"วรนัยน์" หนุน 500 หารส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เปิดทางคนรุ่นใหม่ สกัด ระบบอุปถัมภ์
"วรนัยน์" หนุนสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หาร 500 ชี้ สกัดบ้านใหญ่-การเมืองอุปถัมภ์-คอร์รัปชั่น เปิดโอกาสคนรุ่นใหม่เข้าสภาฯ ยัน ต้องมีคะแนนขั้นต่ำ ไม่ใช่ปัดเศษ 3หมื่น เป็น ส.ส. เหมือนเลือกตั้งครั้งที่แล้ว
นายวรนัยน์ วาณิชกะ หัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัว ระบุว่า บ้านใหญ่ VS รุ่นใหม่ เหตุผลที่เราต้องสนับสนุนสูตรหาร 500 ถ้าคุณดูการอภิปรายในรัฐสภา ก็จะเห็นว่า ส.ส.ส่วนใหญ่ ถ้าไม่ใช่หน้าเดิมๆ ก็เป็นลูกหลานของคนหน้าเดิมๆ เดิมมาตั้งแต่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นรัฐบาลและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นฝ่ายค้าน เดิมมาตั้งแต่สมัยต้นศตวรรษ ครม. ก็เช่นกัน หน้าเดิมๆ
นายวรนัยน์ ระบุว่า เหตุผลคือการเมืองของประเทศไทย คือการเมืองบ้านใหญ่ในโครงสร้างอุปถัมภ์ บ้านใหญ่ คืออะไร? คือ ผู้ทรงอิทธิพล คือ เจ้าพ่อหรือเจ้าแม่ของพื้นที่ คือ ผู้ที่เปี่ยมไปด้วยบารมีและยศถาบรรดาศักดิ์ คนธรรมดาสามัญจะก้าวเข้าสู่การเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย คุณต้องมีเงินถุง คุณต้องมีคอนเนคชั่นยาวเหยียด และกว่าคุณจะเข้ามาถึงได้ คุณก็ต้องเสียไปเยอะเพราะฉะนั้น เข้าไปแล้วคุณก็ต้องถอนทุน คุณก็ต้องตอบแทนบุญคุณผู้ที่เปิดประตูให้คุณเข้ามาคุณก็ต้องส่งส่วยเบี้ยเลี้ยงให้ลูกน้องและบริวารในเน็ตเวิร์คของคุณ นี่คือโครงสร้างการเมืองอุปถัมภ์ ซึ่งนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชั่นในระบบที่ประเทศเราดิ้นไม่หลุด
นายวรนัยน์ ระบุด้วยว่า พวกนายพลรัฐประหารเข้ามา ก็เอาระบบอุปถัมภ์ของตนมาเสียบแทนที่จะเข้าสู่ยุคเลือกตั้ง การเมืองก็ผสมผสานกันระหว่าง บ้านใหญ่ของทหาร และ บ้านใหญ่ของผู้ทรงอิทธิพล รัฐธรรมนูญปี 60 มีปัญหาทั้งที่มาและที่ไป เราต้องยอมรับว่า กติกาการเลือกตั้งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสกัดพรรคเพื่อไทยและเอื้อต่อพรรคพลังประชารัฐ
แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ สูตรเลือกตั้งใบเดียวก็เปิดโอกาสให้นักการเมืองรุ่นใหม่และพรรคการเมืองแบบใหม่อย่างพรรคอนาคตใหม่ เข้ามาในสภาได้ถึง 80 ที่นั่ง แต่รัฐธรรมนูญนี้ก็ดับพรรคอนาคตใหม่จนกลายเป็นพรรคก้าวไกล และเหลืออยู่ 55 ที่นั่ง ประเด็นสำคัญคือ กฎกติกาการเลือกตั้งที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่และการเมืองใหม่ ถึงแม้ผู้มีอำนาจจะไม่ได้ตั้งใจเช่นนั้น
สัปดาห์นี้รัฐสภาจะถกเถียงกันอย่างเข้มข้นในประเด็นสูตรเลือกตั้งหาร 100 ชึ่งเอื้อส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ให้พรรคใหญ่ สูตรหาร 500 ชึ่ง เอื้อส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อให้พรรคเล็ก ตนอยากจะยกประเด็นออกเหนือการต่อสู้ทางการเมือง เพื่อมาพิจารณาว่าอนาคตของประเทศไทยควรจะเดินไปทางไหน
ทั้งนี้ ผมไม่เห็นด้วยกับกติกาการเลือกตั้งที่ใช้เครื่องคิดเลขชำรุด ใช้เวลาถึงสองเดือน และกดเศษส่วนเข้ามานั่งในสภาได้ถึง 11 เก้าอี้ แต่ผมอยากเห็นกติกาการเลือกตั้งที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่และการเมืองใหม่สามารถเข้ามามีที่นั่งในรัฐสภาได้เพิ่มขึ้นอีก ก็ต้องพูดตามตรง ผมเป็นหัวหน้าพรรคที่ไม่เคยเล่นการเมืองมาก่อน และคนในพรรคก็หน้าใหม่ในการเมืองทั้งนั้นและเรามารวมตัวกันเพราะเราเชื่อมั่นว่าเราสามารถสร้างการเมืองที่มีธรรมาภิบาลได้ สร้างกฎหมายที่เคารพสิทธิมนุษยชนได้ และสร้างเศรษฐกิจที่พัฒนาได้ ซึ่งแน่นอน ผมต้องการเห็นกติกาเลือกตั้งที่ให้โอกาสพรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพรรครวมไทยยูไนเต็ดหรือพรรคใด
ไม่ต้องมากดเครื่องคิดเลขปัดเศษส่วนให้เรา แต่เพียงขอกติกาที่ไม่ได้ล็อกสเป็กให้กับเหล่าบ้านใหญ่ สูตรคำนวณที่เปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่และการเมืองใหม่คือ สูตรหาร 500 แต่กติกาก็ต้องให้ความเป็นธรรม ไม่ว่าจะบ้านใหญ่หรือบ้านเล็ก ควรจะต้องมีมาตรฐานขั้นต่ำไม่ใช่ได้ 30,000 คะแนน ก็ได้ 1 เก้าอี้แล้วเหมือนเช่นการเลือกตั้งคราวที่แล้ว
ทั้งนี้ เชื่อว่า อนาคตของประเทศไทย คือการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่มีส่วนร่วม และต้องไม่อยู่ในกำมือของคนรุ่นเก่าที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ในบ้านหลังใหญ่