"เพื่อไทย" ปูด "กกต." ฮั้วแบ่งเขต -บางบ้านมีเงินพันล้านเตรียมเลือกตั้ง

            ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาเป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ.... ในวาระสอง ต่อเนื่องเป็นครั้งที่สอง ว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างราบรื่นโดยการลงมติตั้งแต่มาตรา 6/3 ถึงมาตรา 11 นั้นนั้นยังคงเป็นไปตามการแก้ไขของกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ เสียงข้างมาก

 

            อย่างไรก็ดีในช่วงหนึ่งของการอภิปรายมาตรา 12 ซึ่งแก้ไขมาตรา 73 ของร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. ว่าด้วยข้อห้ามในการกระทำที่จะใช้เพื่อจูงใจ ชักจูง หรือชักชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเลือกผู้สมัครรายใด หรือไม่เลือกผู้สมัครรายใด 

 

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับในการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา ไม่ได้ทักท้วงต่อเนื้อหาที่กมธ.แก้ไขเพิ่มเติม  แต่ได้ฝากข้อเสนอแนะไปยัง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

 

            โดย นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ   อภิปรายว่า กกต.  ไม่สนใจว่าการเลือกตั้งจะมีการซื้อเสียงหรือไม่  เมื่อมีคนไปฟ้องกลับบอกว่า ซื้อกันทั้งนั้น ไม่ต้องกล่าวหากันไปกันมา หลังเลือกตั้งเอาหลักฐานมายื่น แต่พอมีคนยื่นหลักฐาน กกต. รับทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง  ทั้งนี้ในการทำหน้าที่ควรให้ทำงานกับหน่วยงานอื่นๆ เช่น ทหาร ตำรวจ ครู อาสาสมัครเพื่อตรวจสอบการเลือกตั้ง แต่ละข้อห้ามที่กำหนดเพื่อไม่ให้ทุจริตเลือกตั้งที่ชัดเจน 

 

            “ที่ผ่านมา กกต. ทำแบบหยุมหยิม เช่น ยื่นซองให้พระในงานหรือ ให้ซองเจ้าภาพงานศพพบการเอาผิด แต่เขาซื้อเสียงทั้งเมือง กกต.กลับไม่รู้เรื่อง ผมอยากให้การแก้ไขมาตรา 73 สามารถปราบการทุจริตได้ เพราะห่วงว่าการเลือกตั้งครั้งใหม่ ปี66 จะซื้อหนักกว่าเดิมอีก”นายวีระกร กล่าว

 

            ขณะที่นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม  ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตนห่วงการทำงานของก กกต. เพราะปัจจุบันเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นแล้วจากการจะกลับไปใช้สูตร 500 คนหาค่าเฉลี่ยส.ส. คือ การแย่งชิงอำนาจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอรักษาอำนาจของตนเองไว้ก่อน โดยไม่สนใจสังคม ทิศทางวันนี้ คือ พวกท่านอยากมีอำนาจทั้งที่เศรษฐกิจแย่ ประชาชนยากจนและลำบากทุกหย่อมหญ้าแต่ท่านอยากไปต่อ

 

            “ผมอยู่ฝ่ายค้านน่าเป็นห่วงที่สุด เพราะนอกจากโดนความพิสดารของรัฐธรรมนูญแล้ว การเลือกตั้งครั้งหน้าไม่รู้จะโดนอะไรอีก ผมทราบว่าตอนนี้การแบ่งเขตเลือกตั้งเริ่มฮั้วให้บางพรรคการเมืองแล้ว จังหวัดใดที่ได้ผู้แทนเพิ่มเริ่มมีปัญหา ผมเชื่อแน่ว่ากระบวนการแจกกล้วยจะกระจายไปยังเขตเลือกตั้ง เป็นคันรถ ซึ่งกกต.รู้ แต่ไม่ปฏิบัติเพราะต้องหาหลักฐาน อีกทั้งบางบ้านสะสมเสบียงเป็นพันล้านบาทเพื่อเตรียมเลือกตั้ง วันนี้เรารบกับ 3 ป. ไม่ใช่ ปลากัด ปลาดุก ปลาช่อน แต่คืออำนาจเต็ม  ดังนั้นผมขอฝากไปยังกกต. ฐานะคนจะสร้างประชาธิปไตยในแผ่นดินให้ความเป็นธรรมกับบ้านเมือง ตอนนี้พวกผมหมดปัญญาแล้ว ต่อให้ยกสองมือ ไม่มีทางชนะ” นายครูมานิตย์ อภิปราย 

            ทั้งนี้นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย ฐานะ กมธ.เสียงข้างมาก ชี้แจงด้วยว่า ในปัญหาการทำงานขอกกต.นั้น ต้องหากลไกกำกับตรวจสอบ เช่น ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หรือ จริยธรรมตามมาตรา 234 รวมถึงผู้สมัครที่ได้รับผลกระทบสามารถฟ้องร้องต่อศาลแพ่งได้ ทั้งนี้การเลือกตั้งเที่ยงธรรมต้องอาศัยความร่วมมือหลายฝ่าย

 

            “สำหรับการแบ่งเขตเลือกตั้งนั้น กกต. จะดำเนินการหลังจากที่ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้แล้ว โดยออกแบบรูปแบบเขตเลือกตั้ง 3 แบบ จากนั้นให้ประชาชนแสดงความเห็นก่อนเสนอต่อ กกต.กลางเพื่อเลือกแบบเดียว อย่างไรก็ดีผมเชื่อว่าภายใต้กติกาที่ออกแบบจะทำให้กกต. แบ่งเขตได้บริสุทธิ์ยุติธรรมได้ระดับหนึ่ง” นายสมชัย ชี้แจง