"ทวี" ยกม.178 ชี้ยุติพิพาท"ฟิลลิป มอร์ริส" เสี่ยงขัดรธน. เหตุไม่ผ่านรัฐสภา

"ทวี" ยกม.178 ชี้ยุติพิพาท"ฟิลลิป มอร์ริส" เสี่ยงขัดรธน. เหตุไม่ผ่านรัฐสภา

"ทวี" ชี้ ครม.เห็นชอบลงนาม ยุติพิพาท "ฟิลลิป มอร์ริส" สุ่มเสี่ยงขัดรธน. ยกมาตรา178 เขียนชัดการทำสัญาต้องให้รัฐสภาพิจารณา เตรียมรวบรวมข้อมูลซักฟอกต่อในสภา

หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่3พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบให้มีการลงนามข้อตกลงยุติข้อพิพาทระหว่างฟิลิปปินส์กับไทย กรณีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทฟิลลิปมอร์ริส จากการหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรนำเข้าบุหรี่

พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เปิดเผยผ่าน "เนชั่นกรองข่าว"  ว่า บริษัทดังกล่าวถือเป็นนิติบุคคลซึ่งตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีคนอเมริกาถือหุ้น100%ซึ่งในช่วงที่ตนเป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษปี2549 ได้มีการตรวจสอบเรื่องมีการเก็บภาษีนำเข้าบุหรี่ จากประเทศฟิลิปปินล์ โดยมีการสืบสวนกระทั่งมีการดำเนินคดีอาญา

ทั้งนี้มองว่า สถานะทางคดีในกรณีดังกล่าวน่าจะมีอยู่3ส่วนคือ 1.ในส่วนของกรมศุลกากร 2. คือในส่วนของคดีที่ศาลตัดสินแล้วและเป็นในส่วนของคดีอาญา ซึ่งในส่วนนี้เรามีกฎหมายป.วิ อาญามาตรา35 ที่ระบุว่า การจะพิจารณาถอนฟ้องในคดีอาญา ถ้าศาลชั้นต้นตัดสินไปแล้วจะไม่สามารถถอนฟ้องได้ ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องที่อยู่สำคัญคือเรื่องที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีระหว่างปี2540-2554 มีจำนวนหลายคดี 

พร้อมยืนยันว่ากรณีดังกล่าวต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมไทยไม่สามารถใช้กฎหมายระหว่างประเทศเข้ามาดำเนินการได้

ขณะเดียวกันขอตั้งข้องสังเกตุว่า เรื่องดังกล่าวเรามีรัฐธรรมนูญมาตรา178 คุ้มครอง โดยระบุว่า หนังสือสัญญาอื่นที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจสังคมหรือการค้าหรือการลงทุนของประเทศอย่างกว้างขวางต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา

ฉะนั้นมติครม.ที่ออกมา ต้องขอรอดูรายละเอียดที่ชัดเจนของข้อตกลงดังกล่าวก่อนว่าเป็นไปในรูปแบบใด อีกทั้งมองว่า เรื่องนี้มีความซับซ้อนซึ่งการอภิปรายที่ผ่านมาเราพยายามชี้ให้เห็นว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องไม่มีความสมเหตุสมผลและน่าจะเป็นเรื่องที่จำนำไปสู่การอภิปรายในสภาหลังจากนี้ต่อไปอีกด้วย จากนี้ต้องขอรวมรวมข้อมูลเพื่อกำหนดประเด็นรวมถึงวางตัวบุคคลที่จะอภิปรายต่อไป

“เรื่องนี้เราต้องคำนึงผลประโยชน์ส่วนรวม ฝากไปยังครม.การเป็นรัฐบาลโดยเฉพาะคณะรัฐมนตรีต้องแสดงความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ทำความจริงให้ปรากฎ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และมีการอภิปรายมาหลายยุคหลายสมัย”