เพื่อความคล่องตัว หนุนเปิดช่องให้คนรอลงอาญา “คดีทุจริต” เป็นสมาชิกพรรคได้
กมธ.แก้ “กฎหมายลูก” หนุนลดสเปกให้คนรอลงอาญา “คดีทุจริต” เป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ ย้ำเพื่อให้เกิดความคล่องตัว หลังจำนวนสมาชิกลดลงมาก ถ้าแก้ได้จะส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วม พัฒนาพรรคการเมืองเข้มแข็ง
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2565 นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณี กมธ.มีมติเห็นชอบให้แก้ไขคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง โดยให้บุคคลที่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดหรือจำคุก ในคดีทุจริต และความผิดตำแหน่งหน้าที่ราชการ แต่ให้รอลงอาญา สามารถสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ว่า ในฐานะเป็นผู้เสนอแก้ไขร่างดังกล่าว แม้มติ กมธ.ไม่ได้เห็นชอบตามร่างที่ตนเสนอทั้งหมด แต่อย่างน้อยเป็นแนวทางที่ให้เห็นว่า หลักการที่เสนอมีเหตุผลความจำเป็น เพื่อแก้ไขคุณสมบัติสมาชิกพรรคการเมืองให้สอดคล้องความเป็นจริง เนื่องจาก พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับปัจจุบันนำคุณสมบัติต้องห้ามของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 98 ของรัฐธรรมนูญเกือบทั้งหมดมาใช้กับคุณสมบัติผู้จัดตั้งพรรคการเมืองและสมาชิกพรรคการเมืองไว้เกินความจำเป็น ไม่อาจหาเหตุผลอธิบายได้ว่า เหตุใดต้องกำหนดคุณสมบัติสมาชิกพรรคที่เป็นผู้ต้องการมีส่วนร่วมทางการเมืองตามสิทธิขั้นพื้นฐาน แต่กลับต้องมีคุณสมบัติต้องห้ามเหมือนผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.หรือรัฐมนตรี
นายอนันต์ กล่าวอีกว่า ดังนั้นหากแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เรื่องคุณสมบัติสมาชิกพรรคการเมืองจะเกิดประโยชน์ต่อการดำเนินการของพรรคการเมืองให้เกิดความคล่องตัวในการรับสมาชิกพรรคมากขึ้น ปัจจุบันจำนวนสมาชิกแต่ละพรรคลดลงจำนวนมาก ตั้งแต่ พ.ร.ป.ฉบับนี้บังคับใช้ หากแก้ไขเรื่องนี้ จะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมจัดตั้งพรรคและเป็นสมาชิกพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมืองให้เข้มแข็ง ควรแก้ไขให้กลับไปใช้คุณสมบัติต้องห้ามตามกฎหมายเดิมคือ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองปี 41 และปี 50 ที่ บัญญัติไว้ถูกต้องเหมาะสม
นายอนันต์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้หากเทียบเคียงคุณสมบัติต้องห้ามผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ อาทิ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เลขานุการและที่ปรึกษารัฐมนตรี กฎหมายมิได้กำหนดคุณสมบัติต้องห้ามบุคคลซึ่งเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุด แต่ให้รอลงอาญานั้น ต้องห้ามมิให้รับตำแหน่งดังกล่าว จึงเห็นสมควรสนับสนุนแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ปัจจุบันมีข้อห้ามเกินความจำเป็นกลับมาให้ถูกต้องเหมาะสมสอดคล้องความเป็นจริง โดยมิใช่การลดสเปก คุณสมบัติสมาชิกพรรคแต่อย่างใด