“เพื่อไทย” หวังพลิกเกมเปลี่ยนสูตรคำนวณ ส.ส. จ่อเห็นแย้ง-ส่งศาล รธน.ตีความ
“ชลน่าน” เผย “เพื่อไทย” ยังหวังพลิกเกมเปลี่ยนสูตรหาร 100 หากมีคำทักท้วงจากศาล-กกต.ปมหาร 500 ขัดรัฐธรรมนูญ เตรียมทำความเห็นแย้งหลังโหวตวาระ 3 ก่อนส่งศาล รธน.วิติจฉัย เปรยเตรียมนำไปตีแผ่ในเวทีซักฟอกด้วย หากพบ “นายกฯ” รู้เห็นเรื่องนี้
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2565 ที่พรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐสภาโหวตสูตรการคิดคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหาค่าเฉลี่ย ส.ส. 1 คนนำคะแนนบัญชีรายชื่อทั้งหมดหารด้วย 500 หรือการคิดคะแนนแบบจัดสรรปั่นส่วนผสมแบบเดิมในการเลือกตั้งปี 2562 ว่า วิธิคิดคำนวณที่รัฐสภาโหวตนี้ หาร 500 เป็นการคิดแบบเดิมคือจัดสรรปันส่วนผสม เพื่อเปลี่ยนจากบัตรใบเดียวเป็นบัตร 2 ใบและนำมาคิดเฉพาะบัตรบัญชีรายชื่อเท่านั้น และในการโต้แย้งประเด็นดังกล่าวตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญ สมาชิกรัฐสภาไม่สามารถเข้าชื่อเพื่อที่จะยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ แต่พรรคเพื่อไทยจะทำความเห็นแย้งประกบไปกับร่างกฎหมายหลังรัฐสภาโหวตวาระ 3 ที่ประธานรัฐสภาจะส่งร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับไปยังศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องคือ กกต.เพื่อพิจารณาชี้ขาดว่ามีความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นหน่วยงานดังกล่าวจะทำความเห็นส่งกลับมายังรัฐสภาว่าขัดหรือแย้งหรือไม่ หรือมีข้อทักท้วงหรือไม่ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐสภาบรรจุวาระการประชุมหารือให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าร่างถูกตีตก เมื่อรัฐสภาปรับแก้ตามคำทักท้วงแล้วก็นำร่างขึ้นทูลเกล้าฯ หากศาลหรือองค์กรอิสระทักท้วงมาว่าการหาร 500 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ รัฐสภาต้องนำกลับมาแก้เป็น 100 และเหตุผลที่เพื่อไทยต้องรอเพราะด้วยกลไกของรัฐธรรมนูญกำหนดขั้นตอนไว้แล้ว
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเหตุผลที่รัฐบาลพลิกเกมเปลี่ยนโหวตหาร 500 ว่า เหตุผลรองคือสกัดแลนด์สไลด์พรรคเพื่อไทย แต่เหตุผลหลักมาจากเหตุเกมส์พลิกข้ามคืนวันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม 2565 จากสัญญาณที่สื่อลงข่าวมีการเคาะโต๊ะ เกิดจากการต่อรองการอภิปรายไม้ไว้วางใจของพรรคการเมืองหนึ่งที่มีเสียง 30-40 เสียงในสภาฯ โดยเฉพาะคนต่อรองต้องการเอาชนะคะแนนไม่ไว้วางใจ และเห็นว่า 30-40 เสียงมีประโยชน์ ซึ่งผู้มีอำนาจถูกบีบคอตลอดจนต้องให้
“เรื่องสูตรคำนวนหาร 500 นี้พรรคการเมืองฝ่ายค้านจะหยิบยกเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีฐานจงใจกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญด้วย หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นในการสั่งการให้รัฐสภาโหวตสูตรคำนวณหาร 500 อันเป็นการฝ่าฝืนระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขระบบรัฐสภาระบบแบ่งแยกอำนาจในการก้าวล่วงอำนาจนิติบัญญัติ ถือเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบบประชาธิปไตย ทำให้เสื่อมเสียหาย รวมถึงการกระทำจงใจฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม ครอบงำชี้นำ ซึ่งถือเป็นความอัปยศในระบบรัฐสภาไทยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในประวัติศาสตร์ และจากนั้นหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะไปร้อง ป.ป.ช.ไต่สวนเอาผิดตามกฎหมาย” นายแพทย์ชลน่าน กล่าว
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวด้วยว่า กรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณากฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ นัดพิจารณาเพื่อปรับแก้ร่างกฏหมายให้สอดรับกับสูตรการคิดคำนวนหารด้วย 500 ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2565 ก่อนที่รัฐสภาจะนำเข้าสู่วาระการประชุมวาระ 2-3 อีกครั้งในวันที่ 26 และ 27 กรกฎาคม 2565