จับกระแส“ไอโอ”โค้งสุดท้าย ปั่น "ไม่เลือกเราเขามาแน่" ภาค 2
“การปลุกผี มีมา 2 สัปดาห์แล้ว แต่ผลโพลล์ก็ยังไม่ตกลง การปลุกผีคุณทักษิณ ได้ผลเฉพาะฝ่ายที่ขุดออกมากกว่า คือผนึกกำลังอยู่ว่า อย่าเผลอใจ เปลี่ยนใจไป เพราะถ้าเผลอเลือกคุณชัชชาติ จะได้คุณทักษิณกลับมา แต่น้ำหนักไม่มากพอที่จะไปตัดฐานเสียงคุณชัชชาติที่มีอยู่เดิม”
การหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เหลือ 3 วันสุดท้าย ที่ถูกจับจ้องว่าแนวทางการต่อสู้ของผู้สมัคร ในช่วงทางตรง 100 เมตรสุดท้ายจะเป็นเช่นไร ผู้สมัคร ผู้สนับสนุน แต่ละฝ่ายจะเดินเกมบนดินและใต้ดินหรือไม่อย่างไร เพื่อคว้าชัยชนะในวันที่ 22 พ.ค.นี้
โดยเฉพาะกลยุทธ์ดับตัวเต็ง ที่เคยใช้ได้ผลในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ปี 2556 รวมถึงการเลือกตั้งใหญ่ ปี 2535/2 จะยังใช้ได้ผลหรือไม่
รายการ"สุดกับหมาแก่" โดย “ดนัย เอกมหาสวัสดิ์” เนชั่นทีวี 22 พูดคุยกับนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ รศ.ดร.วีระศักดิ์ เครือเทพ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
โดยได้วิเคราะห์สถานการณ์ หาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย ถึงแนวทางการต่อสู้ ทั้งในฝั่งตังเต็ง และผู้ไล่บี้ ว่ากลยุทธ์ที่ออกมาในช่วงโค้งสุดท้ายจะเป็นเช่นไร รวมถึงผลสำรวจคนกทม.เรื่องความเชื่อมโยงกับการรัฐประหาร ปี 2557 จะส่งผลกับการเมืองสนามใหญ่ และการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.อย่างมีนัยสำคัญ
เปิดประเด็นด้วยผลของโพลล์ ในช่วงสัปดาห์สุดท้าย ใครจะขี่กระแสเข้ามา ใครจะเผลอไปสะดุดกระแส รศ.ดร.วีระศักดิ์ กล่าวว่า โพลที่ทำถูกหลักวิชาการ พอจะสะท้อนมุมมอง ความนิยมชมชอบของผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ในระดับหนึ่ง กระแสที่เราเห็นมาในช่วง 2 เดือน พอจะบอกอะไรในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องไม่ยึดติดกับผลโพลล์ เพราะในช่วงโค้งสุดท้ายอาจจะมีไม้เด็ดจากผู้สมัครเปิดออกมา
รวมถึงประเด็นหนึ่งที่คงเห็นชัดขึ้น โดยวิถีการเมืองแบบไทยๆ อาจจะต้องมีการสาดโคลนกันบ้าง ขุดคุ้ยกันบ้างดิสเครดิตกันบ้าง หรือในทางกลับกัน อาจจะเห็นการบล็อกโหวต เพื่อไม่ให้คนที่เราไม่ชอบได้เสียงโหวตอย่างท่วมท้น ซึ่งออกมาเยอะ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ใน 7 วันสุดท้าย อาจจะมีช็อตเด็ดออกมาอีก
"คนที่เคยทำอะไรมาก่อน มักจะมีแผลให้ถูกขุดคุ้ย เป็นเรื่องปกติ ธรรมชาติของการเมือง เช่น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สมัยก่อนสังกัดพรรคการเมือง มีความใกล้ชิดกับนักการเมืองบางกลุ่ม อาจจะถูกขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัว การกระทำที่ไม่สำเร็จในอดีต ตั้งคำถามว่าอนาคตจะทำได้ดีกว่าเดิมหรือไม่ จะหลุดพ้นจากวงจรการเมืองเดิมๆ หรือไม่ เขาจะพิสูจน์อย่างไร แม้กระทั่งนายสกลธี (ภัททิยกุล) พล.ต.อ.อัศวิน (ขวัญเมือง) ที่เคยบริหารกทม.มาระยะหนึ่ง อาจจะมีทั้งส่วนดี ไม่ดีบ้าง ก็ถูกขุดคุ้ยมาตลอด ก็ต้องยอมรับว่า ใครทำอะไรมาเยอะ ก็ต้องมีแผลบ้าง เพียงแต่เมื่อถูกเปิดแผลออกมาจะเคลียร์ตัวเองได้หรือไม่ จะแก้ต่างอย่างไร จะทำให้ชาวกทม.มั่นใจ ที่จะฝากผีฝากไข้ไว้ได้หรือไม่"
เมื่อถามว่า สำหรับคนที่ยังไม่มีผลงาน ไม่มีแผล จะได้เปรียบหรือไม่ อาทิ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อ.วีระศักดิ์ กล่าวว่า อาจจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบก็ได้ ไม่ได้มีแต้มต่อขนาดนั้น นายวิโรจน์ อาจไม่ถูกขุดคุ้ย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า จะถูกตั้งคำถามว่า ความเก่งกาจสมัยเป็น ส.ส.จะลงมือปฏิบัติได้ไหม
"ถ้าเป็นบทบาทผู้บริหาร ต้องประสาน แก้ปัญหา ต้องใช้ทักษะหลายเรื่องมากกว่าการพุ่งชน ดูเหมือนจะมีแต้มต่อที่ไม่มีแผล แต่ในทางกลับกัน ก็เสียเปรียบตรงไม่มีผลงาให้เห็นเชิงประจักษ์ ซึ่งอาจทำให้เสมอตัว ส่วนนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เคยเป็นผู้บริหารสถาบันการศึกษามาก่อน ก็โดนขุดคุ้ยเรื่องในอดีตมาโจมตีในโซเชียลมีเดียบ้าง"
อย่างไรก็ตาม อ.วีระศักดิ์ ในระยะหลังเราจะเห็นกระแสของกลุ่มพันธมิตรฯ เดิม สนับสนุน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ทำให้มีกระแสตีกลับขึ้นมา เช่น พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เขียนจดหมายรับรอง จึงปฏิเสธไม่ได้ว่ายังพอมีกระแส แต่อาจไม่ถึงขั้นเป็นจุดเปลี่ยนได้ ซึ่งอาจจะติด 1 ใน 5 คน เนื่องจากกระแสของกลุ่มพันธมิตรฯ เบาบางลงไปเยอะ ซึ่งฐานของ น.ส.รสนา จะไปตัดกับฐานของนายสุชัชวีร์ และนายสกลธี
ลุ้นกระแสปลุกโหวตเชิงยุทธศาสตร์
เมื่อถามว่า น่าจะมีแคนดิเดตจริงๆ ไม่เกิน 3 เบอร์ อ.วีระศักดิ์ มองว่า ถ้าดูจากโพลล์และกระแสนิยม ที่นำห่างคนหนึ่ง ส่วน 2-3-4 จะค่อนข้างเบียด อาจจะตัดคะแนนกันเองในฐานเสียงเดียวกันด้วยซ้ำ เพราะคะแนนจะไล่เลี่ยกัน จนบางกลุ่มก็ออกมาเสนอแนะ ให้โหวตเชิงยุทธศาสตร์ ไม่ต้องโหวตตามใจเราชอบ แต่โหวตโดยคำนึงถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น ก็มีความเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ออกมา อย่างเช่น ฐานการเมืองทับซ้อนของ พล.ต.อ.อัศวิน นายสกลธี นายสุชัชวีร์
ส่วนนายชัชชาติกับนายวิโรจน์ เท่าที่ติดตามดูนายวิโรจน์มาเร็วเกินไป คนจำนวนหนึ่งรักพี่เสียดายน้อง แต่ผมเชื่อว่า ท้ายที่สุดคนจะเลือกพี่มากกว่าน้อง เพราะอย่างน้อยตัดกันไม่ขาด ผลโพลล์ก็มีส่วนชี้นำให้เลือกตามกระแสได้ หรือผลงานในอดีตที่นายชัชชาติมีมากกว่า อาจทำให้คนกลุ่มนี้ตัดสินใจเทให้พี่มากกว่าเทให้น้อง
ผู้ดำเนินรายการถามว่า การปลุกผี ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะสามารถเบรกกระแสของนายชัชชาติได้หรือไม่ อ.วีระศักดิ์ ระบุว่า คนที่ชื่นชมนายชัชชาติ ไม่ได้ให้น้ำหนักกับทักษิณ ยิ่งลักษณ์ มากนัก เพราะเขาปักใจเชื่อไปแล้ว จะปลุกผีอะไรมาก็ฉุดไม่อยู่ จึงไม่ตัดกำลังของนายชัชชาติมากนัก
“การปลุกผี มีมา 2 สัปดาห์แล้ว แต่ผลโพลล์ก็ยังไม่ตกลง กลับดีขึ้นด้วยซ้ำ การปลุกผีคุณทักษิณ ได้ผลเฉพาะฝ่ายที่ขุดออกมากกว่า คือผนึกกำลังอยู่ว่า อย่าเผลอใจ เปลี่ยนใจไป เพราะถ้าเผลอเลือกคุณชัชชาติ จะได้คุณทักษิณกลับมา มันอาจจะได้ผลในกลุ่มเดียวกันเอง แต่น้ำหนักไม่มากพอที่จะไปตัดฐานเสียงคุณชัชชาติที่มีอยู่เดิม”
ถามว่า ถ้าจะหยุดชัชชาติได้จริง เหลือประเด็นอะไร อ.วีระศักดิ์ กล่าวว่า “เรื่องหลักในทางการเมืองบ้านเรา เรารู้ว่ามีเรื่องทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้นทั่วไป แต่ถ้าหยิบมาคุยทางสาธารณะไม่ยอมรับกัน ผมคิดว่าไม้เด็ดที่จะจัดการได้ ก็ต้องคุ้ยดูว่า มีเรื่องนี้จริงหรือไม่ ต้องเล่นเรื่องแรงเลย เรื่องสายสัมพันธ์พรรคเพื่อไทยน้ำหนักมันน้อย"
"เข้าใจว่าฝ่ายตรงข้าม คนที่ไม่ชอบคุณชัชชาติ อาจจะวางแผน เตรียมข้อมูลเปิดในช่วงท้ายๆ ที่ตั้งหลักไม่ทัน แต่หากชี้แจงดี ก็ผ่านพ้นไปได้ หากชี้แจงไม่ดีก็เข้าตัว" อ.วีระศักดิ์ กล่าว
สำรวจรัฐประหาร 57 สัมพันธ์เลือกผู้ว่าฯ
ขณะที่ ดร.ธำรงศักดิ์ กล่าวว่า ตนส่งนักศึกษาไปทำโพล 3 เขต ประกอบด้วย เขตดอนเมือง เขตพระนคร และเขตจอมทอง โดยใช้ฐานของนิด้าโพลในการแบ่งเขตกรุงเทพฯเหนือ กรุงเทพฯตะวันออก กรุงเทพฯชั้นกลาง ฝั่งธนบุรี เพื่อทำสำรวจทัศนคติของประชาชนต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ - ส.ก. และถามไปถึงคนกทม.สนับสนุนรัฐประหาร 2557 หรือไม่ ซึ่งเรายังไม่ปล่อยข้อมูล จะเปิดสัปดาห์หน้า
ที่สำคัญ ได้สำรวจจังหวัดต่างๆ เกี่ยวกับทัศนคติของประชาชนต่อการรัฐประหาร 2557 จำนวนมาก
สำหรับการสำรวจทัศนคติ คน กทม.จะไปสัมพันธ์กับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.อย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะเริ่มต้น ก็ได้เห็นภาพลักษณ์การแตกกลุ่มของผู้สมัครเป็น 2 ส่วนใหญ่ สนับสนุนการรัฐประหารโดยตรงโดยอ้อม และไม่เอารัฐประหาร
นี่คือสนาม กทม.ตอนนี้ ดังนั้นที่เราบอกว่า การแข่งขันของผู้ว่าฯ กทม.สัมพันธ์กับการรัฐประหารปี 2557 ไหม ก็จะออกมาในทิศทางที่เราเห็น คือสัมพันธ์กันมาก อย่างเช่น พล.ต.อ.อัศวิน ตอนแรกก็คิดว่าไม่น่าลงสมัคร เพราะอยู่ 5 ปีครึ่งแล้ว ก็หมายความว่าคะแนนทีี่ได้รับเป็นการประเมินผลงานว่าเป็นอย่างไร และอีกส่วนคือเอาคนที่สนับสนุน พล.ต.อ.อัศวิน หรือไม่ ก็คือ คสช.ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ จึงเป็นเรื่องที่เกี่่ยวเนื่องกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้
สำหรับผลการสำรวจของเขตดอนเมืองและเขตพระนคร จำนวน 800 ตัวอย่าง ทิศทางพบว่า จำนวนร้อยละ 93 ระบุว่าไม่สนับสนุนการรัฐประหารปี 2557 ส่วนอีกร้อยละ 7 ไม่แสดงความคิดเห็น มีเพียงร้อยละ 1 ที่สนับสนุนการรัฐประหารปี 2557 ซึ่งหมายความว่า ตอนนี้คนที่ตอบแบบสอบถามคือ ไม่เอารัฐประหารปี 2557 เท่ากับไม่เอา คสช.
"ผมเขียนบทความอธิบายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีผลจะโน้มน้าวใครให้ได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้นไหม ปรากฎว่าผลสำรวจประชาชนทั้งประเทศ เขาไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ โดยเฉพาะทัศนคติด้านการบริหารงานด้านเศรษฐกิจ กระทั่งประชาชนถามนักศึกษาที่ไปสำรวจว่า มีคะแนนต่ำกว่า 1 ไหม ก็ส่งผลต่อสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม."
เมื่อถามว่าทิศทางการเมืองใหญ่ มีผลต่อผู้ว่าฯ กทม.ใช่ไหม อ.ธำรงศักดิ์ กล่าวว่า ทัศนคติประชาชนต่อการรัฐประหารมีส่วนกำหนดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์เคยส่งสัญญาณสนับสนุนผู้สมัครบางคนไว้แล้ว ขณะเดียวกันประชาชนบางกลุ่มให้คะแนนพล.ต.อ.อัศวินจากความชื่นชอบตัวบุคคล”
ผู้ดำเนินรายการถามว่า หากบอกว่าประชาชนร้อยละ 97 ไม่เอารัฐประหาร แต่คะแนนของนายชัชชาติและนายวิโรจน์ รวมกันยังได้ร้อยละ 50 ดร.ธำรงศักดิ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังมีฐานเสียงของเขาอยู่ ทำให้คะแนนของนายสุชัชวีร์ยังพอมีอยู่ โดยในเขตพระนครมีคะแนนอยู่ร้อยละ 10 แต่คะแนนผู้สมัคร ส.ก. มีน้อยมาก
ฟันธง“ไอโอ”โจมตีไม่เข้าเป้า
“ขณะเดียวกันคะแนนของนายชัชชาติในเขตดอนเมือง เขตพระนคร จะได้จากคนทุกกลุ่ม ทุกช่วงชั้นอายุ ยกเว้นกลุ่ม 58 ปีขึ้นไป จะให้คะแนนนายชัชชาติเพียงครึ่งหนึ่ง โดยในเขตพระนครมีถึงร้อยละ 50 ที่ยังไม่ตัดสินใจ”
ผู้ดำเนินรายการถามว่า ในช่วง 3 วันสุดท้ายจะมีอะไรทำให้เกิดจุดเปลี่ยนต่อนายชัชชาติได้บ้าง อ.ธำรงศักดิ์ กล่าวว่า "มันมีวิชามารอยู่ 2 ครั้ง ครั้งแรกปี 2535 คำว่า “จำลองพาคนไปตาย” ทำให้คนกรุงเทพฯเลือกพรรคพลังธรรมน้อยลง ครั้งที่สองปี 2556 คำว่า “ไม่เลือกเราเขามาแน่” และครั้งนี้เป็นครั้งที่สามปล่อยคำว่า “ไม่เลือกเราเขามาแน่ ภาคสอง”
“แต่สิ่งที่แตกต่างคือ เราคือใคร เขาคือใคร เราคือฝ่ายรัฐประหารใช่ไหม เขาคือฝ่ายประชาธิปไตยใช่ไหม ครั้งก่อนการใช้วิชามารจะสำเร็จได้ต้องเป็นม้าที่คู่คี่กันสองตัวเท่านั้น ไม่มีคู่แข่งที่สาม สี่ ห้า มาเบียด จึงจะรู้ว่าวิชามารที่จะล้มคู่แข่งคือตัวไหน แต่ตอนนี้แผงคำว่าเรา คือใครบ้าง ถ้าหมายถึง พล.ต.อ.อัศวิน นายสุชัชวีร์ คุณสกลธี คุณรสนา แผงเรามันเยอะไปไหม”
อ.ธำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีการผลิตวาทกรรม เพื่อโจมตีนายชัชชาติมากเป็นพิเศษ ซึ่งในช่วง 7 วันสุดท้าย จะมีไอโอเหล่านี้ออกมามากขึ้น แต่ตนมองว่าหากดูตามโพลคนเจน X Y Z ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกใคร ถ้าดูจากโพลจะพบว่าไอโอจุดประเด็นไม่ติด
“ตอนนี้ยิ่งกระหน่ำไปที่คุณชัชชาติมากเท่าไร ผู้มีสิทธิจะออกมาสนับสนุนมากขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีสามารถทำให้ทีมคุณชัชชาติตอบโต้ได้เร็ว ต่างจากเมื่อปี 2556 และหากไอโอโจมตีได้ผลจริง คงได้ผลมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว” อ.ธำรงศักดิ์ ระบุ