ตร.ชี้ 14 เหยื่อคดี "ปริญญ์" ต้องดูอายุความ เตือน หากแจ้งความเท็จ มีความผิด

ตร.ชี้ 14 เหยื่อคดี "ปริญญ์" ต้องดูอายุความ เตือน หากแจ้งความเท็จ มีความผิด

โฆษก บช.น. ระบุ คดี "ปริญญ์" ถูกกล่าวหา ลวนลาม-ข่มขืน  ต้องพิจารณาอายุความ เตือน แจ้งความเท็จ มีความผิดและอาจถูกเรียกค่าเสียหาย

20 เม.ย.2565  พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ในฐานะ โฆษก บช.น.เปิดเผยความคืบหน้าคดีของนายปริญญ์ พาณิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในคดีลวนลาม-ข่มขืน ผู้เสียหายรวม 14 ราย ว่าขณะนี้มีคดีทั้งหมด 14 คดี แบ่งเป็นนครบาล 12 คดี และจังหวัดเพชรบุรี 1 คดี และเชียงใหม่ 1 คดี ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบคำและรวบรวมพยานหลักฐาน

เนื่องจากบางเรื่องอาจหมดอายุความการร้องทุกข์ ที่เป็นความผิดที่สามารถยอมความได้ หลังจากรู้เหตุ รู้ตัวบุคคลโดยต้องแจ้งความภายใน 3 เดือน และบางความผิดที่เป็นคดีอาญาที่ไม่สามารถยอมความได้ หากเป็นคดีอาญาแผ่นดินต้องดูจากอายุความ เช่น คดีอนาจารมีโทษไม่เกิน 10 ปี แต่อายุความไม่เกิน 15 ปี

 

ดังนั้นหากเหตุเกิดปี 2562 ก็ถือว่ายังไม่ขาดอายุความ ซึ่งต้องดูว่าหลักฐานจากผู้เสียหายที่มาแจ้งความนั้น เป็นความผิดอะไร หากหมดอายุความตามที่กล่าวมานั้น จะถือว่าหมดอายุความตามตัวบทกฎหมาย แต่เรื่องที่เป็นอาญาแผ่นดินก็จะต้องดำเนินตามกฎหมาย

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่างอีกว่า ผู้เสียหายที่มาแจ้งใหม่ทั้ง 9 คดี ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานฐานดูว่าเป็นความผิดใดบ้าง ส่วนเรื่องที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม กังวลว่าอาจมีผู้เสียหายบางรายมาแจ้งความเท็จ ขอให้ผู้ที่จะมาแจ้งไตร่ตรองให้ดี เจ้าหน้าที่จะรวบรวมพยานหลักฐาน และจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายข้อหาแจ้งความเท็จและอาจจะถูกคู่กรณีฟ้องที่ทำให้เกิดความเสียหายอีกด้วยส่วนหนึ่ง

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐานและตามกฎหมาย โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ เป็นผู้ควบคุมกำกับดูแลด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยอิงจากพยานหลักฐานเป็นหลักอีกด้วย