"นายกฯ" เผย ใช้ถ่านหินลิกไนต์ ผลิตไฟฟ้า ทดแทน ก๊าช-น้ำมัน ช่วงราคาแพง

"นายกฯ" เผย ใช้ถ่านหินลิกไนต์ ผลิตไฟฟ้า ทดแทน ก๊าช-น้ำมัน ช่วงราคาแพง

"นายกฯ" เผย ปรับรูปแบบการใช้พลังงาน ให้สอดคล้องสถานการณ์ ใช้โรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์ ทดแทน หลัง ก๊าซ-น้ำมัน แพง พร้อมหาแหล่งพลังงานอื่นทดแทน เพื่อความยั่งยืน ปลื้ม ฟิทช์ เรทติ้งส์ จัดอันดับ การเงินการคลังไทย BBB+ แสดงให้เห็นการดำเนินการได้ดีพอสมควร

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาหลายกิจกรรมที่เกี่ยวข้องในการบริหารงานด้านพลังงาน ไม่ใช่เฉพาะเรื่องราคาน้ำมันแพงหรือไม่แพงอย่างเดียว เป็นเรื่องพลังงานในภาพรวมทั้งหมด มีหลายเรื่องเพื่อทราบ ความก้าวหน้าในการดำเนินการ และปัญหาเหตุติดขัดต่างๆ ที่ต้องปรับรูปแบบของการใช้พลังงานของเราให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้พลังงานจากโรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์เพื่อใช้แหล่งพลังงานอื่นมาทดแทน เพราะค่าก๊าซ ค่าน้ำมันแพงขึ้น โดยรายละเอียดกระทรวงพลังงานจะชี้แจงอีกครั้ง 

นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้เรื่องพลังงานทุกคนทราบดีอยู่แล้ว ไม่ได้เกิดเฉพาะประเทศไทย แต่เกิดกับทุกประเทศทั้งโลกในปัจจุบัน หลายกลุ่ม หลายฝ่ายเกี่ยวข้อง ดังนั้น หลัก 3 ประการของเราคือปัจจัยพลังงานที่แพงขึ้นในวันนี้ เราต้องศึกษา ทำความเข้าใจว่าปัจจัยมาจากไหน จากภายนอกหรือภายใน เกิดขึ้นทั่วโลกหรือไม่ หรือประเทศไทยประเทศเดียว

นายกฯ กล่าวว่า ยืนยันว่าทุกประเทศที่มีการนำเข้าต้นทุนพลังงานจากต่างประเทศเป็นจำนวนมากย่อมได้รับผลกระทบไปด้วย ของเราทราบดีอยู่แล้วว่ามีพลังงานของเราเองเท่าไร ทั้งทางบก ทางทะเล อะไรก็แล้วแต่ รัฐบาลก็พยายามหาแหล่งพลังงานเพิ่มเติมเพื่อทดแทนแก้ปัญหาในอนาคตอย่างยั่งยืน ซึ่งจะมีการพิจารณา เพราะเราจะต้องแก้ปัญหาให้ได้ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประการที่ 1. เราจะต้องดูแลความมั่นคงเสถียรภาพพลังงาน ไม่ให้เกิดการขาดแคลนหรือขยายตัว เพื่อให้การประกอบการธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ 

ประการที่ 2. เราจะต้องดูแลราคาพลังงานไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนจนมากเกินไป โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซล ก๊าซหุงต้มซึ่งมีผลกระทบต่อค่าครองชีพ ประชาชนในวงกว้าง ซึ่งวันนี้ราคาน้ำมันของไทยถ้าเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านยังต่ำอยู่ในลำดับที่ 7 หรือ 8 จาก 10 ประเทศอาเซียน  

ประการที่ 3. เราจะดูแลช่วยเหลือครอบครัวหรือกลุ่มเปราะบาง ผ่านมาตรการใดบ้าง เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือเป็นรายกิจกรรม รายผู้ประกอบการ และเราจะต้องรักษาสมดุล การใช้เงินต่างๆ เหล่านี้เพื่อช่วยเหลือประคับประคองพลังงาน และการเจริญเติบโตเศรษฐกิจ และเสถียรภาพการเงินการคลัง เพื่อเติบโตให้ได้ในอนาคต ถ้าเป็นภาระมากเกินไป วันหน้าทุกอย่างจะย้อนกลับที่เราอีก 

นายกฯ กล่าวว่า เราต้องเดินอย่างระมัดระวังที่สุด และสิ่งหนึ่งที่เป็นข้อยืนยันว่าสิ่งที่รัฐบาลทำในวันนี้แม้จะถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง แต่วันนี้เราก็ต้องรับฟังผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสถาบันฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch) ซึ่งให้ความเชื่อมั่นในเสถียรภาพด้านการเงิน การคลังของไทย อยู่ในเกณฑ์ระดับสูง BBB+ เช่นเดียวกับการเกิดก่อนโควิดและปัญหาพลังงานในขณะนี้ แสดงว่าเราดำเนินการมาได้ดีพอสมควร เรายืนยันตรงนี้และพยายามจะทำให้ดีที่สุดในทุกๆเรื่อง

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์