ภารกิจพรรค "รวมไทยสร้างชาติ" ฝันที่ไม่เป็นจริงของ “เสกสกล” ?
ต้องวัดดวงกันว่า “บิ๊กเนม-บิ๊กเซอร์ไพรส์” จะเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ มาขับเคลื่อนทางการเมือง เพื่อส่ง พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อีกสมัยหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ซีนชิงขุมทรัพย์การเมือง โยกฐานเงินหวย จาก “คู่แค้น” มันจบแล้วครับนาย
การลาออกของ “เสกสกล อัตถาวงศ์” จากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี พ่วงประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา การเสนอขาย หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล ฟันธงได้เลยว่ามาจากคำสั่ง “นาย”
แม้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม จะพูดจริงจัง ว่าไม่ได้กดดัน “เสกสกล” แต่แค่กระซิบเบาๆให้หลบร้อนทางการเมือง หลบฉากออกจากตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลไปก่อน เพียงแค่นี้ “เสกสกล” ก็ต้องยอม ไม่ต้องไปกดดันให้เสียเวลา
เนื่องจากคลิปเสียงของ แรมโบ้ “เสกสกล” สนทนากับ “จุรีพร สินธุไพร” ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้การแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลราคาแพง เสียขบวนไปมาก เกมพลิก ให้ฝ่ายที่ไล่ต้อนกลับมามีแรงต่อรอง
อีกทั้งเกมยังเข้าทาง “ขั้วฝ่ายค้าน” ที่รอซ้ำเติมอยู่แล้ว ส่งผลให้ “เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ประธานกมธ. ป.ป.ช. นำเรื่องดังกล่าวไปสอบสวนต่อในชั้น กมธ. ป.ป.ช. ซึ่งหากสาวให้ลึก พล.อ.ประยุทธ์ ก็เลี่ยงไม่ได้ ที่จะถูกลากเข้าไปอยู่ในเกม และอาจเข้าทาง ขบวนการปั่นกระแสส่งผลต่อภาพลักษณ์ของนายกฯ ไปด้วย
ดังนั้นเพื่อตัดไฟเสียแต่ต้นลม พล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่มีทางเลือก ปฏิบัติการส่งสัญญาณให้ “เสกสกล” ลาออกจึงเกิดขึ้น ซึ่งต้องไม่ลืมว่าจุดแข็งของนายกฯ ประยุทธ์ นับเป็นเป็นหัวหน้า คสช. คือผู้นำที่ปราศจากมลทินที่เกี่ยวข้องกับการทุริต หากโดนลากไปพัวพันย่อมส่งผลต่อภาพลักษณ์รุนแรงกว่านักการเมืองรายอื่น
ยิ่งอายุรัฐบาลใกล้ครบเทอม ยิ่งใกล้จัดการเลือกตั้งใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรักษาจุดแข็งเอาไว้เป็นเครดิตการเมือง
ที่สำคัญปมคลิปเสียง “เสกสกล” ส่งผลสะเทือนไปยัง “พรรครวมไทยสร้างชาติ” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ “บิ๊กเนม” หลายคนที่ถูกชักชวนมารวมตัวกันที่พรรครวมไทยสร้างชาติ อาจต้องชะงัก คำนวณข้อดี-ข้อเสียกันใหม่
ทั้ง “บิ๊ก ต.” ที่ว่ากันว่า จะมาเป็นหัวหน้าพรรค และทาบทามคนเข้าพรรค “บิ๊ก ด.” ที่จะคอยมาเป็นมือประสานสิบทิศ และอีกหลาย “บิ๊ก” ที่จะเบื้องหลังต่างไม่แฮปปี้กับคลิปเสียง “เสกสกล”
“เสกสกล” ให้สัมภาษณ์รายการ “คม ชัด ลึก” ออกอาการช่องเนชั่น 22 ตอนหนึ่งว่า “ตอนนี้ส่วนตัวของผมขอเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อย โดยเฉพาะกรณีคลิปเสียง ซึ่งผมก็มั่นใจในความบริสุทธิ์ เนื่องจากผมไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ผมจึงขอเวลาเคลียร์ตรงนี้ก่อน และหลังเคลียร์เสร็จ สังคมมีความเข้าใจว่า ผมไม่มีส่วนในการทุจริต ผมก็จะเดินการเมืองต่อ”
โดยบทบาททางการเมือง “เสกสกล”ออกตัวชัดเจนว่า จะไม่รับตำแหน่งภายในพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่จะคอยซับพอร์ตงาน “มวลชน” อยู่เบื้องหลัง ด้วยการอาศัยคอนเนคชั่นของ “อดีตคนเสื้อแดง-อดีตหมู่บ้านคนเสื้อแดง” ที่แปลงร่างมาเป็น “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” ผ่านการขับเคลื่อนของสหายรัก “อานนท์ แสนน่าน” ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน
“ผมจะขับเคลื่อนมวลชน สร้างฐานมวลชน ขับเคลื่อนมวลชนต่อโดยร่วมกับน้องๆ ที่กำลังทำงานด้านมวลชน ที่ขับเคลื่อนจัดตั้งหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน โดยงานส่วนนี้จะไม่เกี่ยวกับพรรค”
“เสกสกล” จะพยายามจะลดบทบาทของตัวเอง ภายในพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะมี “บิ๊กการเมือง” หลายคนไม่แฮปปี้กับการเดินแรงในช่วงเปิดตัวพรรค เนื่องจากยี่ห้อ “เสกสกล” ปฏิเสธไม่ได้ว่า ถูกสังคมวิจารณ์ถึงเครดิตและต้นทุนการเมือง
“เครดิตทางการเมืองของผมติดลบตรงไหน มันไม่เกี่ยวว่าเขาเฉดหัวผมออกมาไม่ให้ยุ่งกับพรรค เอาคำไหนมาพูดว่าผมไม่มีเครดิตทางการเมือง ผมทำการเมืองมาทั้งชีวิตไม่มีประวัติด่างพร้อย”
“ผมเป็นคนตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติขึ้นมา ผมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ และคนที่จะมาเป็นสมาชิกพรรค จุดยืนของผมคือการปกป้องสถาบันฯ”
นอกจากนี้ “เสกสกล” ยังระบุถึงการวางแนวทางการทำการเมืองของเขาว่ามี 3 แนวทาง 1.ชาติ 2.ศาสนา 3.พระมหากษัตริย์ โดยต้องการคนที่มีประวัติโปร่งใส ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตมาขับเคลื่อนประเทศ
“ผมต้องการเห็นคนดี มือสะอาด โปร่งใส ไม่มีประวัติเสียอย่างเช่น พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาทำงาน แต่หาก พล.อ.ประยุทธ์ วางมือทางการเมือง ผมก็ต้องการเห็น ผู้นำที่ไม่มีการทุจริต ไม่มีประวัติด่างพร้อย และไม่โกงกิน”
“เสกสกล” ยอมรับว่า ขณะนี้พรรคร่วมไทยสร้างชาติ ได้ส่งเทียบเชิญไปยัง “บิ๊กการเมือง” ซึ่งอยู่ระหว่างการตอบรับคำเชิญ
“ตอนนี้พรรครอผู้ใหญ่บางท่าน ที่ผมบอกว่าบิ๊กเซอร์ไพรส์ บิ๊ก ต. ถ้าท่านจะเอาไปทำ ก็ให้ท่านทำ ผมเป็นคนริเริ่ม หลังจากนั้นก็จะถอยตัวเองออกมา”
ทว่า “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ตามนิยามของ “เสกสกล” ไม่ได้มีทางเลือกเพียงแค่พรรครวมไทยสร้างชาติ ทางเลือกของ “บิ๊กเซอร์ไพรส์” มีอีกหลายทางเลือก อาทิ พรรคไทยสร้างสรรค์ พรรคไทยชนะ รวมถึงพรรคเครือข่ายอีกหลายพรรค ทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติ อาจไม่ใช่พรรคที่ถูกเลือก
“เสกสกล” ยอมรับว่า “หลังจากนี้ไม่เกิน 3 เดือน เมื่อเคลียร์ทุกอย่างเสร็จแล้ว หากผู้ใหญ่ยังไม่มีการขับเคลื่อนพรรค ผมจะขอคืน กลับมาทำเอง จะได้กี่เสียง 5 เสียง 10 เสียง ก็ไม่รู้ แต่ผมก็ต้องทำ”
ทั้งหมดคือท่าทีทางการเมืองของ “เสกสกล” ที่ต้องวัดใจกันว่า กระบวนการตรวจสอบจะสามารถทำให้ “เสกสกล” ต้องพบจุดด่างพร้อยทางการเมือง หรือจะฟอกขาวให้กลับมาโลดเล่นทางการเมืองได้อย่างสง่างามอีกครั้ง
ที่สำคัญ ต้องวัดดวงกันว่า “บิ๊กเนม-บิ๊กเซอร์ไพรส์” จะเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ มาขับเคลื่อนทางการเมือง เพื่อส่ง พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อีกสมัยหรือไม่
แต่ที่แน่ๆ ซีนชิงขุมทรัพย์การเมือง โยกฐานเงินหวย จาก “คู่แค้น” มันจบแล้วครับนาย!!!