"สมศักดิ์" เร่งช่วย 9,804 คน เหยื่อแชร์ลูกโซ่ FOREX-3D

     30 ก.ค.2565 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีแชร์ลูกโซ่ FOREX-3D ว่า คดีนี้มีผู้เสียหายยื่นหนังสือร้องเรียนตั้งแต่ เดือน ต.ค. 2562 มีผู้เสียหาย จำนวน 9,804 คน มูลค่าความเสียหาย 1,908 ล้านบาท โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับเป็นคดีพิเศษตั้งแต่ เดือน พ.ย. 2562 และได้จับกุมตัวผู้ต้องหาหลักในคดีนี้ พร้อมรถยนต์หรูเมื่อเดือน ม.ค. 2564

     โดยที่ผ่านมาดีเอสไอ ได้บูรณาการร่วมกับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในส่วนของการยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมาโดยตลอด โดยได้ยึดทรัพย์สิน 3 ครั้ง 184 รายการ ทั้งที่ดิน ห้องชุด บัญชีเงินฝาก รถยนต์และอื่นๆรวมมูลค่า 570 ล้านบาท และสั่งฟ้องผู้ต้องหาไป 25 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนและดำเนินการผู้กระทำผิดเพิ่มเติมอีก 16 ราย ในส่วนของทรัพย์สินนั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อเฉลี่ยทรัพย์สินคืนแก่ผู้เสียหาย

     นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในส่วนของการป้องกันการกระทำผิดเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ ทางดีเอสไอได้มีข้อสังเกตประเด็นข้อกฎหมายเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 ซึ่งส่วนสำคัญในแชร์ลูกโซ่ คือ แม่ทีม ที่เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้เกิดแชร์ลูกโซ่ เป็นผู้เข้าร่วมลงทุนรายแรกๆ และได้รับผลประโยชน์ตอบแทนจากการชักชวนผู้อื่นด้วย แต่ในกฎหมายไม่มีบทลงโทษกำหนดไว้ 

    ทางดีเอสไอเห็นว่า ควรกำหนดบทลงโทษกับแม่ทีมหรือผู้ชักชวนที่รู้เห็น ว่าการลงทุนลักษณะนี้เป็นแชร์ลูกโซ่ ซึ่งควรแก้ไขในมาตรา 5/1 เพราะการลงโทษแม่ทีมหรือผู้ชักชวน จะเป็นการตัดข้อต่อของแชร์ลูกโซ่ได้ตั้งแต่ต้น แต่ก็ยังจะสามารถให้สิทธิกันแม่ทีมไว้เป็นพยาน เพื่อนำไปสู่การจับต้นตออีกด้วย 

     ในเรื่องของการปรับแก้กฎหมายที่มีมานานให้สอดคล้องกับบริบทของปัจจุบันเป็นสิ่งที่เราควรทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน โดยอาจจะศึกษากฎหมายของประเทศอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วยว่า สิ่งไหนเหมาะกับบ้านเราหรือไม่

    "ในส่วนของคดี FOREX-3D ผมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะคดีนี้มีคนเดือดร้อนจำนวนมาก ผู้เสียหายอยากได้เงินคืน ซึ่งหากเราจะแก้กฎหมายก็ให้คำนึงถึงวิธีการอายัดเงินให้เร็วด้วย เพื่อไม่ให้คนร้ายยักย้ายถ่านโอนเงินออกนอกประเทศได้ โดยอาจจะต้องหารือกับทาง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสถาบันการเงินต่างๆ ให้ช่วยแนะนำในเรื่องนี้ด้วย" นายสมศักดิ์ กล่าว