"เรืองไกร" ยื่น "ป.ป.ช." สอบ "ชลน่าน-300ส.ส." เห็นชอบลดงบลงทุน ปี65

        นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ยื่นหนังสือร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย  พร้อม ส.ส. รายอื่นๆ ที่เห็นชอบให้ปรับลดงบลงทุน ในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จนต่ำกว่า 20%  ว่าเข้าข่ายความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234(1) หรือไม่ ทั้งนี้ตนตรวจสอบการอภิปรายของนพ.ชลน่าน ต่อการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ พ.ศ.2566 วาระแรก ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม  พบว่าการปรับลดนั้นขัดวินัยการเงินการคลังมาตรา 20 และนพ.ชลน่านพูดชัดว่า ไม่ใช่แค่ตั้ง แต่ตอนปรับลดก็ทำไม่ได้ แต่จากการตรวจสอบย้อนไปยังการพิจารณาพ.ร.บ.งบฯ65 พบการปรับลดรายจ่ายลงทุนทั้งสิ้น 1.2 หมื่นล้านบาท ทำให้เหลืองบลงทุน 19.74% ของวงเงินงบประมาณกลาง โดยทางกมธ. เสียงข้างมาก รวมทั้ง นพ.ชลน่าน และส.ส.พรรคเพื่อไทยเห็นด้วย

       "ผมแปลกใจในการอภิปราย เพราะเมื่อไปย้อนดูผลการลงมติวาระ 2 ของงบประมาณปี 2565 จำนวน 300 กว่าคน หนึ่งในนั้นมีนพ.ชลน่านเห็นด้วย ตนจึงแปลกใจว่าทำไมเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมาจึงบอกว่าเป็นการขัดต่อวินัยการเงินการคลัง ตนจึงขอให้ ป.ป.ช. สอบผู้นำฝ่ายค้าน จากนั้นสอบส.ส.อีก 300 กว่าคน รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ยินยอมให้ปรับลดงบประมาณในห้องอนุกมธ. เพราะงบดังกล่าวถูกตัดในห้อง อนุกมธ. ซึ่งตนไม่ได้เป็นอนุกมธ. นอกจากนี้พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ยังเห็นด้วยเรื่องการปรับลด เพียงแต่เห็นแย้งว่าไม่ให้นำไปใช้ในงบโควิด-19 ตอนนั้นจึงเป็นปัญหาระหว่างทั้งสองพรรค เพราะพรรคก้าวไกลเห็นว่าเป็นการไปตีเช็คเปล่าให้นายกฯ จำนวน 1.6 หมื่นล้านบาท"  นายเรืองไกร กล่าว

       นายเรืองไกร กล่าวว่า ส่วนการที่ไปกล่าวหา ส.ว. นั้นตนคิดว่าไม่ถูกต้อง เพราะการพิจารณางบประมาณ ส.ว.ไม่มีอำนาจปรับลด มีเพียงเห็นด้วยหรือไม่เท่านั้นภายในระยะเวลา 20 วัน ดังน้ันหากจะกล่าวหาว่ามิชอบด้วยวินัยการเงินการคลัง ต้องสอบข้อเท็จจริงจากนพ.ชลน่าน เพราะเป็นส.ส. มาแล้วหลายสมัย และเคยเป็นรัฐมนตรี ปัจจุบันเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ฐานะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน นำหนักคำพูดถือเป็นเรื่องสำคัญ

          นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า ตนยื่นเรื่องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาาโหมให้แจ้งไปยังหน่วยงานรับงบประมาณ ว่าาอย่ายอมรับการตัดงบประมาณ เพราะาอาจถูกกล่าวาหาเหมือนปี 2565 และไม่ให้ผิดต่อพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 มาตรา20 (1)