'ชาล็อต ออสติน' ปลุกแฟนคลับยอมรับคุณค่าในตัวเอง ที่งาน Y and Pride Perspectives Talk
"Y and Pride Perspectives Talk" ครั้งแรกสุดประทับใจ "ชาล็อต ออสติน" ร่วมแบ่งปันประสบการณ์แบบเอกซ์คลูซิฟ ปลุกแฟนคลับยอมรับคุณค่าในตัวเอง
6 ธันวาคม 2567 นางสาวนริศรา ศรีสันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นเอสซี พลัส จำกัด (NSC PLUS) ในฐานะ Executive Producer และนางสาวปพิชญา ภัทรลิขิตสกุล ประธาน บริษัท ฮาทป๊อบ สตูดิโอ จำกัด ในฐานะ Co - Executive Producer เปิดงาน Y and Pride Perspectives Talk #001 : Charlotte Austin เสวนา : โอกาส ความท้าทาย กับการขับเคลื่อนความหลากหลายทางเพศ ซึ่งเป็นการเปิดพื้นที่ให้ทุกคนมาสัมผัสเรื่องราวจากผู้คนที่มีความหลากหลายทางแนวคิดของกลุ่ม LGBTQIAN+ ให้ออกมาสู่สังคม โดยได้รับเกียรติจาก ชาล็อต ออสติน นักแสดงหญิง นางงามลูกครึ่ง ไทย - อังกฤษ เป็น Speaker คนแรกของเวที Solo Stage Talk เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง และส่งเสริมศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในทุกความแตกต่าง
นางสาวนริศรา กล่าวว่า การเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ เป็นความท้าทายที่น่าภูมิใจ Y and Pride เป็นโปรเจกต์แรกของ UniQuest Inspire แพลตฟอร์มที่ส่งเสริมการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์บนความแตกต่างที่หลากหลายทางความคิด และผลิตคอนเทนต์ในหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้เกิดคอมมูนิตี ภายใต้สโลแกน Inspire Creativity, Empower Lives จึงมีความยินดีที่ "ชาล็อต" ให้เกียรติมาเป็น Speaker คนแรกของการเปิดพื้นที่ใหม่ให้กับความหลากหลาย และเท่าเทียม รวมถึงเชื่อมั่นว่าพลังของการสื่อสาร และศักยภาพของมนุษย์ทุกคน จะช่วยทำให้ความแตกต่างที่หลากหลาย กลายเป็นสิ่งสวยงาม
ภายในงาน แฟนคลับของ ชาล็อต ออสติน ได้ร่วมรับฟังการแบ่งปันประสบการณ์แบบเอกซ์คลูซิฟในประเด็นแนวความคิดความลื่นไหลทางเพศ พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตที่ต้องเผชิญ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นให้ทุกคนยอมรับ และมีความภาคภูมิใจในตัวตน พร้อมเผชิญหน้ากับทุกความท้าทายที่เข้ามาในชีวิต โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น ใกล้ชิดและเป็นกันเอง
ชาล็อต ได้บอกเล่าถึงประสบการณ์ที่พบเจอในชีวิตตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงวันที่ตัดสินใจประกวดนางงาม การสร้างความสุข และการรู้จักรักตัวเองในแบบที่เป็น เช่นเดียวกับความรัก และแนวคิดความลื่นไหลทางเพศ ที่อยากให้ทุกคนยอมรับตัวเอง และเปิดโอกาสในการพบเจอกับความรักหลากหลายรูปแบบ และเชื่อว่าทุกคนมีเป้าหมายในการใช้ชีวิตของตัวเองในแบบที่อยากจะเป็น
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเวทีเสวนา NextGen Pink : The Future of Entertainment โดยมี ธานี วงศ์นิวัติขจร หรือ ก็อป โปสการ์ด นักแต่งเพลงชื่อดัง, กอล์ฟ - ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ผู้กำกับ นักเขียนบท นักแสดง อดีต สส. ข้ามเพศคนแรกของประเทศไทย, นุชี่ - อนุชา บุญยวรรธนะ ผู้กำกับชื่อดัง และอดีตนายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย 2 สมัย และดร.ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA มาร่วมพูดคุยบอกเล่าถึงวิสัยทัศน์ ประสบการณ์การทำงาน รวมถึงการเติบโตและโอกาสของธุรกิจบันเทิงที่ส่งเสริม พื้นที่ของ LGBTQIAN+ ผ่านอุตสาหกรรมภาพยนตร์ - ซีรีส์วาย และ ยูริ ไทย
นุชี่ กล่าวว่า วงการภาพยนตร์ในอดีต ยังไม่ยอมรับเนื้อหาการนำเสนอ รวมไปถึงนักแสดงกลุ่ม LGBTQIAN+ ทำให้สิ่งที่ต้องการนำเสนอหลาย ๆ เรื่อง ไม่สามารถนำเสนอผ่านสื่อต่าง ๆ ได้อย่างปกติ จึงเป็นความท้าทาย ในการสร้างพื้นที่ และโอกาสให้ Pink Entertainment ได้รับการยอมรับว่าเป็นเรื่องของมนุษย์ปกติธรรมดาทั่ว ๆ ไป และในอนาคตก็อยากจะผลักดันกฎหมายการใช้คำนำหน้าชื่อ ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย
ธัญญ์วาริน กล่าวว่า ความท้าทายสำหรับ ซีรีส์วาย และยูริ ต้องยอมรับว่ายุคแรก ๆ สังคมไทยยังไม่ยอมรับ ต่อมาเมื่อกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่ผลักดันมาโดยตลอด กำลังจะมีผลใช้บังคับ เชื่อว่าซีรีส์วาย และยูริ จะถูกพูดถึงมากขึ้น และสิ่งที่จะเป็นความท้าทายใหม่ ๆ ก็คือการทำให้การนำเสนอเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่เอาความเป็นมนุษย์มาพูดคุยกัน โดยไม่ต้องเอาเรื่องเพศ และรสนิยมทางเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็จะช่วยให้ Pink Entertainment สามารถขับเคลื่อนสังคมไทยเป็นสังคมแห่งโอกาส และความเท่าเทียมได้
ธานี กล่าวว่า ในอนาคตอุตสาหกรรมเพลง ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับกลุ่ม Pink Entertainment จะมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่วนตัวได้มีโอกาสทำเพลงให้กับซีรีส์เดือนเกี้ยวเดือน ซึ่งเป็นซีรีส์วาย ก็มองว่าเป็นเรื่องของความรักที่เป็นความสวยงาม พร้อมมองว่าถ้ามองเรื่องความลื่นไหลทางเพศ เป็นเรื่องปกติเช่นเดียวกับความรักทั่วไป ก็จะกลายเป็นพลังบวก ที่กลับมาสร้างความเชื่อมั่น และสร้างคุณค่าในตัวตนของแต่ละคนได้
ดร.ชาคริต กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาค ที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม และเป็นโอกาสที่ทำให้ภาคอุตสาหกรรมซีรีส์วาย และยูริของไทย ออกไปสู่สายตาชาวโลก จึงเชื่อมั่นว่า Pink Entertainment จะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ที่ช่วยสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศได้ ดังนั้นถ้าเราช่วยกันผลักดันให้ LGBTQIAN+ เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ก็จะทำให้ต่างประเทศยอมรับ และอยากสนับสนุนในเรื่องนี้มากขึ้น ยืนยันว่าภาครัฐก็พร้อมให้การสนับสนุนพื้นที่ในการพูดคุย และจับคู่การทำธุรกิจ Pink Entertainment มากขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ร่วมเสนาทุกคนมีความคิดเห็นตรงกันว่า Pink Entertainment จะช่วยเปลี่ยนสังคมได้ เพราะทุกคนมีศักยภาพ มีคุณค่าในตัวเอง ซึ่งสังคมควรมองคอมมูนิตีนี้ ให้เป็นหนึ่งเดียวในสังคมอย่างเท่าเทียม ก็จะทำให้อุตสาหกรรมซีรีส์วาย และยูริของไทย เติบโตและมีมูลค่าได้
สามารถติดตามข่าวสาร หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ Facebook หรือ X