“ยุทธพงศ์”เปิดชื่อ “เสี่ยอ๊อด”คนสนิท“สันติ”จุ้นประมูลท่อส่งน้ำอีอีซี

“ยุทธพงศ์”เปิดชื่อ “เสี่ยอ๊อด”คนสนิท“สันติ”จุ้นประมูลท่อส่งน้ำอีอีซี

“ยุทธพงศ์”เปิดชื่อ “เสี่ยอ๊อด”คนสนิท “สันติ”จุ้นประมูลท่อส่งน้ำอีอีซี เตรียมยื่นหนังสือถึง “ประยุทธ์-อาคม” ปมพิรุธ ลั่นเตรียมแฉกลางสภา ขู่อาจมีคนติดคุก

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรคพท. พร้อมด้วยนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี และน.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย พรรคพท. ร่วมกันแถลงข่าวกรณีความไม่โปร่งใสในการประมูลท่อส่งน้ำสายหลักใน EEC มูลค่า 25,000 ล้านบาท โดยนายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ท่องส่งน้ำสายหลักจะมีอยู่ด้วยกัน 3 เส้น 1.โครงการท่อส่งน้ำดอกกราย 2.โครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และ 3.ท่อส่งน้ำจากหนองค้อถึงแหลมฉบังระยะที่ 2 โดยเส้นนี้สำคัญที่สุดเพราะเป็นที่ตั้งของท่าเรือ และโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ 

รวมทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น และะใช้น้ำมากที่สุด เรื่องนี้กรมธนารักษ์จะเซ็นต์สัญญากับบริษัทวงษ์สยาม แต่ตนและคณะได้ยื่นหนังสือคัดค้านต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานอีอีซี เพราะเป็นการปล้นชาติ ปล้นแผ่นดิน ซึ่งวันนี้ตนก็ยังยืนยันว่าเป็นอย่างนั้น และพรรคพท.มีหลักฐานเป็นเล่มๆที่จะนำมาแฉ และพร้อมล้มรัฐบาลด้วยเรื่องนี้

นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนายกฯสั่งให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวได้มีการตั้งนายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน โดยจะสรุปผลการตรวจสอบในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ ซึ่งจะฟอกขาวให้ว่าไม่มีใครผิด ตนและพรรรพท.บอกเลยว่าคุณจะสรุปว่าไม่ผิดรับรองติดคุกแน่ และวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ ตนจะยื่นเอกสารหลักฐานที่มีให้พล.อ.ประยุทธ์ และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานที่ราชพัสดุโดยตำแหน่ง 
 

“ถ้าทั้ง 2 ท่านไม่ดำเนินการอะไรจะผิดมาตรา 157 ซึ่งตนจะอภิปรายท่านแน่ โดยตัวอย่างแรก คือ กรมธนารักษ์แจงว่าการที่ไม่ทำอีบิดดิ้งเพราะไปจ้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ศึกษาฯ ใช้งบกว่า 6.5 ล้านบาท ผู้ว่าจ้างคือ นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ขณะนั้น ซึ่งตามสัญญาระบุว่าห้ามจ้างช่วงต่อ”

ทั้งนี้ปรากฎว่า หนังสือรายงานทั้งหมดของโครงการท่อส่งน้ำอีอีซีนี้ มหาวิมหาวิทยาลัยเกษตรไม่ได้ทำเองแต่ไปจ้างให้มูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลังเป็นผู้ดำเนินการด้วย. นอกจากนี้ ระเบียบกระทรวงการคลังสำหรับที่ราชพัสดุว่าด้วยการคัดเลือกเอกชนเพื่อจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุที่มีราคาเกินกว่า 500 ล้านบาท ระบุให้ใช้วิธีประมูล ถ้าใช้วิธีการประมูลแล้วไม่ได้ ถึงจะมาใช้วิธีการคัดเลือก แต่เงื่อนไขคือจะต้องมีบริษัทเข้ามาเสนออย่างน้อย 3 ราย

“ผมขอตั้งคำถามไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ ออกสมัยท่าน แล้วท่านก็ประกาศว่าจะจัดการกับการโกง ดังนั้น การอภิปรายครั้งนี้พรรคพท.พร้อมมาก พล.อ.ประยุทธ์ นายอาคม และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อย่าหนีไปไหนก็แล้วกัน ตนจะแฉให้ดู เพราะคุณละเว้น ไม่เคยทำอะไรเลย พวกคุณทั้งนั้นที่โกง”
 

นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า การประมูลเที่ยวนี้มีพิรุธ ประมูลครั้งแรกเมื่อ 26 สิงหาคม 64 บริษัทอีสท์วอเตอร์ชนะการประมูลไปแล้ว จากนั้นมีการทำหนังสือขอยกเลิกการประกวดราคาครั้งที่ 1 บริษัทอีสท์วอเตอร์ฯ จึงฟ้องศาลปกครองซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาคดี นายยุทธนาฐานะประธานคัดเลือกต้องรับผิดชอบที่ไปยกเลิกการประมูล เพราะคณะกรรมการคัดเลือกมีเพียงนายยุทธนาคนเดียวที่ไม่เห็นด้วย และสั่งคว่ำการประมูล เมื่อไปแจงกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

นายยุทธพงศ์ ระบุว่าคณะกรรมการไม่เห็นด้วยและลาออกซึ่งไม่จริง ขอท้าให้เอาหลักฐานมาโชว์ และในการประมูลครั้งที่ 2 ยื่นซองวันที่ 29 กันยายน 64 ก่อนที่นายยุทธนาจะเกษียณราชการวันที่ 30 กันยายน 64 มีการเปลี่ยนกรรมการใหม่ยกชุด มีเพียงนายยุทธนาซึ่งเป็นประธานที่ยังอยู่ และให้ บริษัทวงษ์สยามชนะ นี่เป็นข้อพิรุธ นอกจากนี้ มีตัวละครชื่อเสี่ยอ๊อดซึ่งนายสันติรู้จักดี มาขู่คณะกรรมการว่า บริษัทวงษ์สยามเท่านั้นที่ต้องชนะ 

“ดังนั้นผมเตรียมจะแฉในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าเสี่ยอ๊อดเป็นใคร งานนี้ต้องเอาติดคุกติดตะรางแน่ พรรคพท.ประกาศพร้อมล้มรัฐบาล เอกสารหลักฐานมีหมด เรื่องนี้ได้เสียแน่ ไล่ตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ นายอาคม และนายสันติ อภิปรายไม่วางใจเที่ยวนี้คุณโดนแน่ มั่นใจว่าข้อมูที่มีล้มพวกคุณได้แน่นอน” นายยุทธพงศ์ กล่าว