“ก้าวไกล” ดับเครื่องชน “เพื่อไทย” - “ส.ก.ส้ม” สไลเดอร์ขวางแลนด์สไลด์
มีข้อน่าสังเกตว่า ระยะหลัง คะแนนนิยมวิโรจน์ดีขึ้น เพราะการที่ได้ขึ้นเวทีดีเบตบ่อยครั้ง วิโรจน์มีสไตล์สายบู๊ ตั้งแต่สมัยเป็น ส.ส. และได้โชว์ลีลาดาวสภาฯรุ่นใหม่
เวทีปราศรัยใหญ่ของ“พรรคก้าวไกล” ที่จัดให้ “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ที่ลานอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน (วงเวียนใหญ่) เมื่อ 14 พ.ค.โดยเชิญ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า และ “พรรณิการ์ วานิช” โฆษกคณะก้าวหน้า มาร่วมเวที
เหตุที่ต้องเชิญทั้งสองแกนนำคณะก้าวหน้า ก็เนื่องจากก่อนหน้านี้ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย มาลงพื้นที่หาเสียงกับผู้สมัคร ส.ก.เพื่อไทยมาแล้ว พรรคสีส้มจึงต้องดึง “บิ๊กเนม” มาดึงคะแนนเสียงชาว กทม.เช่นกัน
โค้งสุดท้าย พรรคเพื่อไทยงัดกลยุทธ์โหวตเชิงยุทธศาสตร์ “อยากใช้เพื่อไทย เลือกเพื่อไทยให้ชนะขาด” พร้อมกับเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ วันที่ 18 พ.ค.2565 ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพฯ
มีข้อน่าสังเกตว่า ระยะหลัง คะแนนนิยมวิโรจน์ดีขึ้น เพราะการที่ได้ขึ้นเวทีดีเบตบ่อยครั้ง วิโรจน์มีสไตล์สายบู๊ ตั้งแต่สมัยเป็น ส.ส. และได้โชว์ลีลาดาวสภาฯรุ่นใหม่ จึงมีคำขวัญประจำตัวว่า “ชนทุกปัญหา” คำประกาศของวิโรจน์ สะท้อนบุคลิกนักการเมืองค่ายสีส้ม ที่เน้นอุดมการณ์ประชาธิปไตย
แม้โพลทุกสำนักจะชี้ว่า “วิโรจน์” มีคะแนนนิยมวิ่งไล่ตาม ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อยู่เยอะก็ตาม แต่ผลการสำรวจคะแนนนิยม ส.ก. ปรากฏว่า ผู้สมัคร ส.ก.พรรคก้าวไกล มาแรงในทุกเขต
สำหรับพรรคเพื่อไทย ที่ตั้งเป้า ส.ก.ไว้ 25 ที่นั่ง ดูจะไม่ได้ตามเป้าเสียแล้ว เนื่องจากกระแสชัชชาติมิได้เอื้อต่อผู้สมัคร ส.ก.เพื่อไทยมากนัก ด้วยเหตุว่า ชัชชาติ พยายามสลัดตัวเองให้พ้นจากชายคาสีแดง เพื่อหวังเรียกคะแนนจากคนชั้นกลาง บ้านมีรั้ว และตึกสูง
จากเป้าหมาย 25 ที่นั่ง โพลวงในประเมินว่า เพื่อไทยจะมีโอกาสคว้าชัยได้แค่ 10-15 เขต จึงทำให้ทีมยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ต้องแก้เกมส่ง อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ลงช่วยผู้สมัคร ส.ก.เพื่อไทย หาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายในบางเขต ที่มีคะแนนสูสีกับพรรคก้าวไกล
อีกด้านหนึ่ง พรรคเพื่อไทยปั้นนโยบาย 50 เขต 50 โรงพยาบาล ก้าวต่อไปของ 30 บาทรักษาทุกโรค สำหรับการเลือกตั้ง ส.ก. โดย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กระโดดเข้ามาเล่นด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง ส.ก. ยังได้เสนอนโยบายกองทุนพัฒนาชุมชน 200000 บาท ที่มีต้นแบบจากกองทุนพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนเมือง (เอสเอ็มแอล) สมัยพรรคไทยรักไทย และเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยกินได้
หมอมิ้งประเมินว่า นโยบายประชานิยมเวอร์ชั่นใหม่ ที่โดนใจชาวบ้าน ผู้สมัคร ส.ก.เพื่อไทย จะได้รับเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ “เครื่องจักรสีส้ม”
การส่ง “วิโรจน์” ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกลคาดหมายว่า จะขยายฐานคะแนนเสียงเดิมของพรรคออกไปได้ และจากเดิมสมัยเลือกตั้งปี 2562 พรรคอนาคตใหม่ได้ 8 แสนเสียง
มีรายงานว่า โพลของพรรคก้าวไกล พบว่า คะแนนความนิยมของผู้สมัคร ส.ก. ยังมีคะแนนนำอยู่ประมาณ 20 เขต และมีโอกาสที่จะช่วงชิงได้อีก 14 เขต
เขตรอบในกรุงเทพฯ ที่เคยเป็นฐานเก่าแก่ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีอดีต ส.ก.หลายสมัยลงสนามในครั้งนี้ด้วย ปรากฏว่า พรรคก้าวไกลมีคะแนนนิยมนำพรรคประชาธิปัตย์ทุกเขต
รวมถึงพื้นที่ฝั่งธนบุรี และฝั่งกรุงเทพตะวันออก ฐานที่มั่นของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลก็มีคะแนนนิยมดีวันดีคืน ทำให้อุ๊งอิ๊ง ต้องลงมาเดินพบประชาชนในเขตตลิ่งชัน และเขตคันนายาว
ที่น่าสนใจ สำหรับสมรภูมิเลือกตั้งท้องถิ่น กทม.คือ วันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และเลือกตั้ง ส.ก.วันเดียวกัน ส่งผลเชิงบวกอย่างมากกับพรรคก้าวไกล เพราะหากคนมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ก.จำนวนมาก ก็จะทำให้ผู้สมัครของพรรคสีส้ม มีโอกาสชนะสูง
ถ้าเป็นการเลือกตั้งในอดีต วันเลือกตั้ง ส.ก. จะเป็นคนละวันกับเลือกผู้ว่าฯ กทม. ทำให้มีคนออกมาใช้สิทธิ์เลือก ส.ก.น้อย จึงเป็นโอกาสของนักการเมืองประเภทบ้านใหญ่ได้รับเลือกเป็น ส.ก.
ดังนั้น ผลการเลือกตั้ง ส.ก.จะให้คำตอบว่า การเลือกตั้ง ส.ส.กทม.สมัยหน้า ก้าวไกลยังมีอนาคตอยู่หรือไม่ และแกนนำก้าวไกล อาจจะลุ้นผล ส.ก.มากกว่าเลือกผู้ว่าฯ กทม.เสียด้วยซ้ำ