เปิดข้อกล่าวหาซักฟอก”นายก-10รมต.” ผิดพลาด-ล้มเหลว-เอื้อพวกพ้อง
เปิดข้อกล่าวหาซักฟอกนายก-10รมต. ผิดพลาดล้มเหลวไร้ภูมิปัญญา -ไม่ซื่อสัตย์-ส่อเอื้อประโยชน์ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่แกนนำ7 พรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา151
สำหรับข้อกล่าวหาที่ระบุในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้ระบุพฤติการณ์และเรื่องที่จะอภิปราย ดังนี้
-"ประยุทธ์" ล้มเหลว-เอื้อประโยชน์
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ตลอดระยะเวลาร่วมแปดปีที่บริหารประเทศมาในฐานะนายกรัฐมนตรี ผิดพลาดล้มเหลว ไม่สามารถ แก้ปัญหาต่างๆให้กับประเทศ ไม่สามารถสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและความอยู่ดีกินดีให้กับ ประชาชนได้เลย
ในทางตรงกันข้ามกลับกลายเป็นต้นตอที่ทําให้ปัญหาที่มีอยู่มีความซับซ้อน ขยาย วงกว้างและรุนแรงยิ่งขึ้นทั้งปัญหาด้านเศรษฐกิจ การเมือง อาชญากรรม ยาเสพติด การทุจริตคอรัปชั่น ประชาชนในชาติแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายขยายวงกว้างขึ้นมากกว่าเดิม โดยเฉพาะปัญหาการทุจริต คอรัปชั่นในยุคของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
นับว่ามีสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยแพร่กระจาย ไปทุกอณูของสังคม เป็นยุคที่ทุจริตเฟื่องฟู ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจรั้งท้ายของอาเซียน
ทั้งนี้เป็นผลมาจากการที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไร้ภูมิปัญญา ไร้องค์ความรู้ ไร้ความสามารถ ไร้ประสิทธิภาพ ไร้จิตสํานึกรับผิดชอบ ขาดภาวะความเป็นผู้นําที่จะ เป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นผู้นําที่พิการทางความคิด ยึดติดแต่อํานาจ ไม่เคารพหลักนิติรัฐนิติธรรม ไร้คุณธรรมจริยธรรม ทําให้การบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ผิดพลาด บกพร่องเสียหายอย่างร้ายแรง ทุกด้าน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม
มีพฤติกรรมปล่อยปละละเลยให้บุคคลแวดล้อมและ พวกพ้องของตนแสวงหาผลประโยชน์บนความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชน ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย โดยละเว้นเพิกเฉยต่อการทุจริตในภาครัฐเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้อง การใช้จ่ายงบประมาณมิได้คํานึงถึงวินัยการเงินการคลัง มุ่งแต่ก่อหนี้เพื่อแสวงหาคะแนนนิยมทางการเมือง โดยไม่สนใจต่อภาระหนี้สาธารณะและหนี้สินต่อหัวของประชาชน
จนเรียกได้ว่า “เป็นยุค ก่อหนี้มหาศาลเพื่อนํามาผลาญโดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชน” ไม่ปฏิบัติตาม นโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา ไม่ใส่ใจและไม่ดําเนินการแก้ไขข้อบกพร่องในการบริหารราชการแผ่นดิน ตามข้อกล่าวหาและคําแนะนําของสภา จงใจปฏิบัติหน้าที่และใช้อํานาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และกฎหมายฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขาดจิตสํานึกในความเป็น ประชาธิปไตย ไร้การเคารพซึ่งสิทธิเสรีภาพของประชาชน มุ่งใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมือง ปิดปากประชาชนและปิดกั้นเสรีภาพของสื่อมวลชน ละเมิดสิทธิมนุษยชน ใช้งบประมาณเพื่อการจัดซื้อ อาวุธยุทโธปกรณ์ ที่ไม่มีความจําเป็นต่อภารกิจของประเทศในภาวะที่ประเทศมีปัญหาด้านเศรษฐกิจ ที่รุนแรง ไม่กํากับดูแลการใช้งบประมาณแผ่นดินให้เป็นไปโดยมีประสิทธิภาพ มีประสิทธิผล ไม่รักษา ผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
ผลจากการบริหารประเทศของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นับวันจะทําให้ประเทศถอยหลัง เศรษฐกิจของประเทศดิ่งเหว ประชาชนที่ยากจนอยู่แล้วยิ่งยากจน ลงเรื่อยๆ ความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนกับคนรวยขยายวงกว้างมากขึ้นผู้คนตกงานและบัณฑิตจบใหม่ ไม่มีงานทําเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ธุรกิจย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น นักลงทุนใหม่ก็เข้ามาลงทุนน้อยลง ขณะที่ปัญหาสังคมทั้งยาเสพติดอาชญากรรมโดยเฉพาะอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้นสรา้ง ความเสียหายและความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยที่ภาครัฐไม่สามารถป้องกันและแก้ปัญหาดังกล่าว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สถานการณ์ความเดือดร้อนและความทุกข์ยากของประชาชนดังกล่าว
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับปล่อยให้พวกพ้องและบุคคลแวดล้อมของตนเองกระทําการทุจริต และประพฤติมิชอบอย่างกว้างขวาง ไม่ใส่ใจที่จะป้องกันและปราบปราม มีการใช้เงินและการต่อรอง ผลประโยชน์เพื่อความอยู่รอดทางการเมืองของตนเองอันเป็นการทําลายระบบรัฐสภาและหลักการ ประชาธิปไตย จนทําให้ระบบรัฐสภาตกต่ำสั่นคลอน และกลไกในระบบรัฐสภาเสียหาย
ผลจากการบริหารประเทศของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นับวันจะทําให้ประเทศถอยหลัง เศรษฐกิจของประเทศดิ่งเหว ประชาชนที่ยากจนอยู่แล้วยิ่งยากจน ลงเรื่อยๆ ความเหลื่อมล้ําระหว่างคนจนกับคนรวยขยายวงกว้างมากขึ้นผู้คนตกงานและบัณฑิตจบใหม่ ไม่มีงานทําเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ธุรกิจย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น นักลงทุนใหม่ก็เข้ามาลงทุนน้อยลง ขณะที่ปัญหาสังคมทั้งยาเสพติดอาชญากรรมโดยเฉพาะอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้นสรา้ง ความเสียหายและความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยที่ภาครัฐไม่สามารถป้องกันและแก้ปัญหาดังกล่าว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สถานการณ์ความเดือดร้อนและความทุกข์ยากของประชาชนดังกล่าว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับปล่อยให้พวกพ้องและบุคคลแวดล้อมของตนเองกระทําการทุจริต และประพฤติมิชอบอย่างกว้างขวาง ไม่ใส่ใจที่จะป้องกันและปราบปราม มีการใช้เงินและการต่อรอง ผลประโยชน์เพื่อความอยู่รอดทางการเมืองของตนเองอันเป็นการทําลายระบบรัฐสภาและหลักการ ประชาธิปไตย จนทําให้ระบบรัฐสภาตกต่ำสั่นคลอน และกลไกในระบบรัฐสภาเสียหาย
-"จุรินทร์" ปล่อยปะละเลย-เมินแก้ของแพง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
มีพฤติกรรมฉ้อฉล ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ รู้เห็นเป็นใจหรือปล่อยปละละเลยให้มีการ ทุจริตในองค์กรหรือหน่วยงานในกํากับดูแล สร้างความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ใช้อํานาจใน ตําแหน่งหน้าที่ แสวงหาผลประโยชน์สําหรับตนเองและพวกพ้อง ไม่ระงับยับยั้ง ละเลยไม่ติดตามแก้ไข ปัญหาการทุจริตเพื่อให้มีการชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่รัฐ ล้มเหลวและไร้ความรู้ความสามารถ ในการบริหารราชการของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงในกํากับดูแล ปล่อยให้ราคาสินค้าอุปโภค บริโภคสูงขึ้นจนกระทบต่อการดําเนินชีวิตของประชาชนและการดําเนินธุรกิจของภาคเอกชน จนส่งผล กระทบต่อประชาชนทุกหย่อมหญ้า จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อํานาจขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไร้คุณธรรมจริยธรรม ไร้จิตสํานึกของการเป็นนักการเมืองที่ดี มีพฤติกรรมทําลายระบบการเมืองด้วยการรู้เห็นเป็นใจ สนับสนุนการใช้เงินและผลประโยชน์เพื่อมุ่ง ดึง ส.ส.จากพรรคการเมืองอื่นเข้าสังกัดกลุ่มการเมืองของตนโดยไม่คํานึงถึงหลักการประชาธิปไตย และคุณธรรมทางการเมือง ทําให้ระบบการเมืองถอยหลังไปสู่ยุคการใช้เงินและผลประโยชน์สร้างฐาน อํานาจทางการเมือง อันถือเป็นธุรกิจการเมืองที่ทําลายอุดมการณ์ประชาธิปไตย เปลี่ยนจากระบบ คุณธรรมนําการเมืองเป็นใช้เงินและผลประโยชน์นําการเมือง นายอนุทินชาญวีรกูล ยังล้มเหลวผิดพลาด บกพร่องอย่างร้ายแรง ไร้ความรู้ความสามารถในการบริหารราชการของกระทรวงสาธารณสุข มีการใช้ งบประมาณแผ่นดินเกินความจําเป็นและไม่เกิดประโยชน์ เกิดความเสียหายแก่งบประมาณของประเทศ มุ่งเอื้อประโยชน์ให้เพื่อนพ้องบริวาร แสวงหาประโยชน์จากตําแหน่งและหน้าที่ของตน จงใจปฏิบัติ หน้าที่หรือใช้อํานาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย
-"ประวิตร" ปล่อยปะละเลยมุ่งสร้างความั่งคั่ง
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
จงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มุ่งสร้างความมั่งคั่งในตําแหน่งหน้าที่ รู้เห็นเป็นใจ หรือปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตและแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ โดยไม่คํานึงถึงความเสียหายที่เกิด กับประเทศ ไร้จิตสํานึกและไร้ความรับผิดชอบต่อตําแหน่งหน้าที่ ไม่เป็นแบบอย่างที่ดีในการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต แต่กลับทําตนเป็นแบบอย่างของการหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎหมายที่มี วัตถุประสงค์ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เมื่อพบเห็นการทุจริตกลับปกป้องและ ไม่ดําเนินการแก้ไข
- "อนุพงษ์" ใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติ
พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นท่ีประจักษ์ ขาดซึ่งธรรมาภิบาล บริหารราชการแผ่นดินผิดพลาดบกพร่องอย่างร้ายแรง ใช้อำนาจหน้าท่ีขัดต่อบทบญัญัติของรฐัธรรมนญูและกฎหมายปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตของ หน่วยงานในกำกับดูแลอย่างกว้างขวางเมื่อรู้ว่ามีการทจุริตไม่ระงับยับยั้งแต่กลับรู้เห็นยินยอม ให้มีการกระทาดังกล่าวจนทำใหก้ารทุจริตเป็นเรื่องปกติของการปฏิบัติหนา้ท่ีราชการทำให้ระบบ ราชการและประเทศชาติไดร้บัความเสียหายอย่างร้ายแรง
- "ศักดิ์สยาม" ก้าวก่ายแทรกแซงเอื้อพวกพ้อง-พรรคการเมือง
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ ประจักษ์ บริหารราชการแผ่นดินโดยไม่คํานึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของชาติ มีพฤติกรรมใช้อํานาจ ในตําแหน่งหน้าที่เพื่อแสวงหาประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง ดําเนินนโยบายโดยไม่คํานึงถึง ความคุ้มค่าในด้านการใช้จ่ายงบประมาณ มีการใช้งบประมาณจํานวนมากโดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ทางด้านเศรษฐกิจและประโยชน์สาธารณะ
ทําให้ประเทศสูญเสียโอกาสและงบประมาณจํานวนมหาศาล ใช้สถานะหรือตําแหน่งกระทําการโดยทางตรงและทางอ้อม อันเป็นการก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐในกระทรวงคมนาคม เพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง และพรรคการเมือง ที่ตนสังกัด ละเว้นไม่ดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดจนเกิดความเสียหายต่อแผ่นดินไม่ดูแลให้เกิดการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
มีผลประโยชน์ทับซ้อนและกระทําการขัดกันแห่ง ผลประโยชน์ จงใจปฏิบัติหน้าที่และใช้อํานาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายเพื่อให้ ตนเองมีส่วนได้รับประโยชน์จากโครงการต่างๆ ของรัฐ ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม อย่างร้ายแรง
-"ชัยวุฒิ" ใช้อำนาจเพื่อพวงพ้อง-ฝ่าฝืนจริยธรรม
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
บริหารราชการแผ่นดินล้มเหลวบกพร่องอย่างร้ายแรง ปล่อยปละละเลยให้เกิดอาชญากรรมทาง เทคโนโลยีที่ทําลายระบบเศรษฐกิจและสร้างความเสียหายต่อประชาชนอย่างกว้างขวาง แพร่หลาย และเพิ่มจํานวนมากขึ้นโดยไม่สนใจ และขาดความรู้ความสามารถที่จะป้องกันและปราบปราม สนใจ เอาผิดแต่เฉพาะกับกลุ่มบุคคล นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ใช้กฎหมายเป็น เครื่องมือทางการเมือง ใช้อํานาจในตําแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง บริวาร และพวกพ้อง
นอกจากนี้ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว บกพร่องอย่างร้ายแรง ปล่อยปละละเลยให้เกิดอาชญากรรมทาง เทคโนโลยีที่ทําลายระบบเศรษฐกิจและสร้างความเสียหายต่อประชาชนอย่างกว้างขวาง แพร่หลาย และเพิ่มจํานวนมากขึ้นโดยไม่สนใจ และขาดความรู้ความสามารถที่จะป้องกันและปราบปราม สนใจ เอาผิดแต่เฉพาะกับกลุ่มบุคคล นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ใช้กฎหมายเป็น เครื่องมือทางการเมือง ใช้อํานาจในตําแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง บริวารและพวกพ้อง
นอกจากนี้ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ยังมีพฤติการณ์จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อํานาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย มีความประพฤติเสื่อมเสียทางศีลธรรมอันดี ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตาม มาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
"จุติ" ล้มเหลว-ใช้งบแสดงหาผลประโยชน์
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ไม่มีความซื่อสัตย์สุจุริตเป็นท่ีประจักษ์ล้มเหลว ไร้ความรู้ ความสามารถในการดูแลงานด้านพฒัฒนาสังและความมั่นคงของมนุษย์ปล่อยใหป้ระชาชนขาดไร้ซึ่งท่ีอย่อูาศัยและค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ
ขณะทีการใช้งบประมาณแผ่นดินกลับมุ่งแสวงหาประโยชนสำหรับตนเองและพวกพ้องทาใหค้ณุภาพชีวิตของประชาชนตกต่าขาดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพของตนเอง
-"สันติ" เอื้อเอกชน-ใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติกรรมทุจริตต่อหน้าที่ ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตและแสวงหาประโยชน์ในหน่วยงานที่กำกับดูแล เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน ไม่ดูแลรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
-"นิพนธ์"ทุจริตต่อหน้าที่-ฝ่าฝืนจริยธรรม
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
ไร้ความรู้ความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดินมีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ปล่อยปละละเลย รู้เห็นสนับสนุนให้มีการทุจริตและแสวงหาผลประโยชน์ภายในหน่วยงานในกำกับดูแล ไม่ดำเนินการตรวจสอบ ระงับ ยับยั้งและป้องกันการทุจริตจนทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง
- "สุชาติ"พฤติกรรมส่อทุจริต-เอื้อประโยชน์เอกชน
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์ส่อไปทางทุจริตและประพฤติมิชอบต่อหน้าที่ กระทำการอันเป็นการขัดกัน แห่งผลประโยชน์ ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับตนเองและพวกพ้อง จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายปล่อยปะละเลยให้มีการแสวงหาผลประโยชน์จากการนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ
เอื้อประโยชน์ให้เอกชนรายใหญ่ในการใช้ประโยชน์จากแรงงานโดยผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ผลจากการบริหารราชการแผ่นดินและพฤติกรรมต่างๆ ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีรวม 11 คน ข้างต้น ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง ประเทศชาติประสบความตกต่ำอย่างถึงที่สุดในทุกด้าน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ประชาชนสูญเสียโอกาสที่จะได้คุณภาพชีวิตและหลักประกันการดำรงชีพที่ดี เดือดร้อนไปทุก หย่อมหญ้า เกิดภาวะ “รวยกระจุก จนกระจาย” และ “ค่าครองชีพสูง คุณภาพชีวิตต่ำ”
หากปล่อยให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีดังกล่าวยังคงบริหารราชการแผ่นดินต่อไป ย่อมนำมา ซึ่งความเสียหายแก่ประเทศชาติและประชาชนจนยากที่จะเยียวยาแก้ไขได้