มือมืดค่ายสะตอ ยืมมือ“พรรคเล็ก” สอย“จุติ” ยึดคืนเก้าอี้ พม.

เสียฟอร์ม จนอาจสะเทือนเก้าอี้รัฐมนตรี เมื่อ “เสี่ยไก่” จุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เว้นจังหวะเคลียร์ข้อกล่าวหาในศึกซักฟอกคืนวันแรก 

โดยไม่ตอบประเด็นคำถาม และข้อกล่าวหาของ “ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์”​ ส.ส.บัญชี​รายชื่อ รองเลขาธิการ​พรรคก้าวไกล ที่อภิปรายไม่ไว้วางใจ รมต.จุติ ในฐานะกำกับดูแลการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ว่าดำเนินโครงการ “เคหะสุขประชา” อย่างซ่อนเร้น และเพื่อแสวงหาผลประโยชน์หรือไม่ รวมถึงการแต่งตั้ง “คนสนิท” นั่งบอร์ดการเคหะแห่งชาติ ส่อเอื้อประโยชน์หรือไม่ โดยเจ้าตัวขอไปหาข้อมูลรายละเอียดก่อน จะมาตอบในสภาฯ 

แม้ “จุติ” จะใช้สิทธิ์ตอบภายหลังฝ่ายค้านอภิปรายได้ แต่ยี่ห้อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ข้อมูลต้องปึ้ก ไม่ปล่อยให้เกิดข้อสงสัยในการบริหารงาน ที่สำคัญการหายไป 20 ชั่วโมงของ “จุติ” กว่าจะมาตอบคำถามซักฟอก ทำให้ประชาชนตั้งแง่ สงสัยการทำงานของรัฐมนตรีค่าย ปชป.ไปแล้ว

ทว่า การตอบข้อกล่าวหาของ “จุติ” เคลียร์ชัดเจนหรือไม่ ยังไม่อาจตัดสินได้ ต้องรอพิสูจน์กันในขั้นตอนอื่น แต่ที่น่าห่วงกว่า คือเก้าอี้รัฐมนตรีของ “จุติ” กำลังถูกเขย่าจากคนในพรรค ปชป. อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สัญญาณจาก “หมอตี๋” สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข รองหัวหน้าพรรค ออกมายอมรับว่า “เสียงโหวตของรัฐมนตรีในพรรค คงจะเป็นเอกภาพอยู่แล้ว ต้องลงคะแนนโหวตใกล้เคียงกัน แต่อาจจะมีบางคน ที่โหวตไม่เป็นไปตามมติของพรรค ซึ่งยอมรับว่า มีสมาชิกพรรคบางคน ไม่โหวตให้นายจุติ”

สิ้นเสียงของ “หมอตี๋” บรรดา ส.ส. ปชป. เริ่มขยับเช็คเสียงสนับสนุน-เสียงไม่สนับสนุน เพราะวงในพรรค ปชป.รู้กันดีว่า มี “มือมืด” จ้องเลื่อยขาเก้าอี้ “จุติ” มาระยะหนึ่งแล้ว แต่ต้องพับแผนเอาไว้ก่อน เมื่อ “จุติ” พลาดแบบเสียทรง “มือมืด” จึงได้จังหวะรุกไล่ทันที

หากย้อนไปดูปฏิบัติการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีค่าย ปชป. เคยมีความพยายามเดินเกมกันมาแล้วในช่วงต้นปี 2565 โดย “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้ เรียกประชุม ส.ส.ภาคใต้ เรื่องวางยุทธศาสตร์การเมือง

โดยในที่ประชุมดังกล่าวมี “ส.ส.ชายรายหนึ่ง” เปิดเกมกลางที่ประชุม ส.ส.ภาคใต้ เสนอให้ปรับ “จุติ” พ้น รมว.พัฒนาสังคมฯ เนื่องจากที่ผ่านมา ถูกมองว่าไม่มีส่วนร่วมกับพรรคอย่างที่ควรจะเป็น

ทำให้ “เดชอิศม์” ออกตัวว่า กรณีดังกล่าว เป็นเพียงความเห็นของ ส.ส. แต่ยอมรับว่า เตรียมเสนอโครงสร้างกรรมการติดตามผลงานรัฐมนตรี เพื่อตรวจผลงานในช่วงโค้งสุดท้ายของ “รัฐบาล”

ว่ากันว่า ความเคลื่อนไหวของ “เดชอิศม์-ส.ส.ภาคใต้” ในครั้งนั้น ได้ไฟเขียวจาก “บิ๊กประชาธิปัตย์” ที่เปิดทาง ให้เดินเกมยึดเก้าอี้รัฐมนตรีของ “ขั้วตรงข้าม”ในพรรค หวังจัดระเบียบภายในเสียใหม่

เนื่องจาก มีกระแสข่าวว่า “จุติ” และ ส.ส.ปชป.หลายคน กลุ่มที่สนิทชิดเชื้อกัน เริ่มปันใจ-ตีตัวออกห่างพรรค โดยมีดีล “เบอร์หนึ่งตึกไทยคู่ฟ้า” ให้ย้ายไปผนึกกำลัง สู้ศึกเลือกตั้งใหญ่

ในขณะนั้น มีกระแสข่าวว่า ชื่อของ “จุติ” อยู่ในลิสต์ของ “เบอร์หนึ่งตึกไทยคู่ฟ้า” ที่จะดึงจากพรรคปชป. ทำให้ “บิ๊กเนมปชป.-เดชอิศม์” ต้องวางเกม เขี่ย “จุติ” พ้นเก้าอี้รัฐมนตรีตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อดึงโควตากลับมาให้ “เลือดแท้ ปชป.”

ทว่า “จุติ” ผ่านพ้นมรสุมในครั้งดังนั้นมาได้ เพราะ “ผู้ใหญ่ในปชป.” ออกตัวห้ามปรามกันเอาไว้ เพื่อไม่ให้สถานการณ์ภายในพรรคย่ำแย่ไปกว่านี้ เนื่องจากสถานการณ์ขาลง ในช่วงที่ผ่านมามีสมาชิกบิ๊กเนมทยอยออกจากพรรคอย่างไม่ขาดสาย

เมื่อมรสุมพัดเข้าใส่ “จุติ” อีกครั้ง ในศึกซักฟอก “ทีมเลือดใหม่ ปชป.” จึงเคลื่อนไหว เปิดตำราเลื่อยขาเก้าอี้อีกคำรบ ยิ่งเสียงโหวตภายในพรรค แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ยิ่งทำให้ “มือมืด” ฉวยโอกาสได้ง่ายขึ้น

แถมยังมีแนวร่วมจาก “พรรคเล็ก” ที่ประกาศตัวชัดเจนว่า อาจโหวตคว่ำ “จุติ” โดย“พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค” ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทรักธรรม ในนามกลุ่ม 16 ออกมาตั้งข้อสังเกต ถึงท่าทีจุติ ที่เลี่ยงตอบคำถามซักฟอก 5 ประเด็น ดังนี้ 

1. รัฐมนตรีตอบ “ส.ส.ณัฐชา” ไม่ได้ ถึงแม้จะอ้างไปหาข้อมูล แต่ประเด็นเล็กๆ น่าจะตอบได้เลย กลับไม่ตอบ

2. ส.ส.ฝ่ายค้าน อภิปรายเรื่อง กระทรวง พม. แต่ดันไปตอบเรื่องกระทรวงกลาโหมปีที่แล้ว ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง 

3. จากที่ฟังแล้ว บริษัทใหม่ที่ตั้งขึ้นมาในสมัย รมต. ส่อแวว ฮุุบสมบัติชาติของการเคหะแห่งชาติ

4. โครงการมีการแอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งคนไทยทุกคนเคารพยิ่ง แต่กลับเอาโครงการที่เสื่อมเสียเช่นนี้ มาแอบอ้าง 

5. ทุจริตในโครงการของคนจน หากำไรจากคนรายได้น้อยของประเทศ

เมื่อเสียงของ “พรรคเล็ก” ซึ่งมีความสำคัญในการกำหนดชะตาของ “รัฐมนตรี” ที่ถูกซักฟอกในระดับหนึ่ง ส่งสัญญาณโหวตคว่ำ สอดประสานกับสัญญาณจาก ปชป. ทำให้เสียงโหวต “จุติ” อยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่ง

หากเกมนี้ “ทีมเลือดใหม่ปชป.” ยืมมือพรรคเล็กคว่ำเก้าอี้รมต.“จุติ”เพื่อยึดโควตามาบริหารจัดการเอง โอกาสที่จะเกิดความขัดแย้งภายในพรรค ปชป.ย่อมมีให้เห็นอีกแน่

มิหนำซ้ำ ชั่วโมงนี้มี “อดีตบิ๊กเนม ปชป.” ที่ออกไปขับเคลื่อนพรรคใหม่ อยากจะดูดเพื่อ ส.ส.เข้าพรรค ในจังหวะใกล้เปิดตัว สถานการณ์ในค่ายสะตอ จึงน่าจับตาอย่างยิ่ง