อัพเกรด “ทีมโฆษก” ยกแผง "ก้าวไกล" ปรับสื่อสาร “สายดุ”
นั่นจึงเป็นเหตุผลหลักทำให้ต้องมีการปรับโครงสร้างใหม่ โยก “รังสิมันต์ โรม” หัวหอกทะลวงฟันในสภาฯ สายตรง “ปิยบุตร” มานั่งแท่น “โฆษก” แทน ด้วยความสดใหม่ และผลงานในศึกซักฟอกที่ออกมาแฉเรื่องต่างๆ ทำให้ตอนนี้กำลังเจิดจรัสอย่างมากภายในพรรค
ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของ “พรรคก้าวไกล” เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา นอกเหนือจากการเปิดตัว “ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มาเป็นผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายของพรรค โดยนับว่าเป็นการร่วมงานอย่างเป็นทางการก็ตาม
ขณะที่ อีกมุมหนึ่ง มีการปรับโครงสร้างในส่วนของ “ทีมสื่อสาร” เรียกได้ว่า แทบจะรื้อ “ยกกระบิ” ไปเลย โดยโยกเอา “รังสิมันต์ โรม” ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหอกทะลวงฟันของพรรค จากรองเลขาธิการพรรค มาเป็น “โฆษกพรรค” คนใหม่
ก่อนหน้านี้ “ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์” มารักษาการ “โฆษกพรรค” อยู่ช่วงเวลาหนึ่ง แทนที่ “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” อดีตโฆษก ที่ลาออกไปลงชิงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) แต่ในการประชุมใหญ่พรรคก้าวไกล “ณัฐชา” ถูกโยกสลับไปเป็นรองเลขาธิการพรรคแทน
ส่วนทีม “รองโฆษก” มี 2 คน ได้แก่ สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม อดีตทีมโฆษกเดิม อีกรายเพิ่งถูกแต่งตั้งขึ้นมา คือ "เพชร" กรุณพล เทียนสุวรรณ นักแสดง พิธีกร อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตหลักสี่-จตุจักร และมี “ไอติม พริษฐ์” คอยประสานงานระหว่างฝ่ายนโยบาย และฝ่ายสื่อสารของพรรค ในตำแหน่ง ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย
การประเดิมงาน “รองโฆษก” ป้ายแดงของ “เพชร กรุณพล” สร้างความ “ซี้ดซ้าด” ให้กับใครหลายคน เนื่องจาก “ถ้อยคำ” ในการหยิบจับมาใช้ค่อนข้าง “เผ็ดร้อน” แตกต่างจากการให้สัมภาษณ์ หรือการชี้แจงของ “ทีมโฆษกก้าวไกล” หรือ “โฆษกอนาคตใหม่” ในอดีตหลายขุม
ก่อนหน้านี้ สมัยเป็น “พรรคอนาคตใหม่” มีโฆษกพรรคชื่อ “พรรณิการ์ วานิช” เป็นโฆษกพรรค เน้นการสื่อสารในเชิง “ข้อมูล” เป็นหลัก แม้จะไม่ได้ “หวือหวา” มากนัก แต่ยังได้รับความสนใจค่อนข้างมาก โดยมีปัจจัยสำคัญมาจาก “ช่อ” เป็นหนึ่งใน 3 คีย์แมนสำคัญก่อร่างสร้างพรรค ร่วมกับ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ-ปิยบุตร แสงกนกกุล”
ภายหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบพรรคไป พร้อมกับตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด ทำให้มีการโยกย้ายบรรดา ส.ส.ที่เหลืออยู่บางส่วนมายัง “พรรคก้าวไกล” โดยปรับเปลี่ยนโฆษกมาเป็น “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ “ฝีปากกล้า” ในสภาฯ
จังหวะจะโคนการพูดของ “วิโรจน์” ดีกรีอดีต “นักโต้วาที” ค่อนข้าง “ดุดัน” สื่อสารออกไปในสังคมเป็นวงกว้าง พร้อมกับปลูกฝังความคิดแก่คนรุ่นใหม่-ประชาชน จนโดนใจคนบางกลุ่มอย่างยิ่ง แต่สุดท้ายต้องลาออกจาก ส.ส.ไปลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.
ช่วงเวลาที่ “วิโรจน์” หายไปหลายเดือน มี “ณัฐชา” เป็นแกนหลักของทีมโฆษก คอยออกมาตอบโต้-ชี้แจงสังคมหลายประเด็น แต่ส่วนใหญ่มักเป็นไปในลักษณะเน้น “เชิงข้อมูล-เชิงวิชาการ” เป็นหลัก ไม่ค่อยมีความหวือหวามากนัก เห็นได้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวดู “พรรคก้าวไกล” ดรอปลงไป ในเรื่องการสื่อสารต่อสาธารณะ
นั่นจึงเป็นเหตุผลหลักทำให้ต้องมีการปรับโครงสร้างใหม่ โยก “รังสิมันต์ โรม” หัวหอกทะลวงฟันในสภาฯ สายตรง “ปิยบุตร” มานั่งแท่น “โฆษก” แทน ด้วยความสดใหม่ และผลงานในศึกซักฟอกที่ออกมาแฉเรื่องต่างๆ ทำให้ตอนนี้กำลังเจิดจรัสอย่างมากภายในพรรค
ส่วนรองโฆษกคนใหม่อย่าง “เพชร กรุณพล” ฝีไม้ลายมือในเวทีดีเบต และการลงพื้นที่ปราศรัยสมัยลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.หลักสี่-จตุจักร ทำเอาหลายฝ่ายจับตามอง เพราะวาทกรรมต่าง ๆ ที่นำมาใช้เรียกได้ว่า “เขี้ยว” พอตัว
เมื่อมาพร้อมกับ “ไอติม” ในฐานะ “สัญลักษณ์” คนรุ่นใหม่ในพรรค คอยเชื่อมประสาน ย่อยข้อมูลจาก “เชิงวิชาการ” มาปั้นเป็น “วาทกรรมทางการเมือง” ผ่านทีมโฆษกยุคใหม่ “สายดุ” ทำให้หลายฝ่ายกำลังจับตา “พรรคก้าวไกล” โฉมใหม่ตอนนี้อย่างยิ่ง
เอาแค่ “โรม” และ “เพชร กรุณพล” ตอบโต้กับ “ค่ายสีฟ้า” ตอนนี้ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ถึงกับเก้าอี้ร้อน เล็งหาช่องฟ้องกลับเข้าแล้ว จากที่ก่อนหน้านี้แทบ “ไม่ให้ราคา-ไม่ออกแอ็คชั่น” ใด ๆ
นี่คือผลสะท้อนว่า การปรับโครงสร้างพรรคก้าวไกลใหม่ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ “เก้าอี้ดนตรี” หมุนเวียนกันนั่งเล่น ๆ แต่แสดงว่า “ก้าวไกล” เอาจริง เตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างเต็มที่ 100%