มิตรไมตรีไทย-ออสเตรเลีย
พระราชจริยวัตรอันงดงามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นที่ประจักษ์ชัดในระหว่างที่ทรงศึกษาต่อ ณ วิทยาลัยการทหารดันทรูน กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรเลีย ทั้งยังทรงสานสัมพันธมิตรไมตรีระหว่างไทยและออสเตรเลียที่มีมายาวนาน
ประเทศไทยและเครือรัฐออสเตรเลีย มีความสัมพันธ์ที่ดีและใกล้ชิด นับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2495 โดยมีความร่วมมือครอบคลุมเกือบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการทูต การทหาร การค้า การลงทุน และความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของบุคคลระดับสูงระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญ และเป็นพันธมิตรที่สำคัญของเครือรัฐออสเตรเลียในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมาโดยตลอด
ด้านประวัติศาสตร์ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินเยือนเครือรัฐออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม-12 กันยายน 2505 นับเป็นครั้งแรกที่พระประมุขจากประเทศไทยเสด็จพระราชดำเนินเยือนเครือรัฐออสเตรเลีย โดยทั้งสองพระองค์เสด็จพระราชดำเนินเยือนเกือบทุกรัฐของเครือรัฐออสเตรเลีย นับเป็นการเจริญสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเข้าศึกษาวิชาการทหารตามที่ทรงตั้งพระราชหฤทัย ณ เครือรัฐออสเตรเลีย ทรงเข้ารับการศึกษาระดับเตรียมทหาร ที่คิงส์สกูล เขตพารามัตตา นครซิดนีย์ ระหว่างเดือนสิงหาคม 2513 ถึงเดือนพฤษภาคม 2514 และทรงเข้าศึกษาในวิทยาลัยการทหารชั้นสูง ที่วิทยาลัยการทหารดันทรูน กรุงแคนเบอร์รา ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2515 ถึงเดือนธันวาคม 2519 และทรงได้รับปริญญาอักษรศาสตรบัณฑิต (การศึกษาด้านการทหาร) คณะการศึกษาด้านการทหาร จากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์
ดร.แอนเจลา แมคโดนัลด์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษกับกรุงเทพธุรกิจว่า
"ออสเตรเลียรู้สึกเป็นเกียรติอย่างล้นพ้นที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเยือนออสเตรเลียเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2505 และยังเป็นครั้งแรกที่ออสเตรเลียต้อนรับการเยือนประเทศของราชวงศ์ต่างชาติที่ไม่ได้มาจากสหราชอาณาจักร
ขณะเดียวกัน เรายังรู้สึกปลื้มปิติอย่างยิ่งที่ทั้งสองพระองค์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงศึกษา ณ วิทยาลัยวิชาการทหารดันทรูนจนสำเร็จการศึกษาที่นี่ด้วย”
ตลอดระยะเวลาที่ทรงศึกษาในวิทยาลัยวิชาการทหารดันทรูน พระราชจริยวัตรเป็นที่ประจักษ์ชัด ปรากฏในสารคดี “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวในออสเตรเลีย” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีบทสัมภาษณ์พระสหายร่วมชั้นเรียนของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะทรงศึกษาอยู่ที่ออสเตรเลีย อาทิ ฯพณฯ พลเอก เดวิด เฮอร์ลีย์ และฯพณฯ พลเอก เซอร์ ปีเตอร์ คอสโกรฟ สองอดีตผู้สำเร็จราชการเครือรัฐออสเตรเลียฯ รวมถึงพระสหายชาวออสเตรเลียคนอื่นๆ และเพื่อเป็นการฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและออสเตรเลีย ครบ 69 ปี จัดทำโดยสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย
การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรวีดิทัศน์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขณะทรงศึกษาในเครือรัฐออสเตรเลีย ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 และทอดพระเนตรนิทรรศการภาพถ่าย “การเสด็จพระราชดำเนินเยือนเครือรัฐออสเตรเลียของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อปี 2505 และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเครือรัฐออสเตรเลีย” ตามลำดับ
ดร.แมคโดนัลด์ เปิดเผยว่าอดีตผู้สำเร็จราชการฯ เคยเล่าให้ตนฟังว่า
"ในช่วงเวลาหลายปีที่ในหลวงทรงศึกษาที่วิทยาลัยดันทรูน พระองค์ทรงได้รับการปฏิบัติเฉกเช่นนักเรียนทหารคนอื่น ๆ รวมถึงร่วมออกกำลังกายและถูกฝึกทางทหารในรูปแบบเดียวกัน จนกระทั่งภายหลังทรงสำเร็จการศึกษาที่วิทยาลัยดันทรูนแล้ว พระองค์ยังทรงติดต่อและพบปะกับผู้สำเร็จราชการฯ อยู่หลายครั้งตลอดระยะเวลาเกือบ 50 ปีจนถึงปัจจุบัน”
ต่อมา เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ทรงรับ พลเอก เดวิด เฮอร์ลีย์ อดีตผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย และนางลินดา เฮอร์ลีย์ ภริยา และพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำ ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 13-17 กุมภาพันธ์ 2567
ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานขันน้ำพร้อมพานรองถมตะทองลายพุดตานใบเทศ มีพระปรมาภิไธย วปร. ประดับเพชรบรรจุในกล่องผ้าไหมลายลูกแก้วสีครีม แก่อดีตผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย และพระราชทานตลับทรงรีถมตะทองลายพุดตานใบเทศมีพระนามาภิไธย สท. ประดับเพชร บรรจุในกล่องไม้ปิดทองคำเปลวเขียนลายนางในวรรณคดี แก่ภริยาอดีตผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย
อีกทั้ง ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายภาพร่างด้วยหมึกรูปอาคารต่าง ๆ ในวิทยาลัยการทหารดันทรูน เครือรัฐออสเตรเลีย แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายต่างหูมุก แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
ดร.แอนเจลา แมคโดนัลด์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย กล่าวเสริมว่า
"การเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของ ฯพณฯ พลเอก เดวิด เฮอร์ลีย์ อดีตผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย เป็นการกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีอันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ ที่ได้รับการสถาปนามายาวนาน 72 ปี
รวมถึงตั้งแต่สมัยที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยวิชาการทหารดันทรูนในออสเตรเลียเมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว อดีตผู้สำเร็จราชการเครือรัฐออสเตรเลียได้พบกับพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นครั้งแรก ในฐานะเพื่อนร่วมชั้นของพระองค์ หลังทรงสำเร็จการศึกษาแล้ว พระองค์ยังทรงติดต่อและพบปะกับอดีตผู้สำเร็จราชการฯ จนถึงปัจจุบัน
จะเห็นได้ว่า ออสเตรเลียและไทยมีสายสัมพันธ์สุดพิเศษในหลายด้าน และความสัมพันธ์ระหว่างอดีตผู้สำเร็จราชการฯ กับพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังตอกย้ำถึงความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นระหว่างกองทัพและประชาชนของทั้งสองประเทศด้วย” เอกอัครราชทูตออสเตรเลียระบุ