อินเตอร์ เอ็กซ์เพรส ผู้นำด้านบริการคลังสินค้าครบวงจร

นายอภิวัฒน์ วนารมย์วิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ เอ็กซ์เพรส โลจิสติกส์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันแนวโน้มการแข่งขันของบริษัทโลจิสติกส์ในประเทศไทยมีการแข่งขันที่สูงมากขึ้นโดยมีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อการพัฒนาและเติบโตของธุรกิจในกลุ่มนี้ การสร้างความแตกต่างในการให้บริการคือทางรอด ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป ซึ่งบริการขนส่งสินค้าอย่างเดียวอาจจะไม่พอ เราต้องหาโอกาสใหม่ๆ โดยมุ่งมั่นที่จะเป็น Solution Provider ด้านโลจิสติกส์ที่ผลักดันโดยนโยบายด้านคุณภาพ หนึ่งในบริการที่เป็นหัวใจหลักซึ่งเราให้ความสำคัญอย่างมาก นั่นคือ บริการคลังสินค้า (Fulfillment Service) และโลจิสติกส์แบบครบวงจร (One Stop Service) การันตีด้วยคุณภาพและมาตรฐานมากมาย อาทิ ISO 9001:2015, GDP, Q-Mark และ Q Cold Chain โดย อินเตอร์ เอ็กซ์เพรส เริ่มให้บริการด้านคลังสินค้าตั้งแต่ปี 2008 ปัจจุบันเราให้บริการด้านคลังสินค้าแบบครบวงจร ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจเกือบทุกประเภท ทั้งคลังสินค้าแบบทั่วไป ที่รองรับสินค้าหลากหลายประเภททั้งชิ้นเล็กและชิ้นใหญ่ ที่ไม่จำเป็นต้องควบคุมอุณหภูมิ และคลังสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ สำหรับสินค้าที่ต้องการการดูแลเฉพาะ เช่น อาหารสด, อาหารแปรรูป, วัตถุดิบประกอบอาหาร, ไอศกรีม รวมไปถึงสินค้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษอย่างยารักษาโรคและวัคซีน โดยลูกค้าที่ใช้บริการสามารถเลือกอุณหภูมิที่เหมาะสมได้ทั้งแบบแช่เย็นและแช่แข็ง ซึ่งมีอุณหภูมิให้เลือกตั้งแต่ -18℃ ไปจนถึง 25℃ ในการคงคุณภาพของสินค้าให้สดใหม่และปลอดภัยตลอดการจัดเก็บ

นายอภิวัฒน์ ได้อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการด้านคลังสินค้าของอินเตอร์ เอ็กซ์เพรส ว่า ในแต่ละขั้นตอนการให้บริการของเรา จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและลดภาระในการทำงานของธุรกิจ ขณะเดียวกันยังคำนึงถึงคุณภาพการบริการอย่างเข้มงวด โดยมีรายละเอียดขั้นตอนการให้บริการ ดังนี้

1. การจัดเก็บ: ในกระบวนการจัดเก็บสินค้าของเรา จะช่วยลดความยุ่งยากและเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าในการจัดการสต๊อกสินค้า โดยในการจัดเก็บสินค้าที่ อินเตอร์ เอ็กซ์เพรส ลูกค้าสามารถตรวจเช็คสต๊อกสินค้าได้แบบเรียลไทม์ พร้อมการจัดเรียงและจัดการสินค้าแบบ FIFO หรือ First-In First-Out
2. การหยิบสินค้า: บริการคลังสินค้าที่อินเตอร์ เอ็กซ์เพรสนั้น สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มการขายออนไลน์ หรือ Marketplace ได้ โดยเมื่อได้รับการยืนยันคำสั่งซื้อเรียบร้อยแล้ว ทางพนักงานดูแลคลังสินค้าจะทำการหยิบสินค้าตามออเดอร์ที่เข้ามา พร้อมสแกนสินค้าออกเพื่อให้ทางผู้ขายได้รับทราบถึงจำนวนสต๊อกสินค้า
3. การแพ็กสินค้า: หลังจากหยิบสินค้าเสร็จสิ้น พนักงานจะทำการแพ็กสินค้าตามคำสั่งซื้อและสแกนสินค้าเข้าระบบการนำจ่ายสินค้า ซึ่งทำให้การขายสินค้าเป็นเรื่องง่าย โดยลูกค้าไม่ต้องใช้เวลาในการบริหารจัดการหรือดูแลการแพ็กสินค้า
4. การจัดส่งสินค้า: เมื่อสินค้าถูกแพ็กและบันทึกลงในระบบการนำจ่ายสินค้าเรียบร้อยแล้ว ทางอินเตอร์ เอ็กซ์เพรส จะนำส่งสินค้าไปส่งยังจุดต่างๆ ตามคำสั่งซื้อทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยลดขั้นตอนในการสรรหาขนส่งสำหรับจัดส่งสินค้า

“การใช้บริการคลังสินค้ากับ อินเตอร์ เอ็กซ์เพรส จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถมุ่งเน้นที่การผลิตสินค้าและทำการตลาดได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการคลังสินค้า พร้อมทั้งเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดและเพิ่มยอดขายผ่านการใช้บริการคลังสินค้าแบบครบวงจรของเราที่สามารถจัดการทุกขั้นตอนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงรองรับความต้องการของธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องมือแพทย์ หรืออาหารและเครื่องดื่ม พร้อมระบบที่รองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต ด้วยทีมงานมืออาชีพและระบบการจัดการที่ทันสมัย เน้นการเชื่อมต่อทุกขั้นตอนของโลจิสติกส์ไว้ในที่เดียว อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ลดความซับซ้อนและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการได้ในทุกมิติ” นายอภิวัฒน์ กล่าวปิดท้าย

อินเตอร์ เอ็กซ์เพรส มุ่งมั่นในการพัฒนาบริการคลังสินค้าแบบ Fulfillment Service ครบวงจรที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มธุรกิจ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ ควบคู่ไปกับการพัฒนาการบริการขนส่งที่มีคุณภาพและมาตรฐาน สร้างคุณค่า ความเชื่อมั่น ให้กับลูกค้าและผู้ประกอบการอย่างยั่งยืน ผู้สนใจบริการสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่