“มท.1” สั่งสอบ “นายอำเภอ” ปมผับ “เมาท์เทน บี” จ่อฟันไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
“มท.1” แจง ส.ว.ปมเพลิงไหม้ผับ “เมาท์เทน บี” ยันแม้ไม่เกี่ยว แต่ไม่ปัดความรับผิดชอบ สั่งตั้งกรรมการสอบฯ “นายอำเภอ” จ่อฟันวินัย-อาญา ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เจตนากระทำผิดคอร์รัปชัน-มีส่วนได้เสียหรือไม่
เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2565 ที่รัฐสภา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจา ที่ตั้งโดยนายวันชัย สอนศิริ ส.ว. กรณีเหตุการณ์เพลิงไหม้สถานบันเทิง “เมาน์เทน บี” อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตหลายราย ว่า การบริหารราชการแผ่นดินคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่ารัฐมนตรีทั้งหลายจะต้องรับผิดชอบ ดังนั้นคงไม่บอกว่าไม่เกี่ยว แต่ต้องรับผิดชอบ โดยสั่งการให้ทุกส่วนทำตามอำนาจหน้าที่โดยยึดประชาชนเป็นหลัก และยึดหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส รับผิดชอบ ไม่มีผลประโยชน์ ไม่มีพวกพ้อง กรณีสถานประกอบการ “เมาน์เทน บี” เป็นอำนาจของท้องถิ่นในการให้อนุญาต ตนไม่ได้กำกับท้องถิ่นโดยตรง คนที่กำกับท้องถิ่นคือผู้ว่าราชการจังหวัด ยกตัวอย่าง กทม. คือนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ทำอะไรก็ไม่เคยบอก ไม่ว่าจะขึ้นหรือลดราคาค่าโดยสารก็ตาม แต่ถ้าท่านไม่ทำความผิดอะไรไปยุ่งไม่ได้ เช่นเดียวกับท้องถิ่นที่เขาทำเป็นไปตามอำนาจหน้าที่หรือไม่ ถ้าไม่สุจริตหรือมีร้องเรียนก็ต้องมีการสอบข้อเท็จจริง
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า กรณี “เมาน์เทน บี” เป็นการขออนุญาตท้องถิ่น ขอจดทะเบียนเป็นร้านอาหาร และเปิดกิจการเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2565 ที่ผ่านมา แต่เมื่อดำเนินการจริงกลับเปิดเป็นสถานบริการ ดังนั้น ขั้นต้นท้องถิ่นต้องรับผิดชอบแน่นอน ส่วนผู้ประกอบการก็จงใจเจตนาที่จะดำเนินการ ทั้งที่พื้นที่ก่อสร้างอยู่ในเขตโซนนิ่งไม่สามารถได้ จึงขออนุญาตเป็นร้านอาหารถือเป็นการขอจดทะเบียนผิดประเภท ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หากพิจารณาตามกฎหมายที่ฝ่ายปกครองถืออยู่ ถือว่ามีความผิดด้วย สรุปว่าขณะนี้พิจารณาตามสิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่ยังไม่ได้ดูผลการสอบ ทั้งสองส่วนคือท้องถิ่น และฝ่ายปกครอง จะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย
“ขั้นต้นมีคำสั่งย้ายนายอำเภอ พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว ซึ่งเจตนากระทำผิดคอร์รัปชัน มีผลประโยชน์ มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือปล่อยปละละเลยหรือไม่ จะต้องดำเนินการพิสูจน์กัน ยืนยันว่า ผมไม่ปล่อยปละละเลย และได้ออกหนังสือเวียนทั่วประเทศให้กวดขันไม่ให้มีการใช้อาคารผิดประเภท หรือประกอบกิจการที่ไม่ได้รับอนุญาต ส่วนอนาคตที่ผมคิดว่าจะต้องดำเนินการ คงไม่พ้นเรื่องการลงโทษแบบเข้มงวด ต้องลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่าง ไม่ให้เกิดการอะลุ่มอล่วย กรณีที่เกิดขึ้นกับเมาท์เทน บี ถือว่าเข้าข่ายผิดทั้งทางวินัย และอาญา” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว