สแกนสมบัติ “กนก-วิทยา” 2 “บิ๊ก ปชป.” ลาออกเซ่นปม “ปริญญ์”

เป็น 2 แกนนำระดับสูงของ “ค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผม” ล่าสุดที่ลาออกจากตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้แก่ นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช รุ่นลายคราม ลาออกจากสมาชิกพรรค และนายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค

โดยสาเหตุที่ทั้ง 2 รายหยิบยกมากล่าวอ้างคือ กรณี “ปริญญ์เอฟเฟกต์” หลังจากนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค อดีตหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาคดีข่มขืน และล่วงละเมิดทางเพศแก่หญิงสาวหลายสิบรายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ทั้ง 2 รายแสดงความเห็น ต้องการกรรมการบริหารพรรคทั้งคณะลาออกยกชุด เพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีดังกล่าว แม้ว่า “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน จะนั่งยัน-นอนยันว่า เรื่องนี้กรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการตั้งกรรมการสอบ “ปริญญ์” ไม่ใช่การลาออกเพื่อหนีปัญหา และไม่หวั่นแม้จะมี “เลือดไหลออก” จำนวนไม่น้อยก็ตาม

แต่สาเหตุลึก ๆ ในทางการเมืองคงพอทราบกันดีว่าทั้ง 2 รายถูกลดบทบาทลงไปอย่างมาก เนื่องจากมี “จุดยืน” แทบจะตรงข้ามกับกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน เช่น “กนก วงษ์ตระหง่าน” คนเก่าแก่ของพรรค คือนักการเมืองสาย “ชวน หลีกภัย-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ส่วน “วิทยา แก้วภราดัย” คือปีก กปปส.ภายในพรรค นอกจาก “สอบตก” แล้ว ยังไม่มีตำแหน่งแห่งที่ภายในพรรคด้วยซ้ำ

สำหรับ “วิทยา” ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค ต้องจับตาดูว่าจะไปสังกัดพรรคใด ส่วน “กนก” แค่ออกจากรองหัวหน้าพรรค ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ ดังนั้นจึงมีสถานะเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่ออยู่

มาดูในมุมทรัพย์สินกันบ้าง    

• นายกนก วงษ์ตระหง่าน 

แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2562 ระบุว่ามีทรัพย์สินรวมคู่สมรสทั้งสิ้น 63,740,083 บาท ไม่มีหนี้สิน

ในมุมธุรกิจ “ดร.กนก” เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 3 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ) โดยทั้งหมดระบุสถานะ “ร้าง-ล้มละลาย-เสร็จชำระบัญชี” ทั้งหมดแล้ว ได้แก่ 

บริษัท กนกวัฒนา จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2540 แจ้งเลิกเมื่อ 26 ธ.ค. 2546 แจ้ง “เสร็จชำระบัญชี” เมื่อ 18 ก.พ. 2547 ทุน 1 ล้านบาท ทำธุรกิจการบริหารจัดการและประมวลผลข้อมูล

บริษัท สมาร์ท ลอยัลตี้ (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 18 มิ.ย. 2539 ศาลพิพากษาให้ “ล้มละลาย” เมื่อ 8 มิ.ย. 2543 ทุน 150 ล้านบาท ทำธุรกิจประกอบกิจการค้า เครื่องใช้ไฟฟ้า

บริษัท เอส.ที.เค.คอนซัลติ้ง จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 2 มิ.ย. 2529 นายทะเบียนขีดชื่อว่า “ร้าง” เมื่อ 13 ก.พ. 2543 ทุน 1 ล้านบาท ทำธุรกิจเป็นนายหน้า ตัวแทน ตัวแทนค้าต่างในกิจการและธุรกิจทุกประเภท

• นายวิทยา แก้วภราดัย

แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. กรณีดำรงตำแหน่ง ส.ส.ครบ 1 ปี เมื่อ 10 พ.ย. 2557 มีทรัพย์สินรวมคู่สมรสทั้งสิ้น 25,683,235 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 2,603,642 บาท แบ่งเป็น

ของนายวิทยา 15,452,356 บาท เป็น เงินฝาก 595,830 บาท เงินลงทุน 290,075 บาท ที่ดิน 3,756,450 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 7,750,000 บาท ยานพาหนะ 2 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 1,060,000 บาท มีหนี้สิน 1,789,321 บาท

ส่วนนางจิระประไพ แก้วภราดัย คู่สมรส มีทรัพย์สิน 10,230,879 บาท เป็นเงินฝาก 4,347,284 บาท เงินลงทุน 839,539 บาท ที่ดิน 2,864,055 บาท โรงเรือนฯ 1,660,000 บาท ยานพาหนะ 5 แสนบาท มีหนี้สิน 814,321 บาท

ไม่พบข้อมูลการเป็นกรรมการบริษัทจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)