“พิธา” ขอบคุณ ส.ส.-ประชาชนหนุน 2 กฎหมาย “สมรสเท่าเทียม-สุราก้าวหน้า”

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2565 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเสียงข้างมากโหวตผ่านขั้นรับหลักการ (วาระแรก) ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม และร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ว่า พรรคก้าวไกลกับการเมืองแห่งความเป็นไปได้ แม้เราจะอยู่ในบทบาทของฝ่ายค้าน ที่ยากจะผลักดันกฎหมายสักฉบับ แต่เราก็สามารถผลักดันกฎหมายที่ไม่มีใครเชื่อว่าจะทำได้สำเร็จ จนสำเร็จ 

“จากพรรคอนาคตใหม่ สู่คณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกล : การเดินทางที่แม้จะช้าอยู่บ้าง แต่เรายังไม่หยุดเดินไปข้างหน้า ผมในนามของหัวหน้าพรรคก้าวไกลที่รับไม้ต่อมาจากคุณธนาธร (จึงรุ่งเรืองกิจ) และอาจารย์ปิยบุตร (แสงกนกกุล) ขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณและร่วมแสดงความยินดีกับประชาชนทุกคนที่ร่วมกันผลักดันจน “กฎหมายสุราก้าวหน้า” อันเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายทลายทุนผูกขาด และ “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” อันเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรากฐานที่จะทำให้คนเท่ากัน ได้รับความเห็นชอบ ผ่านวาระที่ 1 ของสภาฯ อย่างเหนือความคาดหมาย” นายพิธา ระบุ

นายพิธา ระบุว่า ไม่ใช่แค่เพราะเนื้อหาของกฎหมาย 2 ฉบับนี้ ยากจะผ่านความเห็นชอบเท่านั้น แต่เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่จะครบรอบ 90 ปีของการมีสภาฯ ในอีกไม่กี่วันนี้ มีกฎหมายเพียงไม่กี่ฉบับที่ถูกผลักดันจากพรรคการเมืองที่เป็นฝ่ายค้านแล้วได้รับความเห็นชอบจากสภาฯ การที่กฎหมายสุราก้าวหน้าและสมรสเท่าเทียม ได้รับความเห็นชอบจากสภาฯ จึงทำให้พวกเราในฐานะ ส.ส. ใจฟูเป็นอย่างมาก

“นอกจากขอบคุณประชาชนทุกคนแล้ว ผมในนามของหัวหน้าพรรคก้าวไกลก็ต้องขอขอบคุณผู้แทนราษฎรจากพรรคต่างๆ ทุกท่านที่เลือกยืนอยู่ข้างประชาชนในกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ ลำพังพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียว ยากที่จะผลักดันเรื่องก้าวหน้าต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงได้ แต่ด้วยความช่วยเหลือจากผู้แทนราษฎรพรรคต่างๆ ที่เห็นแก่ประโยชน์ของประชาชนแล้ว เรื่องที่เราคิดว่ายากจะเป็นไปได้ ก็เป็นไปได้ ผมจึงขอขอบคุณผู้แทนราษฎรจากพรรคต่างๆ ที่สนับสนุนร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับไว้ ณ ที่นี้” นายพิธา ระบุ

หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุอีกว่า ในส่วนประชาชนที่ยังไม่เห็นด้วยกับเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้ หรือเรื่องใด ๆ ก็ตาม เราในฐานะพรรคการเมืองและผู้แทนราษฎรน้อมรับความเห็นเหล่านั้น แต่ในขณะเดียวกันเราก็มีหน้าที่ที่ต้องพยายามอย่างแข็งขันที่จะอธิบายถึงประโยชน์และความตั้งใจดีที่พวกเรามีในการผลักดันเรื่องต่าง ๆ เพราะเราเข้าใจดีว่าการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจำเป็นต้องได้รับฉันทามติจากสังคม 

“สุดท้ายแม้เราจะยังไม่มีโอกาสได้เป็นรัฐบาล แต่การเมืองแห่งความเป็นไปได้เพื่อการเปลี่ยนแปลงยังคงเดินหน้าต่อไป จับมือเดินไปพร้อมกันจนกว่าประเทศนี้จะเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง” นายพิธา ระบุ