"บิ๊ก ทองภูมิ" เปิดตัวธุรกิจปลูกต้นเพาโลเนีย SD Tree เพื่อ Carbon Offset

"บิ๊ก ทองภูมิ" เปิดตัวธุรกิจปลูกต้นเพาโลเนีย SD Tree เพื่อ Carbon Offset

"บิ๊ก ทองภูมิ" ร่วมทุนผู้เชี่ยวชาญระดับโลก และทีมนักวิจัยจากประเทศออสเตรเลีย เปิดตัวธุรกิจปลูกต้นเพาโลเนีย SD Tree เพิ่มการดูดซับคาร์บอนฯ ภายใต้โครงการ "SD Tree for Net Zero" มุ่งแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม หวังช่วยบรรเทาวิกฤติภาวะโลกร้อน

ทองภูมิ สิริพิพัฒน์ หรือ บิ๊ก ร่วมเดินพรมแดงและแสดงความความยินดีกับงานครบรอบ 33 ปีทีวีพูล ภายใต้ชื่อ "TVPOOL STARS PARTY RETIRE & REBORN 2022" โดยบรรยากาศภายในงานมีเหล่าคนบันเทิง และสปอนเซอร์เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ห้องบางกอก คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 22

นายทองภูมิ สิริพิพัฒน์ นักแสดงวัย 34 ปี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวภายในงานถึงการผันตัวเป็นนักธุรกิจผู้บุกเบิกกลุ่มพลังงานสีเขียว Carbon Offset ในประเทศไทย ซึ่งเตรียมจะขยายความสำเร็จไปสู่ระดับนานาชาติ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท ซัสเทนเนเบิ้ล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งร่วมทุนกับผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของโลกและทีมนักวิจัยจากประเทศออสเตรเลีย ภายใต้โครงการ "SD Tree for Net Zero" โดยจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมโดยการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในดิน โดยต้น "เพาโลเนีย" นั้น เป็นต้นไม้ที่เติบโตเร็ว และนักวิทยาศาสตร์ร่วมทุนได้พัฒนาวิธีที่จะทำให้ต้นไม้นี้เติบโตอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งไม่มีต้นไม้อื่นใดในโลกที่สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่เท่ากันในระหว่างวงจรการเจริญเติบโตตามปกติ

"การเป็นนักแสดงก็ยังเป็นอยู่ แต่ว่ามันเป็นอีกมิติหนึ่งที่อยากจะมาทำงานด้านธุรกิจ คราวนี้ผมได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ ซึ่งก็คือ คุณสรรเสริญ ธีระสาสน์ ที่ให้เกียรติมาเป็นประธานที่ปรึกษาของบริษัท จริงๆ ในเรื่องของพาร์ทธุรกิจที่ผมทำ เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนสำหรับคนทั้งโลก โดยมีพาร์ทเนอร์เป็นคนต่างชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย เยอรมัน หรืออีกหลายๆ ประเทศในโลกที่ให้ความร่วมมือเพื่อที่จะสร้างฐานในการผลิตอยู่ที่ประเทศไทย" นายทองภูมิ กล่าว

\"บิ๊ก ทองภูมิ\" เปิดตัวธุรกิจปลูกต้นเพาโลเนีย SD Tree เพื่อ Carbon Offset

สำหรับธุรกิจดังกล่าว นายทองภูทิ กล่าวต่อไปว่า เป็นธุรกิจเกี่ยวกับเรื่อง Carbon Offset (กิจกรรมชดเชยการปล่อย ก๊าซเรือนกระจก หรือกิจกรรมชดเชยคาร์บอนฯ) จริงๆ แล้วทั่วโลกกำลังเกิดวิกฤติเรื่องของ ภาวะโลกร้อน หรือคาร์บอนฯ ที่ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศมากเกินไป คราวนี้ก็เลยเกิดข้อตกลงกันทั้งโลกว่า ไม่ว่าจะเป็นฝั่งประเทศที่พัฒนาแล้ว หรือประเทศที่กำลังพัฒนา หากต้องการเซ็ตซีโร่เพื่อการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ ดังนั้นเลยเกิดการสร้างฐานในประเทศไทย ภายใต้โครงการ "SD Tree for Net Zero" ที่จะปลูกต้นโลเนีย เพื่อดูดซับคาร์บอน เป็นการช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ หากการดูดซับมีความสมดุลให้เป็นศูนย์ สิ่งที่จะตามมาคือ คนทั้งโลกจะเผชิญหน้ากับภัยทางธรรมชาติที่น้อยลง เพราะโลกกลับเข้าสู่ภาวะสมดุลเหมือนยุคก่อน ยกตัวอย่าง ฤดูร้อนก็ไม่ร้อนจนเกินไป หรือฤดูต่างๆ ก็จะไม่รวนและแปรปรวนอย่างเช่นทุกวันนี้

"จริงๆ แล้ว ผมทำธุรกิจอย่างอื่นมาบ้าง ซึ่งโอกาสครั้งนี้มาจากการที่มีผู้ใหญ่นัดคุยว่ามีโปรเจกต์ที่น่าสนใจ แล้วอยากได้คนรุ่นใหม่มาทำ ถามผมว่าสนใจและมองเรื่องนี้อย่างไร ผมมองเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ รวมถึงความร่วมมือจากต่างชาติที่มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วในหลายๆ ประเทศ สำหรับประเทศไทยที่เปรียบเสมือนครัวของโลก มันเป็นโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะความร่วมมือจากบุคคลหลายๆ ฝ่ายที่พร้อมช่วยกันสนับสนุนเพื่อให้โครงการนี้เกิดขึ้นและสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี" นายทองภูมิ กล่าว

นายสรรเสริญ ธีระสาสน์ ประธานที่ปรึกษา บริษัท ซัสเทนเนเบิ้ล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมากๆ เพราะไม่ได้เป็นการทำธุรกิจเฉพาะกลุ่มหรือเฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เป็นผลประโยชน์ที่จะก่อให้เกิดขึ้นกับคนทั้งโลกแบบยั่งยืน ในอนาคตทุกชีวิตจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในสภาพอากาศที่อยู่ในภาวะสมดุล เพราะฉะนั้นผมมองเห็นว่าธุรกิจนี้น่าจะเป็นธุรกิจที่ทำให้โลกใบนี้กลับมามีความสุขเหมือนเดิม