"นายกฯ" เปิด ท่าเรือท่าช้าง - สาทร ยกระดับการสัญจรทางน้ำ
"นายกฯ" เปิดท่าเรือท่าช้าง - สาทร “SMART PIER SMART CONNECTION” มุ่ง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัย เชื่อมต่ออย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับการสัญจรทางน้ำ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานในพิธีเปิดท่าเรือท่าช้าง - สาทร “SMART PIER SMART CONNECTION” เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคมนาคมขนส่งทางน้ำที่เชื่อมต่อกับระบบขนส่งรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับความ สะดวก รวดเร็ว มีความปลอดภัย และมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะผู้บริหารเข้าร่วม
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมศูนย์บริการร่วมคมนาคม ซึ่งเป็นศูนย์รวมการให้บริการด้านคมนาคมแก่นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป มี 19 หน่วยงานจากสังกัดกระทรวงคมนาคมทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และทางราง มาให้บริการประชาชน ณ จุดเดียวกันแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร โดยนายกรัฐมนตรีได้ทดสอบระบบ และสอบถามปัญหา อุปสรรคการทำงาน พร้อมกล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ขอให้เรียนรู้ พัฒนาการทำงานให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน เน้นย้ำให้บูรณาการการทำงานเชื่อมโยงข้อมูลของทุกกระทรวง เพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้มาใช้บริการ สามารถเข้าถึงบริการภาครัฐแบบครบวงจรตามนโนบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล
ภายหลังการตรวจเยี่ยมศูนย์บริการร่วมคมนาคม นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้โดยสารเรือโดยสารประจำทางในแม่น้ำเจ้าพระยา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะมุ่งมั่นขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งทุกรูปแบบของประเทศให้เจริญก้าวหน้า ทันสมัย และเชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับความสะดวกสบายจากระบบการเดินทางที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และปลอดภัยตามมาตรฐานสากลและยังเป็นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศจากโครงข่ายคมนาคมที่เข้มแข็ง เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน การยกระดับการสัญจรทางน้ำในกรุงเทพมหานคร ด้วยท่าเรืออัจฉริยะ ใช้นวัตกรรมการบริการและเทคโนโลยี ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเข้ามาอำนวยการเดินทางของพี่น้องประชาชนให้สะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัย ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสามารถท่องเที่ยวสัญจรทางน้ำได้อย่างสะดวก และเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันสวยงามของริมฝั่งแม่น้ำ อันเป็นการสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวริมฝั่งเจ้าพระยา และสร้างรายได้ให้กับประชาชน ขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาความสะอาด ร่วมมือร่วมใจ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เปลี่ยนแปลงประเทศให้เติบโตก้าวหน้าไปในทิศทางที่ดีต่อไปในอนาคต
สำหรับการดำเนินการก่อสร้างปรับปรุงท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุลรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม โดยกรมเจ้าท่า ได้ดำเนินการก่อสร้างปรับปรุงฯ เสร็จแล้ว จำนวน 5 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือกรมเจ้าท่า ท่าเรือสะพานพุทธท่าเรือนนทบุรี ท่าเรือท่าช้าง และท่าเรือสาทร โดยอีก 6 แห่ง (ท่าเตียน ท่าราชินี ท่าเกียกกายท่าบางโพ ท่าพระราม 7 และท่าพายัพ) คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2565 และมีแผนขอรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาท่าเรือในปี 2566 – 2567 จำนวน รวม 18 ท่าเรือ รวมทั้งมีแผนติดตั้งระบบให้บริการบนท่าเรือทั้งหมด ในปี 2566 – 2567 ในส่วนของตัวเรือได้มีการปรับเปลี่ยนมาใช้เรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าในการให้บริการ เพื่อลดมลพิษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยกมาตรฐานและปลอดภัยท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาให้สามารถเชื่อมโยงกับระบบขนส่งรูปแบบอื่นโดยการให้บริการด้วย ระบบตั๋วร่วม การให้ข้อมูลข่าวสารแก่ผู้ใช้บริการ โดยให้ความสำคัญกับความสวยงามตามอัตลักษณ์ (Landmark) และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำ ขณะเดียวกันได้กำหนดให้มีการพัฒนาสิ่งอำนวย ความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ และผู้พิการ ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการควบคุมและการให้บริการตามแผนพัฒนากำหนดเป้าหมายในการพัฒนาท่าเรือ จำนวนทั้งสิ้น 29 แห่ง