เปิดปฏิบัติการ CIB Game on รวบ "จีนดำ" หนีหมายแดง เอี่ยวขบวนการทำบัตรเถื่อน

ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ CIB Game on รื้อระบบสยบ "จีนดำ" ล่าตัวผู้ต้องหาหมายแดง ฉ้อโกง 3,000 ล้านหยวน พร้อมขบวนการทำบัตรประชาชนเถื่อน สวมรอยเป็นคนไทย
วันที่ 6 มีนาคม 2568 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการ CIB Game on รื้อระบบสยบ "จีนดำ" ล่าตัว นายลี ฉ้อโกง 3,000 ล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 15,000 ล้านบาท ซึ่งมี หมายแดง (red notice) ก่อนหลบหนีมากบดานในประเทศไทย และมีความเกี่ยวข้องกับขบวนการทำบัตรเถื่อน สวมรอยเป็นคนไทย
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปลายปี พ.ศ. 2566 ผู้เสียหายชาวจีน เข้าพบเจ้าหน้าที่กรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรีดทรัพย์ เรียกเงิน 5 ล้าน เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี ซึ่งมูลเหตุมาจากผู้เสียหายได้เข้าไปยังกลุ่มเฟซบุ๊กของคนจีน พบประกาศแจ้งว่าสามารถจัดทำบัตรประชาชน และเอกสารอื่นๆ ของไทยให้กับคนจีนได้ถูกต้องตามกฎหมาย คิดค่าดำเนินการ 1 ล้านบาท
ผู้เสียหายจึงได้ติดต่อเข้าไปพูดคุยนัดหมาย และได้พบกับนายลี พร้อมกับนางเอ้ (แฟนสาว) โดยนายลีพาผู้เสียหายไปทำบัตรประชาชนที่สำนักงานเทศบาล โดยมีขั้นตอนการถ่ายรูป และสแกนรอยนิ้วมือเหมือนกับการทำบัตรประชาชนทั่วไป แต่จะไม่มีการให้กรอกข้อมูลเอกสารใดๆ ซึ่งภายหลังจากที่ผู้เสียหายทำตามขั้นตอนต่างๆ เรียบร้อยแล้ว นายลีจึงได้นำบัตรประชาชนที่ปรากฏรูปหน้าผู้เสียหายมามอบให้กับผู้เสียหาย พร้อมกับสำเนาทะเบียนบ้านอีก 1 ฉบับ
ต่อมาผู้เสียหายให้ นายลี ช่วยทำหนังสือเดินทาง นัดหมายให้มาทำหนังสือเดินทางที่กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เมื่อผู้เสียหายเดินทางมาถึงที่นัดหมาย มีกลุ่มชายพาผู้เสียหายไปนั่งรอที่ร้านกาแฟภายในกรมการกงสุล จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 3 นาย เข้ามาควบคุมตัว แจ้งกับผู้เสียหายให้ทราบว่าจะต้องถูกดำเนินคดีเนื่องจากปลอมเอกสาร หากไม่อยากถูกดำเนินคดีให้จ่ายเงิน 5 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงได้ต่อรองเหลือ 2 ล้านบาท โอนเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัล USDT จำนวน 55,555 USDT เข้ากระเป๋าเงินดิจิทัล ก่อนจะปล่อยตัวผู้เสียหายไป และหลังจากเกิดเหตุผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายกลุ่มดังกล่าว
จากการสืบสวนพบว่า เจ้าของบัตรประชาชนเป็นบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริง และพบว่ามีการไปขอทำบัตรประชาชนใหม่หลังจากขายบัตรเพียงไม่กี่วัน มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนให้ความช่วยเหลือในการกระทำผิดของขบวนการดังกล่าว และพบข้อมูลประวัตินายลีว่ามีหมายแดงติดตัว ในความผิดเกี่ยวกับการยักยอกทรัพย์ชาวจีน มูลค่าความเสียหาย 3,000 ล้านหยวน ที่ประเทศจีน ในช่วงปี พ.ศ. 2558 - 2562 ก่อนจะหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2564 โดยสวมบัตรหัวศูนย์เพื่อให้ตนเองมีสิทธิต่างๆ เทียบเท่ากับคนไทย ก่อนเปิดเพจพาคนจีนไปทำเอกสาร และบัตรอื่นๆ นอกจากนี้ยังพบว่าเกี่ยวข้องบริษัทนอมินี ถือหุ้นบริษัทโดยไม่ได้มีการลงทุนหุ้นจริง
ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร รอง ผกก.3 บก.ป. และพ.ต.ท.ศิษฏ์ พูลวงศ์ รอง ผกก.3 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป.