19 ส.ค.นี้ จ่ายเงิน "เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ" งวด 2 เข้า "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ"
19 ส.ค.นี้ เตรียมรับเงิน "เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ" 100-250 บาท/เดือน งวดที่ 2 แล้วแต่ละช่วงอายุรับคนละเท่าไหร่ ?
ภายหลัง ครม.อนุมัติหลักการจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษแก่ผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิสวัสดิการเบี้ยยังชีพ หรือที่เราเข้าใจกันคือ การจ่าย "เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ" ในปีงบประมาณ 2565 เฉลี่ยรายละ 100 - 250 บาท ตามช่วงอายุ วงเงินรวม 8,348.16 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน – กันยายน 2565 เพื่อบรรเทาผลกระทบเศรษฐกิจนั้น
โดย เริ่มจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ครั้งแรกวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา มีการจ่ายเงินที่ค้างอยู่ทั้งหมด 4 เดือน เป็นการจ่ายย้อนหลังตั้งแต่เดือนเม.ย. – ก.ค. ส่วน งวดที่ 2 มีกำหนดจ่ายในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 และจากนั้นจะค่อยๆ จ่ายให้จนครบวงเงินที่ผู้สูงอายุจะได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" รายงานต่อเนื่องเกี่ยวกับการจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษแก่ผู้สูงอายุในครั้งนี้ ซึ่งจะจ่ายเพิ่มจาก "เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ" แบบขั้นบันไดตามช่วงอายุ ดังนี้
- อายุ 60-69 ปี เดิมได้รับ 600 บาท เป็น 700 บาท/เดือน
- อายุ 70-79 ปี เดิมได้รับ 700 บาท เป็น 850 บาท/เดือน
- อายุ 80-89 ปี เดิมได้รับ 800 บาท เป็น 1,000 บาท/เดือน
- อายุ 90 ปีขึ้นไป เดิมได้รับ 1,000 บาท เป็น 1,250 บาท/เดือน
โดยกำหนดการจ่ายเงิน "เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ" แบ่งเป็น 3 งวด ดังนี้
- งวดแรก จ่ายวันที่ 19 ก.ค.2565 จำนวน 4 เดือนตั้งแต่งวดเดือนเม.ย.- ก.ค.65
- งวดที่ 2 จ่ายวันที่ 19 ส.ค.65
- งวดสุดท้ายจ่าย 19 ก.ย.65
ทั้งนี้ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่าเห็นควรให้กรมกิจการผู้สูงอายุจัดทำระบบข้อมูลผู้สูงอายุ โดยจำแนกผู้สูงอายุเป็นกลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองได้ดี กลุ่มที่พอช่วยเหลือตนเองได้บ้าง และกลุ่มที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ เพื่อให้ความช่วยเหลือสอดคล้องกับความต้องการแต่ละกลุ่มได้อย่างแท้จริง
ส่วนกรณีที่ ผู้สูงอายุที่ถูกระงับสิทธิ เนื่องจากได้รับสวัสดิการอื่นซ้ำซ้อนจากรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ได้รับสิทธิ "เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ" ที่ปรับเพิ่มด้วย
สำหรับผู้ได้รับสวัสดิการ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่
- ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือ เงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน
- ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐ หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- ผู้ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือ ผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดให้เป็นประจำ
โดยจะได้รับเมื่อมีการออกระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นฉบับใหม่ ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ)
หลักฐานประกอบการขอรับ "เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ"
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออก โดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย
- ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน (ที่เป็นปัจจุบัน)
- สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ในนามผู้มีสิทธิ/ผู้ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ (สำหรับกรณีประสงค์รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านธนาคาร)
- สามารถมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษร ให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแทนได้