รัฐสภา ถก ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจ 2 วัน ผ่าน 20 มาตรา เหลืออีก 152 มาตรา

         ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมรัฐสภา วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.... ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ที่มี พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ส.ว. รองประธาน กมธ.คนที่หนึ่ง เป็นประธาน กมธ. ในวาระสอง ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ได้ใช้เวลาประชุม 6 ชั่วโมง 30 นาที ผ่านเนื้อหา รวมทั้งสิ้น  9 มาตรา ตั้งแต่มาตรา 12 ถึงมาตรา 13/8 

 

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเนื้อหาที่ผ่านการพิจารณาของที่ประชุมนั้น เป็นไปตามเนื้อหาที่ กมธ.เสียงข้างมากพิจารณาเสนอต่อที่ประชุม และมีสาระสรุปได้ อาทิ การแบ่งโครงสร้างในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)  กองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค, กองบังคับการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรจังหวัด, สถานีตำรวจ  พร้อมกำหนดหน้าที่ในงานป้องกันและปราบปรามการทำผิดอาญา และรักษาความสงบเรียบร้อย ตามแผนหรือมาตรการที่ ก.ต.ช. และคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ

         การแบ่งสถานีตำรวจ ออกเป็น 3 ระดับ คือ สถานีตำรวจระดับใหญ่ มีหัวหน้าสถานี ดำรงตำแหน่งผู้กำกับการ, สถานีระดับกลาง มีหัวหน้าสถานีดำรงตำแหน่งผู้กำกับการหรือสารวัตรใหญ่, สถานีตำรวจระดับเล็กที่มีหัวหน้าสถานีตำรวจดำรงตำแหน่งสารวัตร

 

         การจัดโครงการสร้างภายใน ให้มีคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.)  มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมีกรรมการ อีก 13 คน อาทิ รองนายกฯ ที่ได้รับมอบหมาย , ปลัดกระทรวงกลาโหม, ปลัดกระทรวงมหาดไทย, ปลัดกระทรวงยุติธรรม, อัยการสูงสุด ผู้แทนภาคประชาชน ผู้แทนด้านพัฒนาองค์กร , ผู้แทนด้านสื่อสารมวลชน  ซึ่งจัดอยู่ในส่วนของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผบ.ตร. โดยให้ผบ.ตร เป็นเลขานุการด้วย 

 

         พร้อมกำหนดหน้าที่กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ กาารบริหารราชการตำรวจและการกำกับดูแล สตช. ให้ปฏิบัติตามกฎหหมาย ยุทธศาสตร์ชาติ และนโยบายมติ ครม., ตรวจสอบการปฏิบัติตามนโยบาย และให้มีคณะกรรมการตรวจสอบติดตามการบริหารงานตำรวจ ของกทม. จังหวัด และสถานีตำรวจต่างๆ เพื่อตรวจสอบ ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน 

 

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ที่กมธ.เสนอมีทั้งสิ้น 172 มาตรา ดังนั้นเมื่อผ่านการพิจารณาทั้ง 2 วันสามารถพิจารณาไปได้ทั้งสิ้น  20 มาตรา คงเหลืออีก 152 มาตรา

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์