"อุตตม-สนธิรัตน์" ประสานเสียงสร้างอนาคตไทยพร้อมเลือกตั้งทุกกติกา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 ก.ค.) ที่โรงแรมบุรีศรีภูฯ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการ พรรคสร้างอนาคตไทย ให้สัมภาษณ์ในระหว่างการเข้าร่วมรับฟังการเสวนาเรื่อง อนาคตภาคใต้ ถึงความคืบหน้าการหาผู้สมัครในพื้นที่ภาคใต้ของพรรคสร้างอนาคตไทย      
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคทยอยสรรหาคัดเลือกผู้สมัครที่จะร่วมเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนภาคใต้ ขณะนี้ได้ทยอยเปิดตัวผู้สมัครพื้นที่ต่างๆ ซึ่งถือว่าได้รับความสนใจ และการตอบรับที่ดีจากผู้สมัครในพื้นที่ภาคใต้ที่มีความประสงค์มาร่วมงานกับพรรคเพิ่มขึ้นตลอดเวลา พื้นที่ไหนพร้อมก็ให้เริ่มลงพื้นที่ทำงาน 

ขณะเดียวกันพรรคได้เดินหน้ารวบรวมปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อผลักดันนโยบายในการเเก้ปัญหา และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ ต้องยอมรับว่าภาคใต้เป็นภาคที่มีศักยภาพสูงมาก แต่ชะงักมานาน ทางพรรคได้มองเห็นโอกาสในการพัฒนาภาคใต้

“วันนี้เรามาร่วมรับฟังคนในพื้นที่พูดถึงปัญหาของตัวเอง เพราะคนที่อยู่ในพื้นที่คือ คนที่รู้ปัญหาดีที่สุด เราจะรวบรวมปัญหาต่างๆ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องชาวใต้”

 นายอุตตม กล่าวว่า พรรคได้รับการตอบรับที่ดีจากพื้นที่ภาคใต้ ได้พบปะทั้งภาคประชาชน สังคม ผู้ประกอบการ เขาต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ แต่เรื่องหลักคือ ปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาปากท้องที่คนไทยกำลังเผชิญ จากการสัมมนาวันนี้ ตนมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนภาคใต้ โดยเฉพาะอนาคตลูกหลานในพื้นที่ หากมีการเปลี่ยนแปลงแล้วจะมีอนาคตที่ดีขึ้นหรือไม่  อย่างไรก็ตาม ทีมงานพรรคเราได้เดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ 

ส่วนความคืบหน้าในการหาผู้สมัครพื้นที่ภาคใต้ นายอุตตม กล่าวว่า พรรคเดินหน้าเตรียมตัวสู่การเลือกตั้ง มีทีมงานในพื้นที่ภาคใต้ ที่มีคุณภาพ กำลังดำเนินการคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร มีผู้ที่แสดงความสนใจที่จะทำงานกับพรรคเราพอสมควร โดยใช้หลักคัดสรรผู้ที่จะสามารถทำงานให้กับประชาชน และพี่น้องภาคใต้ได้ดีที่สุด หัวใจสำคัญคือ ต้องเป็นผู้ที่มีความตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ เป็นที่ยอมรับ และต้องพยายามให้ได้รับการเลือกตั้งเป็นส.ส.ในนามพรรคสร้างอนาคตไทยที่อาสามาทำงานให้ประชาชน ขณะเดียวกันจิตสำนึกก็สำคัญ 

เมื่อถามว่า มุมมองทางการเมืองของคนใต้เปลี่ยนไปหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า คนใต้ต้องการ การเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งครั้งหน้า อยากเห็นบ้านเมืองเปลี่ยนแปลง อยากเห็นคนที่เข้าไปทำงานให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านที่ดีขึ้นทราบดีว่าภาคใต้คุ้นเคยกับพรรคการเมืองบางพรรค ก็ไม่เป็นไร แต่พรรคเราอาสามาเป็นอีกทางเลือกแก่ประชาชน เรามีแนวทางที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สร้างอนาคตด้วยกัน อนาคตอยู่ในมือคนใต้ 

“พรรคสร้างอนาคตไทย เราพร้อมลงเลือกตั้งทุกกติกา แต่ขอฝากไว้ว่า ขอพยายามอย่าให้เกิดความสับสน เราคนไทยจะใช้กติกาอะไร เราเป็นคนใช้สิทธิย่อมอยากรู้กติกาที่ชัดเจน หากเปลี่ยนบ่อยๆ จะสร้างความสับสน” นายอุตตม กล่าว
 

นายสนธิรัตน์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม ระบุว่า พรรคสร้างอนาคตไทยพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง พร้อมต่อกฎกติกาที่ขณะนี้ยังไม่ชัดเจน มีความสับสนเรื่องกระบวนการการเลือกตั้ง และกฎหมายลูกต่างๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องสร้างความชัดเจน หากเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และไม่มีความชัดเจนอย่างนี้ จะทำให้พี่น้องประชาชนสับสน ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจของพี่น้องประชาชน 

ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องชัดเจน เลือกเดินสักทาง ตนคิดว่าการเปลี่ยนไปมาจะสร้างความไม่เชื่อมั่นต่อระบอบประชาธิปไตย และการเลือกตั้ง ต้องมีหลักให้ชัด ทั้งนี้พรรคสร้างอนาคตไทยไม่ได้มีเงื่อนไขต่อกฎกติกา เราอาสาเข้ามาทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน พรรคพร้อมทุกรูปแบบการเลือกตั้ง แต่อยากเรียกร้องว่าขอความชัดเจน แล้วยึดหลักให้มั่นว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะเอาหลักไหนก็ยึดสักหลักหนึ่งเพื่อให้ประชาชนได้มีความมั่นใจต่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น

“ผมคิดว่าพี่น้องประชาชนกำลังมองการเมือง และติดตามการเมือง อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นโอกาสของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในหลายพื้นที่ จากการลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ เรามองว่าภาคใต้เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ยิ่งผลกระทบจากเศรษฐกิจ ปัญหาความเป็นอยู่ ปัญหาคอร์รัปชันต่างๆ  สะท้อนความรู้สึกของประชาชนที่กำลังรอการเลือกตั้งที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น”

การที่จะกลับไปใช้การหาร 100 หรือแม้กระทั่งการกลับไปใช้บัตรใบเดียวนั้น ตนคิดว่าเรื่องเหล่านี้ละเอียดอ่อนในเชิงความรู้สึกต่อพี่น้องประชาชน อยากให้เกิดความชัดเจน และอย่าสับสนมาก จะทำให้การดำเนินการทางการเมืองของฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างๆ นั้นหยุดชะงักไป ฝากไปถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องว่า อยากให้ศึกษาให้ถ่องแท้รอบคอบ กฎกติกาเปลี่ยนแปลงได้ แต่ควรจะมีจุดยืนในการเปลี่ยนแปลง

นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจเป็นปัญหาเร่งด่วนในพื้นที่ภาคใต้ เพราะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจกระจายตัวเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะเอสเอ็มอี ชาวบ้าน เกษตรกร รวมถึงสถานการณ์วิกฤติโลก มีผลกระทบต่อการเป็นอยู่ และการดำเนินชีวิต การประกอบธุรกิจของพี่น้องประชาชน นี่คือ ปัญหาเร่งด่วนของประชาชนเป็นจำนวนมาก ที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงทีก่อนมีการล้มหายตายจากของภาคธุรกิจ และการตกงานของพี่น้องประชาชน 

 

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์