“ชินวรณ์” ยันรัฐบาลพร้อมแจงอภิปรายงบฯปี 66 มึน “เศรษฐกิจไทย” จ้องล้ม

เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2565 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการเตรียมผู้อภิปรายชี้แจงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ว่า ขณะนี้วิปรัฐบาลได้กำหนดสมาชิก คณะกรรมการ (กมธ.) พิจารณา พ.ร.บ.งบ 2566 จำนวน 64 คน ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี (ครม.) 16 คน ส.ส.รัฐบาล 27 คน และส.ส.ฝ่ายค้าน 21 คน โดยแบ่งตามเวลาที่ได้รับมอบหมายมา 22 ชั่วโมง คือ ครม. 9 ชั่วโมง และส.ส.รัฐบาล 13 ชั่วโมง

นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังได้ขอความร่วมมือให้ทุกพรรคร่วมรัฐบาล ช่วยกันรับผิดชอบจัดผู้อภิปราย และแบ่งเวลากัน ในส่วนของพรรค ปชป. ได้มีผู้ประสงค์อภิปราย 17 คน เช่น นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และที่จะอภิปราย ในภาพรวม โดยจะแบ่งการอภิปราย เป็นประเด็นนโยบายของรัฐบาล และนโยบายของพรรค ปชป. เพื่อให้เห็นถึงความก้าวหน้า ที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้จ่ายงบตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

เมื่อถามว่า กรณีที่ประธานวิปฝ่ายค้านระบุว่าร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 2566 เหมือนขอทานจัดงานเลี้ยงวันเกิดนั้น นายชินวรณ์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านมองว่ารัฐบาลไม่มีผลงาน จัดงบประมาณไม่ตอบโจทย์ และไม่ก่อให้เกิดรายได้ แต่ฝ่ายรัฐบาลมองว่า งบประมาณปี 2566 ต่อเนื่องจากการแก้ไขวิกฤตโควิด-19 ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ถือว่าทำได้ในระดับที่น่าพอใจ จนได้รับการชื่นชมจากองค์การอนามัยโลก แม้อาจจะไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ ดังนั้นเราจึงต้องชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลจัดงบเพื่อโครงสร้างพื้นฐาน และส่งเสริมองค์ความรู้ทางเศรษฐกิจ และการวิจัย ที่รัฐบาลเตรียมการและความพร้อมรองรับการขยายตัวหลังโควิด-19

เมื่อถามว่า มีความมั่นใจว่าจะสามารถโน้มน้าวให้ฝ่ายค้านโหวตผ่านร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 2566 หรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของแต่ละฝ่ายที่จะอธิบายเหตุผลให้ประชาชนเข้าใจ การจะไปโน้มน้าวแต่ละฝ่ายคงเป็นเรื่องยาก เพราะความเชื่อยังแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย 

เมื่อถามถึงท่าทีของพรรคเศรษฐกิจไทย และพรรคเล็ก ที่มีแนวโน้มว่าจะไม่โหวตผ่าน นายชินวรณ์ กล่าวว่า ยังมั่นใจว่าร่าง พ.ร.บ.งบฯ จะผ่านในวาระ 1 อย่างแน่นอน ประการแรก คือ ทุกพรรคร่วมรัฐบาล ที่รวมถึงพรรคเศรษฐกิจไทยมีส่วนร่วมในวิปรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง และยังร่วมกันเตรียมพร้อมอภิปราย และเห็นชอบในการตั้ง กมธ. จึงย้อนแย้งกับการบอกว่าจะคว่ำในวาระ 1 ประการที่สอง คือ จำนวน ส.ส.ทั้งสภา มี 476 คน เป็นฝ่ายรัฐบาล 268 คน และฝ่ายค้าน 208 คน การลงมติงบ ใช้เสียงข้างมาก ฝ่ายรัฐบาลยังมากกว่าแน่นอน ถึงแม้จะมีกลุ่มอื่นเป็นตัวแปรบ้าง และประการที่สาม โดยปกติสภา จะต้องรับหลักการงบ ในวาระ 1 เพราะเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องจัดทำงบประจำปี เพื่อนำไปใช้ให้ทันภายใน 105 วัน

เมื่อถามว่า ต่อให้พรรคเศรษฐกิจไทย และพรรคเล็กไม่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบฯ 2566 เสียงโหวตจะยังพอให้โหวตผ่านหรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีความมั่นใจ และที่สำคัญคือ พรรคการเมืองใดลงมติอย่างไร ก็ต้องตอบประชาชนให้ได้ ว่าลงมติเพื่อประโยชน์ของตัวเอง และความขัดแย้งทางการเมือง หรือต้องการลงมติให้เป็นไปตามหลักการของการจัดทำงบ เพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด เพราะหากงบ ไม่ผ่านจะมีผลทางการเมืองแน่นอน และรัฐบาลต้องรับผิดชอบทันที