เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ พระราชทานรางวัล ผู้ชนะการประกวดผ้าลายพระราชทาน
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชทานรางวัลผู้ชนะการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา” ในงานเทศกาลไหมไทย 2565 หรือ Thai Silk Festival
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชทานเหรียญรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดผ้าลายพระราชทาน ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา และงานหัตถกรรมระดับประเทศ, ผู้ชนะในกิจกรรม “มหาดไทย ผ้าไทยใส่ให้สนุก” และโล่รางวัลต้นกล้านารีรัตน ตามโครงการพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาผลิตภัณฑ์ Young OTOP สู่สากล ในงาน เทศกาลไหมไทย 2565 (Thai Silk Festival 2022) เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2565 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
งาน เทศกาลไหมไทย 2565 เป็นการจัดแสดงแบบผ้าไทยร่วมสมัย และผ้าไทยลายอัตลักษณ์ 4 ภาค เนื่องในโอกาส เฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในปี 2565 เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ผ้าไทยในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมเผยแพร่พระปณิธานและพระกรณียกิจของ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ที่ทรงตั้งพระทัยสืบสาน รักษา ต่อยอดเผยแพร่ความงดงามของหัตถศิลป์ไทยตามพระราชปณิธานใน "สมเด็จย่า" ของพระองค์
สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงตรวจงานศิลปาชีพฯ ณ ลานคำหอม
กว่า 7 ทศวรรษที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้ความสำคัญและทุ่มเทพระวรกายในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และส่งเสริมการใช้ผ้าไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังทรงเป็นแบบอย่างในการใช้ผ้าไทยด้วยพระองค์เอง เพื่อให้ประชาชนมีรายได้เสริม ตลอดจนเพื่อธำรงรักษาและฟื้นฟูศิลปหัตถกรรมแบบไทยที่กำลังจะเสื่อมสูญไปตามกาลเวลาให้กลับมาแพร่หลาย
เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในปี 2565 "กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย" ร่วมกับ "สมาคมแม่บ้านมหาดไทย" จึงได้กำหนดจัดงาน เทศกาลไหมไทย 2565 (Thai Silk Festival 2022) ระหว่างวันที่ 15 - 18 ธันวาคม 2565 ณ บริเวณหน้าเพลนารีฮอลล์ 1-3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการผ้าไทยลายอัตลักษณ์ 4 ภาค
โอกาสนี้ ได้รับพระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชทานเหรียญรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดประเภทต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ผ้าไทย ตลอดจนนิทรรศการหม่อนไหม และนิทรรศการผ้าไทยลายอัตลักษณ์ 4 ภาค
จากนั้นทอดพระเนตร โซนออกบูทร้านค้า OTOP Luxury ทั้ง 4 ภาค เหนือ กลาง อีสาน ใต้ จำนวน 100 บูท ประกอบด้วย กลุ่มผู้ประกวดผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา ซึ่งได้รับเหรียญพระราชทานต่างๆ
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เสด็จทอดพระเนตรบูธผู้ประกอบการ OTOP Luxury
รวมทั้งร้านค้าของ ศิลปินโอทอปที่มีชื่อเสียง อาทิ “อาจารย์เถ่า-มีชัย แต้สุจริยา” ศิลปินแห่งชาติจาก บ้านคำปุน จังหวัดอุบลราชธานี, “อภิชาติ พลบัวไข” หรือ “ผู้ใหญ่ต้น” แห่งบ้านโนนอก จังหวัดอุดรธานี ฯลฯ
และทอดพระเนตร แฟชั่นโชว์ผลงาน 10 แบรนด์ไทยดีไซเนอร์ชื่อดัง ซึ่งรังสรรค์ผลงานสุดประณีตที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง" โดยนำผ้าไทย มาตัดเย็บเป็นชุดดีไซน์ทันสมัย ณ ห้องเพลนารีฮอลล์ 1-2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2565
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการเทิดพระเกียรติฯ ในงาน Thai Silk Festival 2022
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงที่มาและแนวคิดการจัดงาน "เทศกาลไหมไทย 2565" ว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงรับพระปฐมบรมราชโองการจากพระบรมชนกนาถ ด้วยการน้อมเกล้าฯ สืบสาน รักษา และต่อยอด งานด้าน ผ้าไทย ของ สมเด็จพระพันปีหลวง เพื่อให้พี่น้องคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี
โดยพระราชกรณียกิจที่สำคัญยิ่งของ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในเรื่องของการส่งเสริมศิลปาชีพ ภูมิปัญญาผ้าไทย งานหัตถศิลป์หัตถกรรม พระองค์ท่านเป็นผู้ทำให้เกิดอาชีพเสริมมีรายได้ขึ้นมา "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา" ทรงน้อมนำสิ่งต่างๆ เหล่านั้น มาถ่ายทอดให้กับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ปีนี้เป็นปีที่ 3
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการเทิดพระเกียรติฯ ในงานเทศกาลไหมไทย
รูปธรรมที่ชัดเจนประการที่ 1 คือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปหัวเมืองต่างๆ ด้วยพระองค์เองครบทุกภูมิภาค เปิดโอกาสให้พี่น้องที่มีภูมิปัญญาเรื่องของงานหัตศิลป์ งานผ้าไทย งานหัตถกรรม ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จ แล้วพระราชทานพระราชวินิจฉัยคำแนะนำในการพัฒนางานที่ "สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง" ทรงริเริ่มและประกอบพระราชกรณียกิจมายาวนานกว่า 70 ปี
"อีกอันที่เป็นเครื่องมือปลุกเร้าคือ การจัดประกวด โดยปีนี้จำลอง ลานคำหอม พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร ที่ "สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง" ทรงใช้เป็นพื้นที่ทอดพระเนตรชิ้นงานของพสกนิกร คนที่ผลงานดีเยี่ยมจะได้รับพระราชทานเหรียญทองคำและสร้อยคอทองคำ ปัจจุบันทุกคนยังคงหวงแหนและเก็บรักษาไว้ นอกจากทรงสืบสานงานการประกวดผ้าไทย ยังทรงต่อยอดฝ่าทะลวงปัญหาของผ้าไทย ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เช่น ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี, ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา"
ประการที่ 2 "เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ" ได้พระราชทาน โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก เนื่องจากทรงเล็งเห็นว่ากับดักของผ้าไทยอย่างหนึ่งคือคนรุ่นใหม่คิดว่าผ้าไทยเหมาะสมกับคนสูงอายุ ทว่าพระองค์ท่านพระราชทานโครงการฯ รูปแบบแนวทาง และทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า มาแสดงโชว์ให้เห็นว่าผ้าไทยสามารถตัดได้หลายรูปแบบ สามารถใช้ได้ทุกวัย ทุกโอกาส ทุกวาระ เพียงแต่รู้จักนำเอามาออกแบบตัดเย็บให้ถูกใจตัวเอง ก็จะฝ่าทางตันของผ้าไทย
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทอดพระเนตรการแสดงแบบผ้าไทยลายอัตลักษณ์ 4 ภาค
ประการที่ 3 พระองค์ท่านมาพร้อม วิทยาการสมัยใหม่ ตามที่ทรงศึกษาเล่าเรียนด้านแฟชั่น เช่น การผลิตชิ้นงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการใช้สีธรรมชาติ รู้จักการตลาดว่าอนาคตจะนิยมสีอะไร (Pantone) เป็นต้น
"ทำให้ชาวบ้านสามารถมีรายได้จากการทอผ้าเพิ่มขึ้น สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัว สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี และความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม จากพระปณิธานแน่วแน่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานของสมเด็จย่าของพระองค์ท่าน นับเป็นพระกรุณาธิคุณและเป็นที่มาที่พวกเราทุกคนจะช่วยกันเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ชุบชีวิตเส้นไหม เส้นฝ้าย ให้กลับมาโลดแล่นมีชีวิตรับใช้พี่น้องคนไทยให้มีรายได้เสริม มีคุณภาพชีวิตที่ดี” นายสุทธิพงษ์กล่าว
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทอดพระเนตรการแสดงแบบผ้าไทยลายอัตลักษณ์ 4 ภาค
ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวว่า สมาคมแม่บ้านมหาดไทยต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงรื้อฟื้นเรื่องผ้าไทยที่หายไปจากสังคมไทยกว่า 70 ปีที่ผ่านมา
"ต้องบอกว่าตัวเองเป็นคนยุคใหม่ ประกอบอาชีพนักธุรกิจ ไม่ค่อยมีโอกาสได้สัมผัสเรื่องผ้าไทย กว่า 10 ปีที่ผ่านมาได้ศึกษาจริงจังและเดินสายไปทุกจังหวัดยังพื้นที่ทรงงาน ยังความซาบซึ้งในการทุ่มเทพระวรกาย พระวิริยะอุตสาหะ ให้พี่น้องประชาชนได้กลับมาทอผ้าอีกครั้งหนึ่ง ถ้ามีโอกาสได้ฟังคนที่เป็นคนปฐมบทที่อำเภอนาหว้าเล่า ซึ่งกว่าจะทอผ้าได้ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้ส่งคุณข้าหลวง ทั้งร้องขอและชักชวน ให้ชาวบ้านทอผ้าไทย ทอได้ปริมาณเท่าใด พระองค์ท่านก็รับซื้อไว้ทั้งหมด จากนั้นเป็นต้นมา จะเห็นฉลองพระองค์ที่งดงามมากมาย ซึ่งในวันนี้สามารถชมได้ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ
สายน้ำพระบารมีก็ไม่สิ้นสุด ในวันนี้ประชาชนทั้งประเทศดีใจเป็นอย่างมากที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระปณิธานแน่วแน่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด งานด้านผ้าไทยของสมเด็จพระพันปีหลวง นอกเหนือจะเป็นการแบ่งเบาพระราชภาระของพระบรมชนกนาถแล้ว พระราชกรณียกิจสำคัญของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เราจะเห็นงานผ้าไทยกลับคืนสู่สังคมไทยอีกครั้ง" นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทยกล่าว
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการผ้าไทยลายอัตลักษณ์ 4 ภาค
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนได้สนองงานต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 ทุกปีมีการส่งประกวดผ้าและหัตถกรรมต่างๆ เป็นจำนวนมากขึ้น
โดยปี 2565 มีชาวบ้านส่งผลงานผ้าทอมาถึง 2,946 ผืน จากทั่วประเทศ ผลงานหัตถกรรม 298 ชิ้น คณะกรรมการทำการตัดสินมาจนถึงรอบชิงชนะเลิศ ที่หอประชุมกองทัพเรือ คัดเลือกผลงานผ้าทอเหลือ 61 ชิ้น ผลงานหัตถกรรม 10 ชิ้น
"โดยเฉพาะวันตัดสินผลงานชนะเลิศ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จมาเป็นประธานด้วยพระองค์เอง และในวันที่ 17 ธันวาคม 2565 งานเทศกาลไหมไทย 2565 เสด็จฯ พระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศในทุกประเภท นับเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้" นายอรรษิษฐ์ กล่าว
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ พระราชทานเหรียญรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดผ้าลายพระราชทาน
สำหรับผู้ชนะรางวัลพิเศษ 4 รางวัล ในการประกวด “ผ้าลายขิดนารีรัตนราชกัญญา” และงานหัตถกรรมระดับประเทศ ประกอบด้วย
- รางวัล Best of The Best ได้แก่นาย วีรธรรม ตระกูลเงินไทย กลุ่มจันทร์โสมา จังหวัดสุรินทร์ ประเภทผ้ายก ยกเล็ก (ไหมยกดิ้น)
- รางวัลสีธรรมชาติยอดเยี่ยม ได้แก่นาย วิทวัส โสภารักษ์ กลุ่มแพรวาโสภารักษ์ ประเภทแพรวา
- รางวัลลวดลายตามแบบพระราชทานยอดเยี่ยม ได้แก่นาย วันเฉลิม ศรีภุยเดช เฮือนไหมมนัสวรรณ ไหมแท้ที่แม่ทอ จังหวัดอุดรธานี ประเภทผ้าขิด
- รางวัล Young OTOP ได้แก่นาย ศุภกิจ บุญมีเลี้ยง กลุ่มเยาวชนอนุรักษ์ผ้าไหมปูมโบราณบ้านโนนสง่า จังหวัดสุรินทร์ ประเภทผ้าไหมมัดหมี่ 3 ตะกอ
- ผู้ชนะเลิศรางวัลประเภทต่างๆ รวม 13 ประเภท
งานเทศกาลไหมไทย Thai Silk Festival 2022
นายวีรธรรม ตระกูลเงินไทย กลุ่มจันทร์โสมา จังหวัดสุรินทร์ ประเภทผ้ายก ยกเล็ก (ไหมยกดิ้น)ได้รับรางวัล Best of The Best เปิดเผยว่า นับเป็นพระกรุณาธิคุณอยากหาที่สุดมิได้ โดยแนวคิดหลัก คือ การนำลวดลายผ้าพระราชทาน ขิดลายนารีรัตนราชกัญญา ซึ่ง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงออกแบบและพระราชทานไว้ มาเป็นโจทย์หลักเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานชิ้นนี้
โดยการนำ "ลวดลายผ้าขิดพระราชทาน" นั้นมาสร้างจินตนาการเพิ่มเติม ผสมผสานกับรูปแบบลายไทยที่ปรากฏในผ้ายกแบบราชสำนัก เพื่อสื่อถึงสายสัมพันธ์และสายใยพระเมตตา ความห่วงหาอาทรของราชสำนักที่หลั่งไหลสู่พสกนิกรไทยมาแต่อดีตจวบจนปัจจุบันมิได้ขาด
การทอผ้าผืนนี้มีความพิเศษคือการใช้สีธรรมชาติ และไหมพื้นบ้าน ได้ผสมผสานเทคนิคการทอผ้าเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งยกทอง (ขิด) ยกไหมลายขึ้นด้านเดียว และจกไหมทอง(จุ่มดอก) ทำให้ได้ผ้าที่สวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
งานเทศกาลไหมไทย หรือ Thai Silk Festival 2022
สุทธิพงษ์ จุลเจริญ, ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ, จิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์, อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์
นิทรรศการผ้าไทยลายอัตลักษณ์ 4 ภาค (ภาคกลาง)
นิทรรศการผ้าไทยลายอัตลักษณ์ 4 ภาค (ภาคใต้)
นิทรรศการหม่อนไหม
ร้านค้า OTOP Luxury ทั้ง 4 ภาค
งาน Thai Silk Festival 2022 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15, 16 และ 18 ธันวาคม 2565 ณ บริเวณหน้าเพลนารีฮอลล์ 1-3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์