เช็ก “เอกชน” คดีฮั้วซื้อรถ อบจ.สงขลา สถานะล่าสุดร้างแล้ว 2 เสร็จชำระบัญชี 1

ประเด็นการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ 2 คัน วงเงินกว่า 50 ล้านบาทขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา กลายเป็นเรื่อง “อีรุงตุงนัง” เพราะมีหลายประเด็นเกี่ยวพันกันเต็มไปหมด

เรื่องนี้ถูกแบ่งออกเป็น 3 กรณีใหญ่ ๆ ด้วยกัน ได้แก่

• คดีทางปกครอง 

บริษัท พลวิศว์ เทค จำกัด ในฐานะผู้ชนะการประมูล ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ขอให้ อบจ.สงขลา จ่ายเงินค่ารถพร้อมดอกเบี้ย เนื่องจาก อบจ.สงขลา สมัยนายนิพนธ์ บุญญามณี (ปัจจุบันเป็น รมช.มหาดไทย) ไม่ยอมจ่ายเงินให้ โดยอ้างว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบกรณีฮั้วประมูล โดยล่าสุด ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ อบจ.สงขลา ชำระเงินค่ารถซ่อมบำรุงทาง 2 คันดังกล่าว พร้อมด้วยดอกเบี้ย รวมเป็นเงินกว่า 80 ล้านบาท ถือว่าคดีนี้สิ้นสุดลงแล้ว

• คดีละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่

กรณีนี้มีการกล่าวหานายนิพนธ์ บุญญามณี เมื่อครั้งเป็นนายก อบจ.สงขลา ไม่ยอมจ่ายเงินให้บริษัท พลวิศว์ เทค จำกัด ในฐานะผู้ชนะการประมูล และนำรถส่งมอบให้แก่ อบจ.สงขลา ไปแล้ว โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดนายนิพนธ์ ฐานละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด (อสส.) อย่างไรก็ดีมีการตั้งคณะทำงานพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ระหว่างฝ่ายอัยการและฝ่าย ป.ป.ช. จนสุดท้าย อสส.ชี้ขาดไม่สั่งฟ้องนายนิพนธ์ ส่งสำนวนคืนกลับไปยัง ป.ป.ช. ทั้งนี้มีกระแสข่าวว่า ป.ป.ช. เตรียมฟ้องคดีดังกล่าวเองแล้ว

• คดีฮั้วประมูล

คดีนี้แบ่งเป็น 3 ส่วนคือ การประมูลครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 โดยการประมูลครั้งที่ 1-2 นั้น คณะกรรมการ ป ป.ช.ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับ บริษัท พลวิศว์ เทค จำกัด โดย นายอิทธิพล ดวงเดือน, บริษัท เอ็กซ์ ทู ที อินดัสตรี จำกัด โดยนายสุรพงษ์ ตรียานนท์, บริษัท ครีเอทอินโนเวชั่น จำกัด โดยนางชวลี เทียนงามสัจ, ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) เพลิโอนี โดยนายอิทธิพล ดวงเดือน และ บริษัท อะมีลัม จำกัด โดยนางสาวหรือนางญาณี ลิ้มสถิรานันท์ หรืออารยะทรงศักดิ์ ผู้ต้องหาทั้งในฐานะส่วนตัวและนิติบุคคล

โดยทั้งหมดถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542  มาตรา 4 วรรคแรก ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 14(2)

ขณะนี้สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลาอยู่ระหว่างการดำเนินการเร่งรัดสรุปสำนวนการสอบสวนเพื่อส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาตามกฎหมายต่อไป

ส่วนคดีอาญาที่ 392/2564 (การประมูลครั้งที่ 3) ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.รับไว้ดำเนินการสอบสวนตามอำนาจและหน้าที่แล้ว

ด้วยข้อเท็จจริงเหล่านี้ ทำให้ “คนใน” อบจ.สงขลา ถึงกับตั้งข้อสังเกตว่า ในเมื่อ ป.ป.ช. ทราบแล้วว่ามีกรณีฮั้วประมูลเกิดขึ้น ไฉนจึงยังต้องเดินหน้าฟ้อง “นิพนธ์ บุญญามณี” ที่พยายามต่อสู้เรื่องนี้มาตลอดว่า สาเหตุที่ไม่เบิกจ่ายเงินให้เอกชน เพราะมีความไม่ชอบมาพากลในการประมูลเกิดขึ้น

อ่านข่าว: ป.ป.ช.กล่าวโทษ บ.พลวิศว์ฯ-คู่เทียบ คดีฮั้วประมูล ข้องใจไฉนยังฟ้อง “นิพนธ์”

มาลองเช็กสถานะเอกชนทั้งผู้ชนะการประมูล และคู่เทียบในการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางดังกล่าวกันบ้างว่า ปัจจุบันเป็นอย่างไร

กรุงเทพธุรกิจ ตรวจสอบจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบข้อมูลดังนี้ 

• บริษัท พลวิศว์ เทค จำกัด (ยังดำเนินกิจการอยู่)

จดทะเบียนเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2546 ทุนปัจจุบัน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 46 ซอยลาดปลาเค้า 32 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ขายส่งยานยนต์

มีนายอิทธิพล ดวงเดือน เป็นกรรมการรายเดียว

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2565 นายอิทธิพล ดวงเดือน ถือหุ้นใหญ่สุด 99.9960% น.ส.ผโลทัย ฉัตรภาณุวัฒน์ ถือ 0.0020% น.ส.หฤทัย กางถิ่น ถือ 0.0020%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีรายได้รวม 20,602,787 บาท รายจ่ายรวม 19,089,666 บาท เสียภาษีเงินได้ 302,624 บาท กำไรสุทธิ 1,210,497 บาท

• บริษัท เอ๊กซ์ ทู ที อินดัสตรี จำกัด (ร้าง)

จดทะเบียนเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2550 ถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่าร้าง 30 ส.ค. 2560 ทุน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 141/80 หมู่ที่ 4 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด การขายส่งยานยนต์ที่สั่งพิเศษตามสัญญาของรัฐและเอกชนก

มีนายลักษมี ยาดาฟ เป็นกรรมการรายเดียว

นำส่งข้อมูลผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2556 มีนายสุรพงษ์ ตรียานนท์ ถือหุ้นใหญ่สุด 54.95% นายลักษมี ยาดาฟ (สัญชาติอินเดีย) ถือ 45% ที่เหลืออยู่ในชื่อของ นายธนะพัฒน์ ลิมปิพงศ์ธนิต นายจร นลิ่นนอก นายเสวก พุ่มเพียร น.ส.ปัณฑ์ชนิต ศรีวาณิชยกร และนายผิน โผเมือง ถือรายละ 0.01%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2555 มีรายได้รวม 13,559,116 บาท รายจ่ายรวม 13,715,056 บาท ขาดทุนสุทธิ 155,939 บาท

• บริษัท ครีเอทอินโนเวชั่น จำกัด (เสร็จชำระบัญชี)

จดทะเบียนเมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2544 แจ้งเลิกเมื่อ 26 มี.ค. 2558 เสร็จชำระบัญชีเมื่อ 4 มิ.ย. 2558 ทุน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 387/795 ตรอกข้าวสาร ถนนเตชะวนิช แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุกดัดแปลง เช่น รถกวาดถนน รถดูดล้างท่อระบายน้ำ

มีนางชวลี เทียนงามสัจ เป็นกรรมการรายเดียว

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2557 นายชวลี เทียนงามสัจ ถือหุ้นใหญ่สุด 99.994% ที่เหลืออยู่ในชื่อของ น.ส.ศุภลักษณ์ ภูมิสมศรี และนางมุกดา ภูมิสมศรี ถือรายละ 0.003% 

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2557 มีรายได้รวม 10,002 บาท รายจ่ายรวม 26,788 บาท ขาดทุนสุทธิ 16,785 บาท

• หจก.เพลิโอนี (ดำเนินกิจการอยู่)

จดทะเบียนเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2550 ทุนปัจจุบัน 5 แสนบาท ตั้งอยู่ที่ 46 ซอยลาดปลาเค้า 32 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด การขายรถยนต์ใหม่ชนิดรถบรรทุกและยานยนต์หนักอื่น ๆ

มีนายอิทธิพล ดวงเดือน ลงหุ้นด้วยเงินสดจำนวน 3 แสนบาท นางอารี ดวงเดือน ลงหุ้นด้วยเงินสด 2 แสนบาท โดยมีนายอิทธิพล เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 17,203 บาท รายจ่ายรวม 15,150 บาท กำไรสุทธิ 2,053 บาท

• บริษัท อะมีลัม จำกัด (ร้าง)

จดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2553 ถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่าร้าง 30 ส.ค. 2560 ทุน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 71 ซอยพัฒนาการ 54 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด การขายส่งสินค้า

มีนายลักษมี ยาดาฟ เป็นกรรมการรายเดียว

นำส่งผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2556 มีนายลักษมี ยาดาฟ (สัญชาติอินเดีย) ถือหุ้นใหญ่สุด 45% นายณัฐพร เก่าค้อ ถือ 27.5% น.ส.สวิง แสงน้อย ถือ 27.5%

หากดูจาก 5 เอกชนข้างต้นพบว่า มีบริษัทที่เป็นเครือเดียวกันมาเป็นคู่เทียบในการประมูลดังกล่าวด้วย เช่น บริษัท พลวิศว์ เทค จำกัด กับ หจก.เพลิโอนี ที่มีนายอิทธิพล ดวงเดือน เป็นเจ้าของ, บริษัท เอ๊กซ์ ทู ที อินดัสตรี จำกัด กับบริษัท อะมีลัม จำกัด ที่มีนายลักษมี ยาดาฟ เป็นกรรมการ เป็นต้น

ทั้งหมดคือสถานะล่าสุดของ 5 เอกชน “ผู้ชนะ-คู่เทียบ” ในการจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ของ อบจ.สงขลาดังกล่าว ก่อนจะโดน ป.ป.ช.กล่าวโทษคดีอาญา กรณี “ฮั้วประมูล” ในตอนนี้

อย่างไรก็ดีขั้นตอนดังกล่าวเป็นชั้นต้นในกระบวนการยุติธรรม ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดยังมีสิทธิต่อสู้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นอัยการ และชั้นศาลต่อไป