เกม 2 ขา “3 ป.” ชู แจกรวย ปักธง “มินิแลนด์สไลด์” ยกจังหวัด

เกม 2 ขา “3 ป.” ชู แจกรวย ปักธง “มินิแลนด์สไลด์” ยกจังหวัด

ฝ่ายผู้มีอำนาจจึงพยายามแก้เกมปรับทัพรับศึก และยืมมือ ลุ้นให้คู่แข่งทั้งก้าวไกล และพรรคอื่นๆ ร่วมวงรุมกินโต๊ะเพื่อไทย ไม่ให้เป็นรัฐบาลอย่างที่ตั้งใจ ได้ง่ายๆ

จับจังหวะความเคลื่อนไหวของเครือข่าย “3 ป.” ที่ครองอำนาจในเวลานี้ ประสานสอดคล้องกันเป็นอย่างดี หลังจากรัฐสภา มีมติเลือกสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แบบหาร 500

การลงพื้นที่ จ.กำแพงเพชร ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณไปต่อชัดเจน ในหลายจุดที่มีโอกาสพบประชาชน ช่วงหนึ่งถึงขนาดระบุว่า ถ้ายังอยู่ จะผลักดันโครงการให้เร็วขึ้น

ถัดมาเพียงวันเดียว พล.อ.ประยุทธ์ ก็ออกแถลง “กลยุทธ์ 3 แกน สร้างอนาคต” ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และการให้คนไทยที่ไม่เคยเข้าถึงระบบธนาคาร ได้เข้าถึงเงินกู้

โดยมีเป้าหมายแก้ปัญหาปากท้อง ขจัดความยากจนให้หมดไป สร้างรายได้ กระจายความมั่งคั่ง ร่ำรวย ไปทุกหย่อมหญ้า 

นี่จึงเป็นขาแรกที่ นายกฯ เลือกนำเสนอ เพราะรู้ดีว่า ช่วงเวลาหลังจากนี้ต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจ เติมเงินใส่กระเป๋าประชาชนให้กลับมามีสภาพคล่องอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน การเดินเกมการเมือง ในปีกพรรคพลังประชารัฐ นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค จัดโรดโชว์ผลงานของพรรค ประเดิมเวทีแรก ที่ชลบุรี ก็เป็นขาที่ 2

แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ทั้งหัวหน้า และเลขาธิการพรรค อย่าง สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ประกาศศักดา ไม่กลัวเกมจิตวิทยา โฆษณาชวนเชื่อแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย

งานนี้ สันติ พูดชัดเจนว่า พล.อ.ประวิตร ระบุอย่างมั่นใจว่าสูตรหาร 500 จะทำให้พลังประชารัฐได้ส.ส.มากขึ้น แถมตั้งเป้าจะแลนด์สไลด์ ในแบบฉบับพปชร. คือชนะเลือกตั้งยกจังหวัดให้ดูอาทิ เพชรบูรณ์ และ ชลบุรี

กลยุทธ์กวาด ส.ส.ยกจังหวัด ของพลังประชารัฐ หรืออาจจะเรียกว่ามินิแลนด์สไลด์ ที่หมายปักธงรายจังหวัดให้ได้มากที่สุด ค่อยๆ ต่อจิ๊กซอว์ไปที่ละพื้นที่

โดยอาศัยเครือข่ายบ้านใหญ่ และนักการเมืองตัวเก๋า ที่มีฐานเสียงให้รับผิดชอบโซนของตัวเอง

แม้เงื่อนไขแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกัน แต่ละคนจึงต้องงัดวิชาตามแต่ตำราที่ตัวเองถนัดออกมาใช้และเมื่อโฟกัสในภาคอีสาน ที่ถูกมองว่าเป็นจุดอ่อนที่สุดของพลังประชารัฐ และเป็นคะแนนบ่อใหญ่ของเพื่อไทยนั้น

ขุนพลที่รับผิดชอบพื้นที่โซนหนึ่งของอีสาน กลับไม่ได้กังวลแต่อย่างใด เพราะเตรียมวิทยายุทธ์นอกตำราเอาไว้รับมือเรียบร้อย และถ้าดูผลการเลือกตั้ง เมื่อปี 2562 หลายเขตที่ เพื่อไทยได้ส.ส. ก็ชนะพลังประชารัฐ หรือภูมิใจไทย เพียงเฉียดฉิวไม่กี่พันคะแนน

หัวเมืองสำคัญ เช่น ที่เชียงใหม่ ครั้งที่แล้ว เพื่อไทยกว่าจะได้ส.ส. ก็เรียกว่าหืดขึ้นคอ เพราะคู่แข่งอย่างอนาคตใหม่ในตอนนั้นกวาดคะแนนไล่หลัง ในบางเขตทิ้งห่างกันเพียงหลักร้อยเท่านั้น และบางเขตชนะแค่หลักพัน

เมื่อพิจารณาเจาะเป็นรายเขต รายพื้นที่ ทำให้แกนนำพลังประชารัฐ หลายคน พอเห็นลู่ทางว่าอาจเอาชนะเพื่อไทยได้ และเมื่อบวกหลายปัจจัยในการเลือกตั้งครั้งหน้า อาทิ การแข่งขันที่สูงขึ้น จำนวน ส.ส.เขต มากถึง 400 ที่นั่ง 

ไม่เฉพาะเพื่อไทยที่ต้องการกวาดให้ได้มากที่สุด พรรคในซีกฝ่ายค้านเอง หรือพรรคใหม่ ก็หมายตาเช่นเดียวกัน

ที่สำคัญ พรรคก้าวไกลที่มีบทบาทและผลงานในสภาเป็นรูปธรรมชัดเจน ทำงานจริงจัง เสนอกฎหมายหลายฉบับ ที่พยามแก้ไขโครงสร้างเพื่อเปิดโอกาสให้แต่ละกลุ่มในสังคม เช่น ร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า หรือร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ก็เป็นคู่แข่งคนสำคัญของเพื่อไทย ที่แทบจะไม่มีบทบาทโดดเด่นในการเสนอกฎหมาย จะมีก็กรณีเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนระบบเลือกตั้ง ที่ตัวเองได้ประโยชน์

ดังนั้น 3 ป. และพลังประชารัฐ จึงมีความหวังว่า จะสกัดแผนแลนด์สไลด์ ของ ทักษิณ ชินวัตรและคนเพื่อไทยได้

ฝ่ายผู้มีอำนาจจึงพยายามแก้เกมปรับทัพรับศึก และยืมมือ ลุ้นให้คู่แข่งทั้งก้าวไกล และพรรคอื่นๆ ร่วมวงรุมกินโต๊ะเพื่อไทย ไม่ให้เป็นรัฐบาลอย่างที่ตั้งใจ ได้ง่ายๆ