GLOCON ประกาศมั่น 2024 ปีแห่งการ Turnaround เร่งเครื่องสร้างรายได้ทุกกลุ่มบริษัทย่อย
GLOCON โชว์ผลงานไตรมาส 2/2567 เริ่มฟื้นตัวสู่ทิศทางที่ดีขึ้น มีกำไรสุทธิ 9.2 ล้านบาท พร้อมเร่งเครื่องสร้างรายได้ทุกกลุ่มบริษัทย่อย
บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON นำโดย นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยถึงธุรกิจในเครือของบริษัทฯ หลังจากที่ได้รายงานผลการดำเนินงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ปัจจุบันบริษัทฯ มีกลุ่มธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ 1.) ธุรกิจอาหารแปรรูปแช่แข็ง และอาหารกึ่งสำเร็จรูปพร้อมทาน ที่มีแบรนด์เด่นคือลูกชิ้นทิพย์ 2.) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ประเภทต่างๆ และ 3.) ธุรกิจการผลิตและพัฒนานวัตกรรมอาหาร
ในไตรมาสที่ 2/2567 ที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เริ่มฟื้นตัวสู่ทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีกำไรสุทธิ 9.2 ล้านบาท หลังจากได้ทำการปรับโครงสร้างธุรกิจ และขจัดส่วนที่เป็นต้นเหตุของการขาดทุน กลุ่มธุรกิจแรกคือธุรกิจอาหารแปรรูปแช่แข็ง และอาหารกึ่งสำเร็จรูปพร้อมทาน ที่มีแบรนด์ลูกชิ้นทิพย์ได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้บริโภค เนื่องจากรสชาติที่อร่อย และหาซื้อได้ง่าย ทำให้กลุ่มธุรกิจนี้สามารถพลิกกลับมามีกำไร นอกจากนี้ยังสามารถลดการสูญเสียในการผลิต และขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่หนึ่งในตลาด เพื่อสร้างรายได้และตั้งเป้าหมายในการทำกำไรที่ 40 ล้านบาทภายในปี 2024 พร้อมเติบโตปีละ 10%
ธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ประเภทต่างๆ ก็ได้รับการปรับปรุงให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน ทาง GLOCON ได้พัฒนาและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ โดยใช้วัสดุที่เหมาะสมยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยส่งเสริมความยั่งยืนและควบคุมต้นทุนการผลิต ทำให้กลุ่มนี้มียอดขายที่ดีขึ้น บริษัทฯ ตั้งเป้าสร้างรายได้จากธุรกิจนี้ราว 1 พันล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นสัดส่วน 11% ของรายได้รวม
ธุรกิจการผลิตและจัดจำหน่ายผลไม้อบแห้งยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในตลาดเอเชีย การจัดการที่มีประสิทธิภาพช่วยลดการสูญเสียในกระบวนการผลิต ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างเป็นระบบ
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นอันดับสูงสุด และแน่นอนว่าย่อมส่งผลทางตรงต่อคุณภาพของอัตรากำไรสุทธิมากกว่าปริมาณการขาย บริษัทฯ มั่นใจว่าทุกกลุ่มธุรกิจจะกลับมาเติบโตและมีกำไรอย่างต่อเนื่องภายในปี 2025 โดยตั้งเป้ายอดขายรวมที่ 180 ล้านบาทต่อเดือนในปี 2024 และเพิ่มขึ้นเป็น 220 ล้านบาทต่อเดือนในปี 2025