“เพื่อไทย”ดักคอครม.ลักไก่ดันไทยเข้า CPTPP-ชี้ไร้ข้อสรุปกับทุกฝ่าย
“เพื่อไทย”ดักคอครม.ลักไก่ดันไทยเข้า CPTPP-ชี้ไร้ข้อสรุปกับทุกฝ่าย แนะเร่งการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป ขยายการลงทุน ทำให้ไทยได้ตลาดเพิ่มอีก 27 ประเทศ
น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พรุ่งนี้ (27 ก.ค. 65) คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) เตรียมชงให้คณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้ไทยเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ว่า นับแต่วันที่ กนศ. ซึ่งได้รับมอบหมายจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
โดยให้คำมั่นสัญญากับภาคประชาสังคมว่า จะทำการศึกษาที่ชัดเจนครอบคลุมถึงมาตรการรองรับผลกระทบอย่างรอบครอบ และหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกภาคส่วนเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันก่อนตัดสินใจ จนวันนี้ผ่านมาเกือบ 1 ปี ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เป็นรูปธรรม แต่กลับมีกระแสข่าวว่าเตรียมจะให้ไทยเข้าร่วม CPTPP ทั้งที่ยังขาดความพร้อมในหลายเรื่อง
น.ส.จิราพร กล่าวต่อว่า หากจะอ้างว่า เตรียมดันให้ไทยเข้าร่วมความตกลง CPTPP เพื่อขยายการค้าการลงทุน อาจเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น เพราะข้อเท็จจริงคือ ไทยมีความตกลงเสรีทางการค้า (FTA) กับสมาชิก CPTPP แล้วเกือบทั้งหมด ยกเว้นเพียงเม็กซิโก ส่วนแคนาดา ขณะนี้กำลังจัดทำ FTA อาเซียน-แคนาดา ดังนั้น ด้วยเหตุผลนี้การเข้าร่วมความตกลง CPTPP จึงไม่เกิดประโยชน์ต่อการขยายการค้าการลงทุนของไทยอย่างมีนัยะสำคัญแต่อย่างใด
ซึ่งมีข้อสังเกตว่า หากไทยต้องการขยายการค้าการลงทุนกับประเทศใหม่ๆจริง ควรเร่งการเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป ซึ่งจะทำให้ไทยได้ตลาดเพิ่มอีก 27 ประเทศ และ FTA กับสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย ซึ่งจะทำให้ไทยได้ตลาดใหม่เพิ่มขึ้นมา 5 ประเทศ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลไทยมีแผนจะทำ FTA ด้วยแต่กลับล่าช้าเป็นอย่างมาก
“รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์มีภาพลักษณ์ที่ลุแก่อำนาจ และไม่โปร่งใสในการดำเนินการมาตลอด จึงไม่แปลกใจหากจะลักไก่ดันไทยเข้าร่วม CPTPP โดยอาศัยช่วงหลังวันหยุดยาว เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากประชาชน แต่การทำเช่นนี้ไม่ส่งผลดีใดๆต่อประเทศไทยอย่างแน่นอน หากไทยเข้าร่วมความตกลง CPTPP โดยไร้การเตรียมความพร้อมที่เป็นรูปธรรมและศึกษาเชิงลึกอย่างรอบด้าน และขาดการหารือทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนทั้งหมดอย่างโปร่งใส จะทำให้ไทยเสียเปรียบ ได้ไม่คุ้มเสีย และเกิดปัญหายากเกินแก้ไขในอนาคต” น.ส.จิราพร กล่าว