"แผ่นดินไหว" ในทะเลอันดามัน นายกฯกำชับเฝ้าระวัง เตรียมแผนเผชิญเหตุฉุกเฉิน
โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ห่วงใยประชาชนกรณี "แผ่นดินไหว" ในทะเลอันดามัน กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง เตรียมแผนเผชิญเหตุฉุกเฉิน พร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยต่อกรณีที่มีการเกิด "แผ่นดินไหว" ในทะเลอันดามัน ซึ่งสร้างความวิตกกังวลแก่พี่น้องประชาชนว่าจะเกิดสึนามิในประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรองรับหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน พร้อมเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอมสร้างความตื่นตกใจ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชี้แจงว่า กรณีการเกิดภาวะน้ำทะเลหนุนบริเวณฝั่งอันดามัน และการเกิดแผ่นดินไหวในทะเลอันดามัน ซึ่งนำมาสู่ความกังวลว่าจะเกิดสึนามิในประเทศไทย โดยกรมอุตุนิยมวิทยา เผยว่า ในช่วงวันที่ 4 – 6 กรกฎาคม 2565 ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวบริเวณหมู่เกาะอันดามัน ประเทศอินเดีย ศูนย์กลางห่างจาก จ.พังงา ประมาณ 500 กิโลเมตร มีขนาด 4.0-4.9 รวมทั้งหมด 32 ครั้ง
ซึ่งเป็นการเกิดแผ่นดินไหวที่ไม่รุนแรง เป็นเพียงการสั่นระดับปานกลาง ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประเทศไทย และไม่ทำให้เกิดสึนามิ อย่างไรก็ดี อาจทำให้ประชาชนรู้สึกกังวล เนื่องจากบริเวณ จ. ภูเก็ต พังงา กระบี่ มีภาวะน้ำทะเลหนุนสูง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ซึ่งชี้แจงได้ว่า ไม่ได้เกิดจาก "แผ่นดินไหว" แต่เป็นเพราะ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้บริเวณฝั่งอันดามันมีกำลังแรง ทำให้เกิดคลื่นสูง 2 - 3 เมตร และภาวะน้ำทะเลหนุนสูงในจังหวัดฝั่งอันดามัน เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ คาดว่ามีโอกาสเกิดสึนามิค่อนข้างน้อยมาก เนื่องจาก "แผ่นดินไหว" ที่เกิดขึ้นไม่ได้มีการเลื่อนตัวในแนวดิ่ง และมีขนาดไม่ใหญ่ จึงขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด จากช่องทางของกรมอุตุนิยมวิทยา โดยทางกรมอุตุนิยมมีการเฝ้าระวังแผ่นดินไหว 24 ชั่วโมง
เบื้องต้น หากมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น ทาง กรมอุตุนิยมวิทยา จะมีการแจ้งข้อมูลมายังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบต่อไป
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งแนวทางการทำงานว่าหากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รับแจ้งยืนยันว่าเกิดแผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 7.8 ขึ้นไป ทางกรมฯ จะมีการแจ้งเตือนไปยังหอเตือนภัยในทะเลอันดามันซึ่งมีทั้งหมด 130 หอ เพื่อแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อสึนามิ 6 จังหวัด ใน 27 อำเภอ 102 ตำบล 509 หมู่บ้านและชุมชน ได้แก่
- ระนอง
- พังงา
- กระบี่
- ตรัง
- สตูล
- ภูเก็ต
ทั้งนี้ ทางกรมฯ มีเจ้าหน้าที่ติดตามข้อมูลการเกิด "แผ่นดินไหว" และแนวโน้มการเกิดสึนามิตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทุ่นสึนามิ ซึ่งหากมีการเกิดคลื่นสึนามิในทะเล ทุ่นจะส่งสัญญาณเตือนมาที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และส่งไปยังหน่วยงานระหว่างประเทศ NOOA ของสหรัฐอเมริกา และแจ้งเตือนไปยังพื้นที่เสี่ยงต่อไป
หากทุ่นไม่สามารถทำงานได้ ก็ยังมีทุ่นสึนามิของประเทศต่าง ๆ ที่จะส่งสัญญาณไปยัง NOOA เพื่อประมวลผลได้เช่นกัน และขณะนี้หากกรณีทุ่นของประเทศต่าง ๆ ไม่ส่งสัญญาณ การแจ้งเตือนจะเริ่มจากการแจ้งเตือนแผ่นดินไหวก่อน หากขนาดตั้งแต่ 7.8 ขึ้นไป ทาง NOOA จะส่งข้อมูลการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการเกิดสึนามิ ดังนั้น ยืนยันว่าประเทศไทยยังได้รับข้อมูลการแจ้งเตือนการเกิดแผ่นดินไหว และการเกิดสึนามิอย่างต่อเนื่องแน่นอน
นอกจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ยกระดับความพร้อมในการทดสอบระบบการแจ้งเตือนภัยไปยังหอเตือนภัยประเภทสึนามิที่ฝั่งอันดามัน โดยจะมีการทดสอบระบบทุกวัน และมีการสร้างความรับรู้และความเข้าใจของพี่น้องประชาชนถึงระบบการแจ้งเตือนภัยและสึนามิของประเทศไทยว่ายังสามารถทำงานได้ตามปกติ และให้ข้อมูลหลักการปฏิบัติกรณีเกิดภัย การเตรียมความพร้อมในเรื่องสถานที่ ศูนย์พักพิง ศูนย์อพยพชั่วคราว ที่แต่ละพื้นที่มีการเตรียมพร้อมไว้ตามแผนปฏิบัติการของแต่ละจังหวัด
นอกจากนี้ มีการเตรียมความพร้อมเรื่องบุคลากรและอุปกรณ์ในการรับมือกับภัยทุกประเภท โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด ในพื้นที่เสี่ยง 6 จังหวัด และมีการกำหนดฝึกซ้อมรับมือกับสึนามิในระดับจังหวัด อำเภอ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมแล้ว ดังนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจได้ว่า มีการเตรียมพร้อมต่อการปฏิบัติตลอด 24 ชั่วโมง
“นายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชน โดยได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติการ เฝ้าระวัง เตรียมความพร้อม อย่างเต็มกำลัง และให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงาน เตรียมการพูดคุยเพื่อหาแนวทางในการทำงานร่วมกัน เพื่อให้มีแผนเผชิญเหตุที่ รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และรัดกุมต่อการให้ความช่วยเหลือ บรรเทาผลกระทบต่อประชาชน โดยในช่วงเวลานี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ ประชาสัมพันธ์แนวทางการทำงานเพื่อให้ประชาชนเข้าใจ คลายกังวล และรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานหลัก” นายธนกรฯ กล่าว