‘ฝ่ายค้าน-ฝ่ายแค้น !’ 8 ปี ‘บิ๊กตู่’อยู่ยาว ?
ปัญหาการตีความ8ปี บวกกลเกมทั้งจาก "ฝ่ายค้าน"และ "ฝ่ายแค้น" แม้จะมีคำยืนยันจาก "บิ๊กพปชร."ประกาศอุ้มพล.อ.ประยุทธ์อยู่ครบเทอม ถึงเวลาจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้น
อุณหภูมิการเมืองที่ยังร้อนแรงท่ามกลางข่าว “แผนล้ม-แผนลับ” สับเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ล่าสุดแม้จะมีคำยืนยันจาก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ “พี่ใหญ่ตระกูล ป.” ออกมาแสดงความมั่นอกมั่นใจ ปมร้อน“สถานะ 8 ปี” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยัน “ไม่มีปัญหาเรื่อง 8 ปี”
ทว่า ปัญหาการ “ตีความข้อกฎหมาย” จนถึงเวลานี้ ยังเป็นข้อถกเถียประเด็นการนับระยะเวลา ตามที่ระบุในมาตรา 158 วรรคสี่ คำว่า “แปดปี” จะต้องเริ่มนับตั้งแต่ตอนไหน 3 แนวทางที่มีการยิบยกมาเปรียบเทียบ และถกเถียงอยู่ ณ เวลานี้
1.นับตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีภายใต้รัฐบาล คสช. ในเดือน ส.ค.ปี 2557 เท่ากับว่า จะครบ 8 ปีในเดือน ส.ค.ที่จะถึงนี้
2.นับตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2560 มีผลบังคับใช้ ในวันที่ 6 เม.ย.2560 เท่ากับว่า สถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ จะไปสิ้นสุดในปี 2568
3.นับตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.2562 ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์เริ่มปฏิบัติหน้าที่ในรัฐบาลประยุทธ์หลังการเลือกตั้งปี2562 เท่ากับว่า สถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ จะไปสิ้นสุดในปี 2570
หากจะถอดรหัสตามที่ “บิ๊กป้อม” ออกมาแสดงความเห็น รวมถึงท่าทีจากฟากฝั่งรัฐบาลเวลานี้ ค่อนข้างชัดเจนว่า เทไปที่ข้อ 3 คือ พล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถอยู่ยาวไปได้ถึงปี 2570
สวนทางกับ “ฝ่ายค้าน” โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่ค่อนข้างมั่นอกมั่นใจ และเตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความเพราะเชื่ออย่างสนิทใจว่า ประเด็นสถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าตามข้อ 1 คือจะต้องสิ้นสุดลงในเดือน ส.ค.หรืออีกราว 3 เดือนข้างหน้า
ยังไม่นับรวมสารพัดกลเม็ดที่บรรดา “ฝ่ายค้าน-ฝ่ายแค้น” งัดมาใช้ หวังผลไปถึงการเปิด “บิ๊กดีล” ครั้งสำคัญที่ทั้งขย่ม-เขย่า “พล.อ.ประยุทธ์” ลงจากเก้าอี้ สร.1 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลให้ได้
ดีลล้ม“ประยุทธ์” ที่เปิดหน้าชก มาตั้งแต่ “หมอชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้าน ออกมาเปิดสมการ “30 เสียง ส.ส.รัฐบาล” โหวตไม่ไว้วางใจในศึกซักฟอกซึ่งจะมีขึ้น หลังเปิดสภาวันที่ 22 พ.ค.
มาที่การเปิดดีล “เสี่ยโจ้” ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ดินเนอร์กระชับมิตร “พิเชษฐ สถิรชวาล” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พลังประชารัฐ ในฐานะแกนนำกลุ่ม 16 ก่อนต่อท่อไปถึง “ผู้กองธรรมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย
แม้ล่าสุดจะถูก “ล้มดีล” โดย “พี่ใหญ่แห่งตระกูล ป.” หรือแม้แต่การส่งมือประสานอย่าง “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น แกนนำพลังประชารัฐ เคลียร์ใจพรรคเล็ก โปรยยาหอมเป็นคำขอบคุณ พร้อมคำชมเต็มกระบุงจากนายกรัฐมนตรี
หรือแม้แต่ตัว “พิเชษฐ” ที่วันก่อนไปกินข้าวกับ “เสี่ยโจ้” ก่อนที่เวลาต่อมา จะออกมากลับคำยืนยัน "พรรคเล็กที่ร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ยังอยู่ร่วมกับรัฐบาลจนครบเทอม ไม่ล่มสลาย และไม่มีกระบวนการล้มรัฐบาล"
แต่ก็ใช่ว่า พล.ประยุทธ์ จะสามารถไว้วางใจได้ อย่างที่รู้กันว่า ในทางการเมือง สิ่งที่เหนือความคาดหมายก็มักจะเกิดขึ้นได้เสมอ คลื่นลมที่ดูเหมือนจะสงบ วันดีคืนดีอาจเกิดพายุใหญ่แบบไม่คาดคิด
ยามนี้ แม้ฟากฝั่งแกนนำพลังประชารัฐ จะพากันพาเหรดออกมายืนยันจำนวนเสียงที่มีอยู่ในมือ ว่าไม่น้อยกว่า “250 เสียง” แต่ตัว พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีบทเรียนจากศึกซักฟอกรอบที่แล้ว เอาเข้าจริง อาจต้องเตรียมแผนรับมือ 2 ชั้น
โดยเฉพาะเสียง “พรรคเล็ก” ที่อาจเป็นตัวแปรสำคัญ ยามนี้ยังคงสวิงไปมา