"นายกฯ" ลง "ภูเก็ต" ยัน รัฐบาล ไม่เคยท้อ มีกำลังใจทำต่อ
นายกฯ ตรวจเยี่ยมงานการพัฒนาการศึกษา จ.ภูเก็ต ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ยืนยันไม่เคยท้อ แม้เจอปัญหาถาโถม ระบุ เห็นทุกคนมีความสุข มีกำลังใจทำต่อ ลั่น ต้องรู้จักว่าบ้านเกิดเมืองนอน เพราะที่นี่คือประเทศไทย
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะอาทิ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตรวจเยี่ยมงานพัฒนาการศึกษาของจังหวัดภูเก็ต ณ โรงเรียนพุทธมงคลนิมิตร
โดยเมื่อนายกรัฐมนตรี มาถึงได้กราบนมัสการ พระครูเมตตาภิรม (วิรัตน์ อตฺถธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดมงคลนิมิตร ก่อนที่จะเป็นประธานในพิธีลงนามว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาการศึกษาอย่างยั่งยืน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากพบปะกับพวกเราทุกคน วันนี้ที่นายกฯ มาเพราะให้ความสำคัญกับภูเก็ตเพราะนี่คือหน้าตาประเทศของที่กำลังทำให้ภูเก็ตก้าวข้ามช่วงโควิดมาได้ระยะหนึ่งแล้วเป็นจังหวัดแรกที่ทำภูเก็ต sandbox ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจว่า สิ่งที่เราทำที่ภูเก็ตได้รับรู้รับทราบไปทั่วโลก จากที่ได้พบปะกับผู้นำแต่ละประเทศต่างชื่นชมและสอบถาม พร้อมจะนำไปเป็นบทเรียนในการขับเคลื่อนในประเทศอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดเหมือนเรา แม้ช่วงที่ผ่านมาเราได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงเช่นเดียวกับหลายประเทศ แต่สิ่งที่เราไม่เคยท้อคือ จิตใจของพวกเรา คนของเราไม่เคยท้อ รัฐบาลก็ไม่เคยท้อ แม้เจอปัญหาโลกแห่งความไม่แน่นอนหรือโลกแห่งความผันผวนท้าทาย และเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
โดยนายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า วันนี้ได้ฟังทุกคนมีความสุขเห็นแล้วเป็นกำลังใจให้ทำต่อไป ว่าจะทำอะไรให้ได้บ้างได้จากที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทุกคน ขอบคุณทั้งส่วนราชการ ท้องถิ่นภาคเอกชน และโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ นี่คือถือเป็นอีกหนึ่ง sandbox เรื่องการศึกษา ย้ำว่านายกฯ ให้ความสำคัญการศึกษาเป็นอย่างมาก ตั้งแต่วันแรกที่เป็นนายกฯ โดยได้กำหนดเป็นหนึ่งในหัวข้อหลักในยุทธศาสตร์ชาติของเราคือ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่ต้องพัฒนาตั้งแต่เด็กเล็ก เด็กกลาง เด็กโต จนมีงานทำ สิ่งที่ทำวันนี้คือ ทำให้ทุกคนเข้าถึงระบบการศึกษาอย่างเท่าเทียม ทุกอย่างอยู่ที่ความร่วมมือซึ่งกัน และกัน ขณะที่รัฐบาลทำทุกอย่าง แม้เผชิญปัญหาอย่างมากมาย แต่ก็ไม่ทิ้งเรื่องการศึกษาเพราะนี่คือ อนาคตของประเทศไทย
ทั้งนี้ตนขอให้คนไทยช่วยกันพัฒนาประเทศของเรา วันนี้ดีใจที่ได้มาเห็นด้วยตา และได้ยินด้วยหูตัวเองที่เราร่วมมือกัน ไม่มีใครจะสามารถรับมือกับปัญหาได้ลำพัง แต่ในส่วนความรับผิดชอบรัฐบาลต้องรับผิดชอบแน่นอน แต่จะทำอย่างไรให้เราเข้าใจซึ่งกัน และกัน และสิ่งสำคัญทำอย่างไร ผลิตคนให้ตรงกับความต้องการของประเทศ ซึ่งสิ่งที่เราทำวันนี้เป็นอนาคตของพวกเราเพื่อลูกหลานในวันข้างหน้าจบมามีงานทำ พร้อมร่วมกันพัฒนาประเทศทั้งสิ่งเก่า และสิ่งใหม่ต้องพัฒนาใหม่ทั้งหมดนี่คือ ประเทศของเรา โดยการปูพื้นฐานมาตั้งแต่เด็กอนุบาล สังคมไทยต้องเริ่มมาตั้งแต่ครอบครัว โรงเรียนและสังคม ที่จะหล่อหลอมให้เด็กทุกคนเป็นคนดี เป็นคนเก่ง มีคุณธรรม และนึกถึงคนอื่นมีใจสาธารณะ นี่คือสิ่งที่ประเทศไทยต้องการ พื้นฐานประเทศเราไม่มีด้อยกว่าใคร ถ้าย้อนประวัติศาสตร์ของเรา ไม่มีด้อยกว่าประเทศไหน สิ่งเหล่านี้ต้องให้เกิดในจิตใจของเด็กของเราให้ได้ ให้ภูมิใจให้ได้ หน้าที่และสิทธิมาด้วยกันเสมอ และเรามีสถาบันหลักของประเทศ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องผูกพันไม่ใช่บังคับปลูกฝังทุกคนให้เข้าถึงสิ่งเหล่านี้ เราจะรู้ว่าถ้าไม่สนใจ 3 เรื่องนี้เราจะไม่รู้ว่าเราเป็นใครมาจากไหน ไม่รู้ประวัติศาสตร์มาจากไหน ไม่รู้เราเกิด และโตมาจากไหนแล้วเราจะรักประเทศได้อย่างไร ถ้าทุกคนไม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์
นายกรัฐมนตรีคาดหวังว่าตั้งแต่เด็กเล็กขึ้นมาต้องเติมเรื่องเหล่านี้ ประวัติศาสตร์ ศาสนา และสถาบันหลักของเรา เราทิ้งไม่ได้ซึ่ง คิดว่าทุกคน ณ ที่นี่ และทั้งหมดประเทศไทย เข้าใจที่ตนพูดเราต้องยืนหยัดให้ได้ภายใต้บริบทสังคมไทยในปัจจุบัน อย่าให้ถูกทำลายไปโดยเด็ดขาด ทุกคนคงเข้าใจที่ตนพูด อย่างไรก็ตามหลายอย่างที่ผ่านมารัฐบาลทุ่มเทอย่างหนัก และหลายอย่างอยู่ในกระบวนการสำเร็จไปบ้างกำลังจะทำใหม่บ้าง ส่วนเรื่องงบประมาณต้องเข้าใจว่ามาหลายส่วนด้วยกัน และเพิ่งจะอภิปรายงบฯ ผ่านวาระแรกไป ขอให้เข้าใจรัฐบาลจะดูแลเต็มที่ และจะพิจารณาว่าจะสามารถตัดในส่วนที่เกินหรือเติมในส่วนที่ขาดอย่างไรได้บ้าง ยืนยันให้ความสำคัญ ในส่วนท้องถิ่น หลายอย่างรู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหนต้องช่วยกันทั้งคู่ ขอให้ทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ นี่คือแผ่นดินของเรา ทำอย่างไรเราจะไปด้วยกันได้ ขณะที่ครูขอให้เน้นการเรียนรู้แบบ Active Learning กระตุ้นให้เด็กมีหลักคิดขึ้นมา
นายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกคนคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น ขณะที่นายกฯ คิดจนหัวจะแตก ซึ่งตนเป็นนายกฯ ไม่ใช่รู้ทุกเรื่องแต่ถามคนนู้นคนนี้แล้วมาหารือกัน
ทั้งนี้ช่วงหนึ่งที่นายกฯ เยี่ยมชมบูธและนิทรรศการด้านการศึกษา พร้อมพบปะเด็กนักเรียน ได้มีเด็กนักเรียนคนหนึ่งตื่นเต้นที่ได้พบนายกฯ จนครูต้องบอกให้ใจเย็นๆ ขณะที่พลเอกประยุทธ์ ก็ได้เข้าไปสวมกอด
ทั้งนี้ในช่วงท้าย นักเรียนจากโรงเรียนพุทธมงคลนิมิตร ( พ.ม.)ได้ร่วมกันร้องเพลง "บ้านเกิดเมืองนอน" ร่วมกับ พลเอกประยุทธ์ ซึ่งเด็กๆ ระบุว่า ซุ่มซ้อมมา 3 วัน โดย นายกรัฐมนตรีได้เดินเข้าไปยังกลุ่มเด็กๆ ซ้อมร้องเพลงคลอไปด้วย พร้อมกับกล่าวย้ำกับเด็กๆ ว่าเราต้องรู้จักว่าบ้านเกิดเมืองนอนของเราคือที่ไหน ที่นี่คือประเทศไทย และนี่คือธงชาติไทยที่เราจะต้องร่วมกันรักเทิดทูนสถาบันชาติกันต่อไป
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์