"ประยุทธ์" พอใจสัญญาณชี้ศก.ไทยยังแกร่ง อุตสาหกรรมโตต่อเนื่องเดือนที่ 8

"ประยุทธ์" พอใจสัญญาณชี้ศก.ไทยยังแกร่ง อุตสาหกรรมโตต่อเนื่องเดือนที่ 8

"ประยุทธ์" พอใจสัญญาณชี้เศรษฐกิจไทยยังแกร่ง การผลิตอุตสาหกรรมโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ทิศทางเดียวกับการส่งออกทั้งสินค้าอุตสาหกรรมและเกษตร หนุนคนมีงานทำ ตามนโยบายรัฐบาลรักษาการฟื้นตัวประชาชนมีรายได้

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและได้รับรายงานถึงสัญญาณซึ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้รายงานให้ทราบว่าภาคการผลิตอุตสาหกรรมในเดือนเม.ย. 2565 เติบโตที่ร้อยละ 0.56 เป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่8  

ขณะที่ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมได้ประเมินแนวโน้มผ่านเครื่องมือระบบเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย (EWS-IE) พบว่าใน 1-2 เดือนข้างหน้าภาคอุตสาหกรรมจะยังขยายตัวได้ด้วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและการเติบโตของการส่งออกตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าของไทยภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายตามลำดับ ทั้งไทยและต่างประเทศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค ประชาชนมีการเดินทางและมีการใช้จ่ายมากขึ้น 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

“นายกรัฐมนตรีพอใจกับสัญญาณของเศรษฐกิจที่ล่าสุดยังชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย ทั้งการผลิตอุตสาหกรรม การส่งอออกสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าเกษตร ตลอดจนการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ทั้งหมดสะท้อนถึงแนวโน้มการมีงานทำและกำลังการใช้จ่ายของประชาชนที่จะดีขึ้น เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลมุ่งดูแลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ต่อเนื่องเพื่อเกิดการจ้างงาน ให้ประชาชนมีรายได้ น.ส.ไตรศุลี กล่าว  
 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เพื่อรักษาแรงส่งทางเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการทั้งภาคการผลิตอุตสาหกรรม และการส่งออก

โดยเฉพาะในส่วนของการส่งออกนั้นให้การสนับสนุนในการหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ อาทิ ตลาดในประเทศผู้ส่งออกน้ำมันที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ขยายตลาดจากกรณีที่ขณะนี้หลายประเทศได้มีนโยบายปกป้องอาหาร (Food protection) งดการส่งออกสินค้าบางรายการ เพื่อรักษาความมั่นคงทางอาหารในช่วงที่ถูกกระทบจากภาวะสงคราม ซึ่งการที่ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารสำคัญหลายรายการ  จะเป็นโอกาสที่ผู้ส่งออกสามารถขยายตลาดเพิ่มเติมได้