"นายกฯ" เผย ชวน "โจ ไบเดน" ร่วมเวที "เอเปค" ปลื้ม "เทรดวินด์" เยือน อาเซียน ปี66
"นายกฯ" บินถึงไทย หลัง "ประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ" เผย เน้น ส่งเสริมบทบาทสร้างสรรค์ของ "สหรัฐฯ" ในภูมิภาค จำเป็นต้องเปลี่ยนนโยบายสันติภาพโลก ยัน ได้ประโยชน์ อย่ากังวล ไร้ปัญหาอย่างที่วิจารณ์ เผย ชวน "ไบเดน" ร่วมเวที "เอเปค"ปลายปีนี้ "เทรดวินด์" ยกทัพเยือน "อาเซียน" ปี66
ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังเดินทางกลับจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา หลังจากเสร็จสิ้นการร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษ ว่า ตนมีโอกาสพบกับนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประธานสภาผู้แทนสหรัฐฯ รัฐมนตรี ผู้แทนระดับสูงของหน่วยงานด้านเศรษฐกิจและด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ ถือเป็นการหารือครอบคลุมรอบด้าน
นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนั้น ยังมีโอกาสพบปะชุมชนคนไทย ได้ทักทายสอบถามสารทุกข์สุกดิบกัน ทุกคนมีความสุข ตนได้เล่าให้ฟังว่าประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปแล้วหลายอย่างพัฒนาไปหลายอย่างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวด้วยว่า การประชุมกับสหรัฐฯ ได้เน้น 3 ประการคือส่งเสริมให้สหรัฐฯ มีบทบาทสร้างสรรค์ในภูมิภาค โดยการทำงานร่วมกับอาเซียน เรียกง่ายๆ ว่าเป็นผู้เล่นที่สำคัญในอาเซียนในการสร้างบรรยากาศความร่วมมือความไว้วางใจ เคารพ ซึ่งกันและกัน ขอบคุณที่มีโอกาสให้การดูแลเรื่องสุขภาพและสนับสนุนเราในเรื่องวัคซีนโควิด-19 และร่วมมือกันที่จะนำพาโลกเราไปสู่โลกยุค Next normal ให้ได้อย่างยั่งยืน มั่นคง รวมทั้งความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนนโยบายเรื่องเกี่ยวกับสันติภาพในโลก ซึ่งบรรดาผู้นำของอาเซียนทุกคนได้แสดงความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์ ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาเกิดขึ้นในการหารือ
นายกฯ กล่าวว่า ตนได้เสนอเรื่องการดูแลด้านมนุษยธรรมในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสงครามที่เกิดขึ้น เรื่องความเสียหายเราจะช่วยกันดูแลได้อย่างไรต่อไป เรื่องเศรษฐกิจ เน้นการฟื้นฟูระหว่างไทย-สหรัฐฯ ให้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะไทยเป็นประเทศหนึ่งที่เป็นแกนกลางของอาเซียนในการที่จะเป็นห่วงโซ่อุปทาน ที่สำคัญของสหรัฐฯ ยานยนต์ไฟฟ้าอุตสาหกรรมทางการแพทย์ เทคโนโลยีชีวภาพ โลจิสติกส์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงหารือร่วมกันกับภาคธุรกิจสหรัฐฯ ในการที่จะเชิญมาลงทุนในประเทศไทยให้มากขึ้น และทราบว่าจะมีการนำนักธุรกิจคณะใหญ่ที่สุด หรือ เทรดวินด์ (Trade Winds) มาเยือนประเทศสมาชิกอาเซียนในปี 66 โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายินดี
นายกฯ กล่าวว่า ในที่ประชุมใหญ่ตนได้เรียกร้องให้ทุกประเทศร่วมมืออย่างจริงจังในการดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนผ่านไปสู่ พลังงานสะอาด และเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สนับสนุนพลังงานสีเขียว พัฒนาเศรษฐกิจกับการรักษาสิ่งแวดล้อม และได้ฝากไว้ว่าเราทุกคนในประชาคมโลกทุกประเทศ เราต้องมองไปข้างหน้า เรามีความท้าทายอีกมากที่จะเกิดขึ้นในอนาคต วิกฤตการณ์ที่สำคัญในวันนี้และวันหน้าคือเรื่องพลังงาน สินค้าขาดแคลน ความยากจนจำเป็นต้องช่วยกันเร่งแก้ไข ตามที่ตั้งหลักการไว้ คือ อยู่รอดปลอดภัย และพอเพียง นำไปสู่ความยั่งยืน เพื่อประชาชนคนไทย และโลกไปด้วยกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
"การประชุมครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่จะผลักดันความร่วมมือ ให้เป็นรูปธรรมระหว่างอาเซียนกับสหรัฐฯ จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและประเทศอื่นๆในภูมิภาค โดยสรุปแล้วไปครั้งนี้ได้รับประโยชน์มากมาย ไม่ได้มีปัญหาอะไรอย่างที่วิพากษ์วิจารณ์กัน อย่ากังวล" นายกฯกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไทยในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปคปลายปีนี้ ได้เชิญชวนประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้าร่วมการประชุม ถือเป็นเวทีสำคัญที่ไทย จะผลักดันสร้างเสริมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในบริบทของโลก หลังโควิด-19