โพลลับ “ก้าวไกล” ไขความมั่นใจ “วิโรจน์” แซงโค้งสุดท้ายซิวชัย “ผู้ว่าฯ กทม.”
“สำหรับผู้ว่าฯ กทม. ตามโพลที่เราทำ คล้ายคลึงกับผลโพลของ “พรรคใหญ่” พรรคหนึ่ง คือ “วิโรจน์” ตามอยู่ที่ลำดับ 2 ส่วน “ชัชชาติ” ยังนำอยู่ลำดับ 1 แต่คะแนนใกล้เคียงกันอย่างมาก” แกนนำพรรคก้าวไกล ระบุ
“หลังการปราศรัยใหญ่ของพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ยิ่งสัมผัสได้ว่าพี่น้องประชาชนตอบรับมากขึ้น เพราะเรามองเห็นปัญหาและอนาคตใหม่ของกรุงเทพมหานครในภาพเดียวกัน จึงพร้อมสนับสนุนผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล ทั้ง 2 ใบ ผมมั่นใจว่าวันที่ 22 พ.ค.นี้ พรรคก้าวไกลจะพลิกแซงเข้าวิน สามารถปักธงกรุงเทพได้ มี พี่วิโรจน์ เป็นผู้ว่า และมี ส.ก.เกินครึ่งสภา กทม.อย่างแน่นอน”
คือถ้อยแถลงของ “เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ” รองโฆษกพรรคก้าวไกล ที่แสดงความมั่นใจอย่างยิ่งว่า “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ของพรรคก้าวไกล จะชนะการเลือกตั้ง พลิกแซงทุกผลโพลเข้าวินเป็นผู้ว่าฯ กทม.ได้ เช่นเดียวกับผู้สมัคร ส.ก.ของพรรค จะมีเกินครึ่งสภา กทม.อย่างแน่นอน
อ่านข่าว: “ก้าวไกล” มั่นใจ “วิโรจน์” พลิกชนะ “ผู้ว่าฯ กทม.” กวาด ส.ก.เกินครึ่ง
จังหวะเดียวกับ “ชัยธวัช ตุลาธน” เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวบนเวทีปราศรัยใหญ่ของ “วิโรจน์” เมื่อ 14 พ.ค. 2565 ในทำนองเดียวกันว่า วันแรกที่เราเปิดตัวนายวิโรจน์ เป็นผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. ถ้าเปรียบเหมือนการแข่งขันฟุตบอล 5 นาทีแรกเหมือนถูกนำอยู่ 3-0 แต่ตนเชื่อมั่นว่านายวิโรจน์ จะใช้ 15 นาทีสุดท้ายตีเสมอเป็น 3-3 และชนะเป็น 4-3 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
“นี่ไม่ใช่มโนเข้าข้างตัวเอง แต่เป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจริง เซียนทุกสำนักไม่เคยให้ราคา ส.ก. จากพรรคก้าวไกล เพราะที่ผ่านมา ส.ก. ล้วนชนะจากคะแนนเสียงจัดตั้งและเครือข่ายอุปถัมภ์ ไม่มีใครเคยคิดว่า ส.ก. แบบพรรคก้าวไกลสามารถช่วงชิงชัยชนะได้ แต่วันนี้โพลทุกสำนักประเมินตรงกันว่าจะมี ส.ก. จากพรรคก้าวไกล เกิน 20 เขต” ชัยธวัช ระบุ
อ่านข่าว: จบปัญหาเรื้อรังต้องใช้ยาแรง "ก้าวไกล" เผยคะแนน "วิโรจน์" ตีตื้นโค้งสุดท้าย
ในช่วงที่ผ่านมา โพลหลายสำนัก หลายสถาบันการศึกษา ต่างระบุว่า “ชัชชาติ สิทธิพันธ์” อดีต รมว.คมนาคม สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเมื่อปี 2562 ที่ผันตัวมาลง “อิสระ” นอนมาอยู่ที่ลำดับ 1 ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
ส่วน“วิโรจน์” มีคะแนนความนิยมอยู่ที่ลำดับ 3-4 น้อยครั้งที่จะเบียดขึ้นมาที่ 2 ได้ แต่ไม่เคยได้ขึ้นถึงลำดับ 1 มาก่อน
ทำไม “พรรคก้าวไกล” ถึงมั่นใจเช่นนั้น
“โพลของเรา กับโพลของสำนักต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน” คือคำอธิบายของ “แกนนำ” ระดับสูงในพรรคก้าวไกล ที่ดูแลการเลือกตั้งโซน กทม.
โดยตามผลโพลลับ “ครั้งสุดท้าย” ที่หยั่งกระแสคน กทม. พบว่า “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรค มีความนิยมเบียดกับ “ชัชชาติ สิทธิพันธ์” ผู้สมัครอิสระ ชนิด “หายใจรดต้นคอ”
ดังนั้นหลังจากนี้พรรคก้าวไกล เตรียมลงพื้นที่โค้งสุดท้ายอย่างหนัก เพื่อหวังคว้าชัยชนะศึกชิง "พ่อเมืองหลวง" ในรอบ 9 ปีให้ได้
“สำหรับผู้ว่าฯ กทม. ตามโพลที่เราทำ คล้ายคลึงกับผลโพลของ “พรรคใหญ่” พรรคหนึ่ง คือ “วิโรจน์” ตามอยู่ที่ลำดับ 2 ส่วน “ชัชชาติ” ยังนำอยู่ลำดับ 1 แต่คะแนนใกล้เคียงกันอย่างมาก” แกนนำพรรคก้าวไกล ระบุ
ส่วนคะแนนความนิยมของผู้สมัคร ส.ก.พรรคก้าวไกล ตาม “ผลโพลของพรรค” พบว่ายังมีคะแนนนำอยู่ราว 20 เขต และมีโอกาสที่จะช่วงชิงได้อีก 14 เขต เว้นแต่เขตที่ “แข็งโป้ก” จริง ๆ เช่น “คลองเตย” ซึ่งเป็นฐานเสียงของ “รักษ์กรุงเทพ” กลุ่มของ “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” เป็นต้น
แกนนำพรรคสีส้มรายนี้ เชื่อว่า การส่ง “วิโรจน์” ลงสมัครจะขยายฐานคะแนนเสียงเดิมของพรรคออกไปได้ และคาดว่าจะได้คะแนน “ป๊อปปูลาร์โหวต” เท่าหรือมากกว่าการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อปี 2562 ที่ขณะนั้นพรรคอนาคตใหม่ได้ไปราว 8 แสนเสียง
“คิดว่าการวางตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เป็น “วิโรจน์” ทำให้เราตรึงฐานเดิมได้ แม้ว่าจะมีบางส่วนอาจจะไปเลือกผู้ว่าฯ กทม. ที่ไม่ใช่ของพรรคก้าวไกล แต่เชื่อว่าส่วนใหญ่จะได้คะแนนเสียงเดิมทั้งหมด ขณะเดียวกันตัวผู้สมัครอย่าง “วิโรจน์” เอง น่าจะขยายฐานออกจากฐานเดิมของพรรคได้พอสมควร”
โดยเฉพาะการรุกพื้นที่ “สีแดง” ใน กทม. ส่งผลให้ “พรรคเพื่อไทย” ระส่ำระส่ายอย่างหนักถึงกับต้องส่ง “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย” อย่าง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร มาลงพื้นที่ด้วยตัวเอง เพื่อเรียกคะแนนความนิยมกลับคืนมา ทำให้ “ก้าวไกล” ต้องรีบแก้เกมทันควัน
ในการปราศรัยใหญ่วันที่ 14 พ.ค. 2565 เชิญ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า “พรรณิการ์ วานิช” โฆษกคณะก้าวหน้า มาร่วมเวทีกับ “วิโรจน์” ด้วย เพื่อดึงฐานเสียงความนิยมกลับคืนมา
แกนนำของพรรครายนี้ ยืนยันว่า ปัจจัยชี้ขาดการเลือกตั้ง “เบอร์ 1 เสาชิงช้า” ครั้งนี้คือ ผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. เป็นคนละวัน ทำให้มีคนมาเลือก ส.ก.น้อย แต่คราวนี้จัดวันเดียวกัน จะส่งผลเชิงบวกอย่างมากกับ “ก้าวไกล” เพราะหากคนมาเลือก ส.ก.เยอะ ทำให้ผู้สมัครของพรรคมีโอกาสเยอะที่จะชนะ
ทั้งหมดคือ “โพลลับ” ของ “พรรคก้าวไกล” ไขคำตอบว่าทำไมถึงเชื่อมั่นว่า “วิโรจน์” จะเบียดแซงผู้สมัครทุกรายเข้าวินเป็น “ผู้ว่าฯ กทม.” ได้ในครั้งนี้
ส่วนจะจริงตามนี้หรือไม่ ต้องรอลุ้นผลวันกาบัตร 22 พ.ค.เท่านั้น