วิบาก “จุติ” จนมุมฝ่ายเดียวกัน  "กลุ่ม 16 - ส.ส.ปชป." จ่อคว่ำ 

         ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน รัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ “7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน” ใช้จั่วหัวญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 11 รัฐมนตรี

 

         ใน 2 วันแรกนั้น สอยรัฐมนตรีนั่งร้านของ “3 ป.” ได้ครบถ้วน  ข้อหาและความประพฤติที่ถูกแฉกลางสภาฯ นั้น ทำให้ “รัฐมนตรี” บางรายถูกน็อคคาสภาฯ เพราะนอกจากตอบคำถาม และชี้แจงข้อกล่าวหาไม่ได้แล้ว ยังบ่ายเบี่ยงลุกออกห้องประชุม ขอเวลาข้ามคืนเพื่อไปเตรียมข้อมูลมาตอบวันถัดไป

 

         ไม่ว่าจะเป็น “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม ปมนิติกรรมอำพราง ส่อซุกหุ้น "หจก.บุรีเจริญ” ที่ไม่ชี้แจงทันที หลัง ส.ส.ฝ่ายค้านซักฟอก ต้องกลับไปเตรียมเอกสารเมื่อ 19 กรกฏาคม ก่อนจะชี้แจงในวันถัดไป คือช่วงสายของวันที่ 20 กรกฎาคม

 

         หรือ “จุติ ไกรฤกษ์” รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปมทุจริตใน "การเคหะแห่งชาติ” ที่ลุกออกจากห้องประชุมเมื่อค่ำวันที่ 19 กรกฎาคม แทนการชี้แจง และกลับมาตอบคำถามอีกครั้งช่วงเย็นวันที่ 20 กรกฎาคม

         พฤติการณ์ที่ 2 รัฐมนตรีกระทำนั้น สุ่มเสี่ยงถูกตีความว่าอาจเป็นไปตามที่ฝ่ายค้านกล่าวหา ชวนให้ “สังคม” นอกสภา ไม่ไว้วางใจ

 

         โดยแกนนำพรรคเพื่อไทย ทั้ง ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ สุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ภูมิใจในการทำหน้าที่ของขุนพลพรรคฝ่ายค้าน เพราะ “ซัด” รัฐมนตรีได้จนมุม

         “พรรคฝ่ายค้าน ทำได้ดีเกินคาด สนับสนุนข้อมูลกันได้อย่างดี ส่วนการตอบคำถามของรัฐมนตรีนั้น หลายคนอยู่ในเกณฑ์น่าผิดหวัง เพราะหลีกเลี่ยงจะตอบในข้อสงสัย ทั้งพฤติกรรมส่อทุจริต ผลประโยชน์ทับซ้อน” สุทิน ระบุ

 

         แม้ฝ่ายค้านจะรู้ดีว่า ผลลัพธ์ของการออกเสียงไม่ไว้วางใจ ในสภาฯ ไม่สามารถ “ล้มรัฐบาล” เพราะต้องใช้เสียงไม่ไว้วางใจ 240 เสียงขึ้นไป 

 

         ลำพังฝ่ายค้านที่ร่วมยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ 186 คน พ่วงกับพรรคเศรษฐกิจไทย ของ “ผู้กองธรรมนัส” อีก 16 คน รวมกันเป็น 202 คน นั่นหมายถึง “เสียงยังไม่พอ” ยังขาดอีก 32 เสียง

 

         ทว่า ความเคลื่อนไหวสนับสนุน “ฝ่ายค้าน” ยังมีเพิ่ม จากการดึง “ขั้วพรรคเล็กร่วมรัฐบาล” ในนาม "กลุ่ม 16” มาเสริม ซึ่ง “พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค” ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทรักธรรม ฐานะผู้เช็คลิสต์รัฐมนตรีที่อาจไม่ได้รับความไว้วางใจ ย้ำเมื่อช่วงเย็นของการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่สองว่า 

 

         “รายชื่อรัฐมนตรีที่ส่อว่าจะถูกลงมติไม่ไว้วางใจ ยังคงเป็นรายชื่อที่เคยประกาศไว้ แต่จะขอหารือกับกลุ่มอีกครั้ง เพื่อขอมติและความเห็นพ้องต้องกัน ซึ่งต้องพิจารณาข้อมูลในคำกล่าวหาและข้อชี้แจงของรัฐมนตรีอีกครั้ง”

​​​​​​​

         อนึ่ง รัฐมนตรีที่ “พีระวิทย์” เช็คลิสต์ไว้แล้ว หลังฟังคำอภิปรายและชี้แจงของ 8 รัฐมนตรีแล้ว มีชื่อ “จุติ ไกรฤกษ์” เนื่องด้วยพฤติกรรมไม่ตอบข้อชี้แจงโดยทันที และข้อมูลที่เห็นจาก “ส.ส.ฝ่ายค้าน” เข้าข่ายทุจริต ในการเคหะแห่งชาติ และหากำไรจากคนจน จึงไม่อาจปล่อยผ่าน

 

 

         ขณะเดียวกัน กระแสไม่ไว้วางใจ “จุติ” มีความชัดเจนมากขึ้นจากฝั่ง “พรรคประชาธิปัตย์” โดย “สาธิต ปิตุเตชะ” รองหัวหน้าพรรค ระบุว่า ส.ส.ในพรรคบางคนจะโหวตคว่ำ

 

         โดยประเด็นนี้ ทำให้ “จุติ” เป็นรัฐมนตรีที่ถูกจับตาว่า อาจเป็นรายแรกที่ถูกคว่ำคาสภาฯ หรือไม่ 

 

         เพราะนอกจากจะมีประเด็นการบริหารงานที่ส่อไม่โปร่งใส และตอบข้อชี้แจงไม่ชัดเจนแล้ว ยังมีปัญหาภายในพรรคต้นสังกัด ที่ทำให้ “บางก๊วนในประชาธิปัตย์” ต้องการเปลี่ยน เพื่อหวังขยับตำแหน่งใน “คณะรัฐมนตรี” 

 

         หลังผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2 วันที่ผ่านมา เมื่อประเมินทิศทางแล้ว “จุติ” อาจตกอยู่ในภาวะที่ยากลำบาก.