“นิด้าโพล”เผยผลสำรวจคะแนนนิยมนั่งนายกฯ“ประยุทธ์”ทรุด- “อุ๊งอิ๊ง”พุ่ง
“นิด้าโพล”เผยผลสำรวจคะแนนนิยมนั่งนายกฯ“ประยุทธ์”ทรุด- “อุ๊งอิ๊ง”พุ่ง ชี้ควรเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ระบุชื่นชอบผลงานในอดีตของ “ทักษิณ” อันดับสองยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ ส่วน “พิธา” รั้งอันดับสาม “ประยุทธ์” คะแนนทรุด พบประชาชนพร้อมสนับสนุน “พรรคเพื่อไทย” มากสุด
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 2/2565” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 20-23 มิถุนายน 2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาคระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,500 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับคะแนนนิยมทางการเมือง การสำรวจอาศัย การสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า
อันดับ 1 ร้อยละ 25.28 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊ง) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย นโยบายของพรรคทำได้จริง ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบผลงานในอดีตของตระกูลชินวัตร และเป็นบุตรสาวของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร
อันดับ 2 ร้อยละ 18.68 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้
อันดับ 3 ร้อยละ 13.24 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ชื่นชอบอุดมการณ์ทางการเมือง และชื่นชอบนโยบายของพรรคก้าวไกล
อันดับ 4 ร้อยละ 11.68 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเป็นคนตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์สุจริต ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ นโยบายสามารถช่วยเหลือประชาชนได้จริง และต้องการให้บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง
อันดับ 5 ร้อยละ 6.80 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) เพราะชื่นชอบผลงานในอดีต มีประสบการณ์ด้านการบริหาร ซื่อสัตย์สุจริต ขณะที่บางส่วนระบุว่า ต้องการเปิดโอกาส ให้ผู้หญิงเข้ามาบริหารประเทศ
อันดับ 6 ร้อยละ 6.60 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) เพราะ เป็นคนตรงไปตรงมา พูดจริงทำจริง น่าเชื่อถือ มีความซื่อสัตย์สุจริต และเชื่อมั่นในการทำงาน
อันดับ 7 ร้อยละ 4.20 ระบุว่าเป็น ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เพราะมีความรู้ ความสามารถ ตั้งใจในการทำงาน ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบแนวคิดและทัศนคติในการทำงาน
อันดับ 8 ร้อยละ 3.76 ระบุว่า นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคกล้า) เพราะมีความรู้ความสามารถ เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ มีประสบการณ์ด้านการบริหาร ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา
อันดับ 9 ร้อยละ 2.92 ระบุว่าเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว (พรรคเพื่อไทย) เพราะเป็นคนที่พูดจริงทำจริงและมีความน่าเชื่อถือ ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา
อันดับ 10 ร้อยละ 1.68 ระบุว่าเป็น ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เพราะ มีความรู้ความสามารถ เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ เป็นคนที่พูดจริงทำจริงและมีความน่าเชื่อถือ ขณะที่บางส่วนระบุว่า เชื่อมั่นในการทำงาน
อับดับ 11 ร้อยละ 1.56 ระบุว่าเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) เพราะชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา และชื่นชอบพรรคประชาธิปัตย์
อันดับ 12 ร้อยละ 1.52 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบนโยบายพรรคภูมิใจไทย
ร้อยละ 2.08 ระบุอื่นๆ ได้แก่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พรรคประชาธิปัตย์) น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม (พรรคไทยภักดี) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนา)
ดร.อภิชาติ ซำศิริพงษ์ (พรรคพลังประชารัฐ) นายชวน หลีกภัย (พรรคประชาธิปัตย์) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ (พรรคไทยศรีวิไลย์) ดร.วิโรจน์ ลักขณาอดิศร (พรรคก้าวไกล) และนางช่อทิพย์ ส่งวัฒนา
และเมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 1/65 เดือนมีนาคม 2565 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว (พรรคเพื่อไทย) และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) มีสัดส่วนลดลง
ในขณะผู้ที่ระบุว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) จากร้อยละ 12.53 ขึ้นมาเป็นร้อยละ 25.28 และ นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคกล้า) มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ตรงกันข้ามกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีคะแนนลดลง จากเดิมร้อยละ 12.67 ลงมาเหลือร้อยละ 11.68 เท่านั้น
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า
- อันดับ 1 ร้อยละ 36.36 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย
- อันดับ 2 ร้อยละ 18.68 ระบุว่า ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย
- อันดับ 3 ร้อยละ 17.88 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล
- อันดับ 4 ร้อยละ 7.00 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ
- อันดับ 5 ร้อยละ 6.32 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์
- อันดับ 6 ร้อยละ 3.04 ระบุว่าเป็น พรรคเสรีรวมไทย
- อันดับ 7 ร้อยละ 2.96 ระบุว่าเป็น พรรคไทยสร้างไทย
- อันดับ 8 ร้อยละ 2.68 ระบุว่าเป็น พรรคกล้า
- อันดับ 9 ร้อยละ 2.56 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย
และร้อยละ 2.52 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พรรคสร้างอนาคตไทย พรรคไทยภักดี พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา พรรคประชาชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคไทยศรีวิไลย์ และ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน
และเมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 1/65 เดือนมีนาคม 2565 พบว่า ผู้ที่ระบุว่า ไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย และ พรรคประชาธิปัตย์ มีสัดส่วนลดลง ในขณะผู้ที่ระบุว่า พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคกล้า และ พรรคภูมิใจไทย มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น