่อออกเงินไปก่อน
  5. เหยื่อทำภารกิจครั้งแรกสำเร็จก็ได้รับเงิน
  6. เหยื่อตายใจ
  7. หลังจากนั้นต้องเพิ่มยอดเงินมากขึ้น
  8. ต่อมาก็ไม่สามารถถอนเงินออกได้ 

โกย 100 ล้าน ครูสาวลาออกช่วยแฟนบอสจีน ฟอกเงินแก๊งสแกมเมอร์ หลอกดูดเงินคนไทย

มิจฉาชีพ มักอ้างว่า เป็นเพราะเหยื่อกดออเดอร์ล่าช้า ต้องเพิ่มเงินเข้าไปอีกจึงจะถอนเงินในระบบได้ อันเป็นแผนประทุษกรรมของ “ฟีลแฟนสแกมเมอร์”

พล.ต.ต.ธีรเดช ได้แกะรอยเส้นทางการเงิน จนพบว่าเงินที่แก๊งสแกรมเมอร์นี้หลอกลวงได้ แล้วท้ายสุดจะนำไปเข้าสู่ระบบแปลงเงินออกเป็นเหรียญดิจิทัล ผ่านช่องทาง แอพพลิเคชั่น บ. ชื่อดังในเมืองไทย 

ต่อมา พ.ต.ท.บดินทร เพ็ญสูตร สว.(สอบสวน) สน.พระโขนง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT แกะรอยจนพบ  “บอสโจว” สาวหล่อหัวหน้า "ฟีลแฟนสแกมเมอร์" นี้

เจ้าตัวใช้ชีวิตกินหรูอยู่สบายในประเทศไทย เปิดเซฟเฮ้าส์รังรักพลอดรักอยู่กับครูสาวชาวไทยอนาคตไกลที่ลาออกจากการเป็นครู ผันตัวมาเป็นซ้อบอสได้ไม่นาน

ทั้งนี้ ภายในเซฟเฮ้าส์ดังกล่าว ไม่เพียงแต่เป็นรังรักของทั้งสอง แต่ยังเป็นด่านเงินสุดท้ายที่แก๊งสแกรมเมอร์ จะให้ระดับหัวหน้ามาทยอยโยกเงินออกไปเป็นบิตคอยน์ที่บ้านหลังนี้ 

ต่อมา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT นำหมายค้นของศาลเข้าตรวจค้นเซฟเฮ้าส์ลับ รังรักของบอสสาวหล่อ ในหมู่บ้านชื่อดังใน ซอยราชวินิตบางแก้ว ถนนบางนา-ตราด ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จับกุมตัวทั้งคู่ได้

จากการขยายพบการจับกุมทั้งสอง พบว่าภายในเซฟลับนี้ ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีก แต่ไม่ได้อยู่ในบ้านเพราะกำลังออกไปพาคนไปเปิดบัญชีม้า

พล.ต.ต.ธีรเดช จึงได้นำกำลังออกติดตามไปจนพบคนไทยสองรายเปิดบัญชีไปแสกนใบหน้าที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่าน มหาวิทยาลัยรามคำแหง (ราม 2) จึงได้จับกุมตัวทั้ง 3 คนไว้ทันที

ในชั้นจับกุม บอสจีนทอมยังคงให้การภาคเสธ โดยให้การว่า จะมีบอสอีกคนซึ่งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน คอยดูแลออฟฟิศสแกมเมอร์

ส่วนตนนั้นมาฝังตัวอยู่ในประเทศไทย เพื่อคอยจัดการเรื่องการทำบัญชีและเส้นทางการเงินที่ได้จากการหลอกลวง บอสในฝั่งเพื่อนบ้านจะคอยโอนเงินไทยมาให้ตนเพื่อไปเป็นธุระจัดหาคนมาเปิดบัญชีม้าและเปิดวอลเล็ต ในกระดานเทรดเหรียญดิจิทัลชื่อดังของประเทศไทย พร้อมกับผูกไว้ในโทรศัพท์แบบพร้อมใช้ 

บอสฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จะโอนเงินมาให้ตนที่ถือบัญชีม้าวอลเล็ตม้าเหล่านี้ ก่อนให้ตนนำไปแปลงเป็นเงินสกุลดิจิตัล แล้วให้โอนสับหลอกเจ้าหน้าที่ ก่อนส่งกลับไปยังบอสฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน 

ส่วนแฟนสาวคนไทย ตอนแรกเป็นครูได้ชักชวนให้มาทำงานด้วยเพราะตนพูดภาษไทยไม่ได้ แฟนสาวจะทำหน้าที่คอยตอบแชทและจัดหาคนมาเปิดบัญชีม้าให้ โดยกระบวนการจะไม่เปิดแค่บัญชีธนาคาร แต่จะเปิดบัญชีวอลเล็ตของเหรียญดิจิทัลด้วย

ครูสาวแฟนบอสทอมหล่ออ้างไม่รู้เรื่อง ในชั้นจับกุมยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา บอกว่าลาออกจากการเป็นครูที่โรงเรียนชื่อดังใน ซอยลาซาล เขตบางนา กรุงเทพฯ เพราะแฟนชักชวนให้ลาออกและมาช่วยงานเต็มตัว

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. กล่าวว่า จากการขยายผลมีพยานหลักฐานยืนยันว่า บอสทอม และแฟนสาวบอส เป็นระดับหัวหน้าสั่งการในประเทศไทย คอยจัดหาคนมาเปิดบัญชีธนาคารและวอลเล็ตเงินสกุลดิจิตัล เพื่อใช้รับโอนเงินจากการหลอกลวงของแก๊งสแกรมเมอร์ฟิวแฟน และยังโดยจะคอยแปลงเงินที่ได้จากการหลอกลวงจากเงินบาทแปลงเป็นเงินสกุลดิจิทัล 

แม้ว่าทั้งสองยังคงให้การไม่เต็มที่ แต่เรามีพยานหลักฐานมัดแน่นและของกลางที่เราตรวจพบในบ้านแห่งนี้ถูกนำไปใช้หลอกลวงพัวพันกับระบบฐานข้อมูลรับแจ้งรวมทั้งสิ้น 132 Caseid มูลค่าความเสียหายกว่า 91,192,017 บาท 

หลังจากนี้ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ขยายผลให้ถึงที่สุด ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.

ทั้งนี้ การปฏิบัติการโดย 

  1. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. รองหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล ศปอส.ตร. ,
  2. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. ,
  3. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. ,
  4. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ,
  5. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ,
  6. พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก.กก.สส.บก.น.5 ,
  7. พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าว บก.สส.บช.น. ,
  8. พ.ต.ท.คณิตนนท์ ถนอมศรี สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ,
  9. พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ จงเจริญ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ,
  10. พ.ต.ท.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น.
    ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) และ บก.สส.บช.น.

อ้างอิง ตำรวจนครบาล และ เนชั่นทีวี