เร่งรับรองผลเลือกตั้ง เร่งผู้ว่าฯ ชัชชาติทำงาน
กกต.ควรรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ตัวแทนที่ได้รับมอบหมายจากประชาชนได้ทำหน้าที่ที่เขาสมควรได้ทำ
สุดยอดคนไฟแรงวินาทีนี้ต้องยกนิ้วให้ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพราะนับตั้งแต่ชนะเลือกตั้งมาแบบถล่มทลายกว่า 1.3 ล้านคะแนน สูงสุดนับตั้งแต่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เจ้าตัวก็ลงพื้นที่ไม่ได้หยุดหย่อน เรื่องวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าไม่ต้องพูดถึงทำเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว วานนี้ (26 พ.ค.) ไปวิ่งที่สวนบางกอกใหญ่ เขตบางกอกใหญ่ พบปะและร่วมกิจกรรมออกกำลังกายกับประชาชนที่เดินทางมาใช้สวนสาธารณะ พร้อมกับสำรวจพื้นที่สีเขียวและพื้นที่ว่างเปล่าที่อาจเป็นประโยชน์ใช้สอยโดยรอบบริเวณชุมชนเขตบางกอกใหญ่ เนื่องจากพื้นที่สีเขียวยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน เรียกได้ว่าระหว่างที่รอ กกต.รับรองผลการเลือกตั้ง ว่าที่ ผู้ว่าฯ กทม.ไม่ได้ปล่อยเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
กรณีรอการรับรองผลการเลือกตั้งชวนให้คิดถึงบทเรียนจากต่างประเทศ เมื่อวันเสาร์ที่ 21 พ.ค.ออสเตรเลียมีการเลือกตั้งทั่วไปซึ่งเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างแอนโธนี อัลบานีส จากพรรคแรงงาน กับนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน จากพรรคเสรีนิยม และในเวลาไล่เลี่ยกันวันอังคาร 24 พ.ค.จะมีการประชุมผู้นำกลุ่ม Quad อันประกอบไปด้วยออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้ใดก็ตามที่ชนะการเลือกตั้งออสเตรเลียจะต้องบินไปประชุมกลุ่ม Quad ที่กรุงโตเกียว อ่านข่าวแล้วแทบไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นไปได้อย่างไร ทำไมกระบวนการถึงเร็วขนาดนั้น เอาเข้าจริงออสเตรเลียทำได้ เลือกตั้งวันเสาร์ ผลปรากฏว่าอัลบานีสคว้าชัยชนะเป็นนายกฯ คนใหม่ ทำพิธีสาบานตนในวันจันทร์ (23 พ.ค.) หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงก็บินไปโตเกียวเพื่อร่วมประชุม Quad ในวันอังคาร (24 พ.ค.)
อีกกรณีที่เกิดขึ้นในเดือนนี้คือการเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 9 พ.ค. เฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ “บองบอง” ชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย แม้เป็นลูกชายอดีตผู้นำเผด็จการที่ใช้กฎอัยการศึกปกครองประเทศอย่างเหี้ยมโหด แต่ในเมื่อเสียงประชาชนอันถือว่าเป็นอาณัติสวรรค์เลือกให้เขาเป็นผู้นำก็ต้องเป็นไปตามนั้น หลังวันเลือกตั้งอาจมีคนประท้วงบ้างแต่ก็ไม่ได้มีผลใดๆ วันพุธที่ผ่านมา (25 พ.ค.) รัฐสภาฟิลิปปินส์รับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี บองบองและซารา ดูเตอร์เต ผู้นำคนใหม่จะสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 30 มิ.ย. รวมเวลาจากวันเลือกตั้งถึงวันสภารับรอง 16 วัน นับถึงวันสาบานตน 21 วัน
สำหรับคน กทม. ทั้งกองเชียร์และกองแช่งที่อยากเห็นฝีมือผู้ว่าฯ คนใหม่เต็มแก่ คงต้องอดใจรอกันอีกสักนิด เข้าทำนอง “รักแล้วรอหน่อย” แต่ถ้าไม่มีปัญหาอะไรติดขัดก็อยากให้ กกต.รับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ตัวแทนที่ได้รับมอบหมายจากประชาชนได้ทำหน้าที่ที่เขาสมควรได้ทำ ซึ่งคนที่ได้รับประโยชน์ไม่ใช่ใครนอกจากประชาชน กทม.นั่นเอง ก็เห็นว่าที่ผู้ว่าฯ ไฟแรงซะขนาดนี้แล้วใครล่ะจะอยากทอดเวลาออกไปให้เสียเปล่า