"สุนทร" เผ่น "กองปราบ" ปูพรม 5 จุด ล่าตัว "พ่อรัฐมนตรี" คดีรุกที่ป่าเขาใหญ่
"กองปราบฯ" ปูพรม 5 จุด ล่าตัว "สุนทร" กับพวก คดี รุกป่าเขาใหญ่ หลัง โดน "ป.ป.ช." ชี้มูลความผิด คาด ชิงหลบหนีไปไม่นาน ระบุ หนึ่งในจุดสำคัญ บ้าน "ส.จ.โต้ง" ผู้กว้างขวาง ใกล้ชิดผู้มีอิทธิพลหลากเครือข่าย
ความคืบหน้าคดีที่ คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นางกนกวรรณ วิลาวัลย์รมช.ศึกษาธิการ พร้อม นายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี บิดาและพวกรวม 10 คน กรณีบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในเขตจ.ปราจีนบุรี พื้นที่กว่า 150 ไร่โดยนางกนกวรรณ ได้เข้ารายงานตัวต่ออัยการ เพื่อนำตัวไปยื่นฟ้อง ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 คงเหลือนายสุนทร และพวกบางส่วน ที่ยังไม่สามารถติดต่อได้ และยังไม่ได้เข้สรายงานตัวต่ออัยการแต่อย่างใด
ทั้งนี้ มีรายงานว่าทางป.ป.ช. ได้ประสานตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. และกองปราบปรามให้ติดตามจับกุมตัว นายสุนทร และพวกที่หลบหนีอย่างเร่งด่วน เนื่องจากคดีจะขาดอายุความลงภายในวันจันทร์ที่ 13 มิ.ย. นี้
ล่าสุด มีรายงานว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) สั่งการให้ ตำรวจ ปปป. และกองปราบฯ รวมถึงตำรวจทางหลวง กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 5 จุด ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อตามจับกุมตัว นายสุนทร และพวกที่ยังหลบหนี
โดยเป้าหมายสำคัญในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ อยู่ที่ บ้านเลขที่ 21/1 ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมืองอ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของ นางกนกวรรณ บุตรสาว, บ้านเลขที่ 43 ถ.วัดโรมันอุทิศต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นสำนักงานของนายสุนทร โรงแรมบางปะกง เลขที่ 41 ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี , บ้านพัก 2 หลัง ของนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งในพื้นที่
ซึ่งเบื้องต้นจากการเข้าตรวจค้นและตรวจสอบยังไม่พบตัวนายสุนทร คาดว่า ไหวตัวทัน ชิงหลบหนีออกจากพื้นที่ไปได้ไม่นาน
รายงานว่า สำหรับบ้านพักของนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็น 1 ใน 5 เป้าหมาย ที่ตำรวจสอบสวนกลางเข้าตรวจค้นในวันนี้ด้วยนั้น เป็นบ้านพักของ นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือชื่อเดิมคือ นายเต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช หรือ สจ.โต้ง อายุ 46 ปี ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ซึ่งเคยมีส่วนเกี่ยวกับคดีอุกฉกรรจ์ในอดีตหลายคดี หลังแนวทางสืบสวนพบในอดีตทั้ง นายสุนทร และนายชัยเมศร์ เคยคบหาสนิทสนมกัน รวมถึงตัวของนายชัยเมศร์ก็ถือเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ รู้จักกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลอื่นๆ อีกหลายเครือข่าย
จากการสอบถามบุคคลใกล้ชิดของ ส่วนใหญ่อ้างว่า ไม่ได้พบเห็นหรือติดต่อกับ นายสุนทร มานานกว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหน้าที่จะมีการออกหมายจับ แต่ทางเจ้าหน้าที่เองก็ยังไม่ปักใจเชื่อพร้อมกับกระจายกำลังลงพื้นที่ ไล่สืบหาเบาะแสเพื่อแกะรอยติดตามตัวให้ได้ก่อนที่คดีดังกล่าวจะหมดอายุความลงในวันที่ 13 มิ.ย. หรือ วันพรุ่งนี้ต่อไปและหากคดีนายสุนทรหมดอายุความไปจริง ป.ป.ช. จะไปพิจารณาดำเนินการถอดถอน นายสุนทรออกจากตำแหน่งนายกอบจ.ปราจีนบุรี ต่อไป